เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 07:17:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 11 12 13 [14] 15 16 17 ... 73
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาภาพยนต์ และประวัติศาสตร์การสงคราม  (อ่าน 225222 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #195 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 07:04:39 PM »

The Kingdom, "ซาเรน่า",  และ "สปาย วอร์" ... นายสมชายขอหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ...

ผมดู The Kingdom แล้ว............ เรื่องนี้สนุกมาก
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
สุกรจากโลกันต์
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 68
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 583



« ตอบ #196 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 09:34:20 PM »

ผมชอบแบบ ยุคกลางมากกว่าครับ พวกคิงอาร์เธอร์ เทอร์ทีนวอริเออร์ มูซานี่ โปรดเลย พวกลอร์ด หรือนาเนียผมก็ชอบ
บันทึกการเข้า

สีใหนก็ช่าง ถึงยังไงก็เป็นคนไทย อยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาท
ถือเป็นมงคลแห่งชีวิต
ยังรักสาวขเมร จะเจ็บอีกกี่ทีก็ยอม
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #197 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 20, 2009, 10:56:39 PM »

ขออนุญาตขุดกระทู้ครับเผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ อยากคุย
 
เนื่องจากช่วงนี้ภาพยนต์เรื่อง Valkyrie กำลังฉาย เป็นเรื่องการพยายามสังหารฮิตเล่อร์ของคณะนายทหารบก โดยการวางระเบิดในวันที่ 20 ก.ค. 1944

ผม (รีบ) ไปดูมาแล้ว อิ อิ ขอแนะนำว่าผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์การเมือง การสงครามโลก ครั้งที่ 2 น่าจะดู

ท่านที่ยังไม่ได้ดูข้ามช่วงต่อไปนี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะไม่สนุก

อย่างไรก็ตามมีข้อติบางอย่าง

1. อารมณ์ของเรื่อง

ความเป็นดราม่าของเรื่องน้อยไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าควรใช้ดาราที่หน้าตาดราม่ามากๆ เช่น ราฟ ไฟน์ แทน ทอม ครูส

2.ฉาก

 2.1 ในเรื่องไม่ได้แสดงถึงความกดดันต่อคน/ทหารเยอรมันว่าตอนนั้นสงครามทำให้เยอรมัน/ยุโรป พินาศสันตะโรไปเท่าไหร่ ทำให้เกิดความคิดว่าต้องกำจัดระบบการปกครองของฮิตเล่อร์เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ในเรื่องไม่มีฉากเมืองที่พัง ความกดดัน/กดขี่ของนาซีต่อคนเยอรมันเอง สภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นจากสงคราม บ้านเมืองที่สร้างมาใหญ่โตหลังฟื้นจากเศรษฐกิจถอถอยก็มาพังลง รวมทั้งอาคารทางประวัติศาสตร์ของเยอรมันทุกยุคที่ผ่านมาด้วย ชาวบ้าน/ทหารทำงานเสียสละเต็มที่แต่ผู้นำเอาตัวรอดและบ้า เช่น ความจริงที่ว่าฮิตเล่อร์ไม่ยอมไปเยี่ยมเมืองที่ถูกบอร์ดเพราะกลัวเห็นภความจริงแล้วใจอ่อนไม่อยากรบต่อ จุดนี้ไม่มีในภาพยนต์เลย มีเพียงแค่ครอบครัวหลบหลุมหลบภันในบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดลง ฉากเดียว และยังแสดงความเป็นอยู่เหมือนปรกติมากๆ ตึกต่างๆ ในเบอร์ลินไม่มีร่องรอยเสียหายแม้แต่น้อย มีน้ำมันใช้รถส่วนตัวกันสบายๆ ด้วย "ทำให้สื่อสารแสดงแก่นของเรื่องได้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้สนใจข้อมูลของเหตุการณ์มาก่อน"

เรื่องนี้ถึงแม้ไม่มีงบสร้างฉากก็ควรนำเสนอผ่านบทสนทนา เช่น ข่าวเมืองเยอรมันที่โดนบอร์ม ถึงแม้ตามจริงทางการจะไม่ออกข่าวความสูญเสียมาก แต่ก็ควรแสดงให้เห็นว่าตัวละครรู้ว่าถูกบอร์มหนักๆ แต่ละครั้งต้องมีคนตายครั้งละหลายหมื่นคน

2.2 ไม่ได้แสดงถึงอำนาจครอบงำของนาซีในสังคมเท่าที่ควร และไม่ได้แสดงถึงอานุภาพของระบอบการปกครอง นำเสนอน้อยไปว่าสิ่งที่ผู้ต้องต้านคิดกระทำนั้นใหญ่หลวงนัก ต่อต้านกับอำนาจที่ครอบงำ และสั่งการกำลังการเมืองที่ปกครองคนหลายร้อยล้านคน และคุมกำลังทหาร 8-9 ล้านคน

ถ้าไม่อยากทำภาพความยิ่งใหญ่เข้มแข็งของนาซี แต่ก็ควรสร้างฉากตัวแทนได้ เช่น ตำรวจลับจับชาวบ้านที่ไม่จงรักภักดีเล็กๆ น้อยๆ ไปเข้าค่ายกักกัน

3. ข้อมูล

ไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการหลักในเรื่อง เช่น เมื่อผุ้ก่อการแพ้ ฮิตเล่อร์ก็ออกคลั่ง สั่งกวาดล้างฆ่าผู้ต้องสงสัยไปประมาณ 2,500 คน รวมทั้งคนที่เป็นกำลังของประเทศ เช่น จอมพลรอมเมล และข้อมูลว่านายพันตรีกำลังหนุนที่ฮิตเล่อร์พูดโทรศัพท์โดยตรงให้ไปจับพวกก่อการได้เลื่อนยศเป็นพันเอกเลย ข้อมูลนี้ควรจะมีเพื่อเป็นการเน้นถึงความแหลวแหลกของระบอบผู้นำเผด็จการ เสริมความสำคัญของการก่อการ


ข้อชมครับ

1.เนื่อเรื่อง

สร้างถูกต้องตามเหตุการณ์จริงดีครับ

2. รายละเอียดการสร้าง

2.1 อุปกรณ์ถูกต้องดี เครื่องบินก็ถูกรุ่นตามที่ควรจะเป็น เช่น เครื่องบินโดยสาร Ju52 ฉากสนามบินก็เห็น Me109 ในโรงเก็บ ชเตาเฟนแบร์ก ถูกยิงที่แขนตอนคณะก่อการแพ้จริง แต่มีฉากหนึ่งที่ขึ้นลำปืน PPK โดยเอาลำกล้องกดกับโต๊ะ จุดนี้ไม่แน่ในว่าธรรมเนียมปฏิบัติทหารเยอรมันสมัยนั้นเขาพกปืนดับเบิ้ล/ซิงเกิลขึ้นลำไว้ตลอดหรือไม่ หรือเป็นเพียงการที่ผู้สร้างต้องการแสดงการเตรียมสู้ขั้นสุดท้ายให้เห็นชัดๆ ตามแนวภาพยนต์

2.2 ตัวละคร พยายามสร้างให้ถูกต้องดี ทอม ครูส สูงแค่ 169 ซม มีฉากยืนข้างฮิตเล่อร์ ผู้สร้างก็หาคนเตี้ยกว่ามาแสดงเป็นฮิตเล่อร์ และใช้มุมกล้องช่วยด้วย ตามจริงแล้ว ฮิตเล่อร์สูง 173-175 ซม. (แล้วแต่แหล่งข้อมูล) ส่วน ชเตาเฟนแบร์ก ดูตามภาพควรสูง 187-190 ซม.


ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งก็คือ หนังเรื่องหนึ่งความยาวไม่เกิน 3 ชั่วโมง ไม่มีทางที่จะทำทุกอย่างได้หมด
คนทำหนังต้องเลือกครับว่าจะพูดถึงเรื่องอะไรเป็นหลัก
หากจำฉากเปิดเรื่องของหนัง Valkyrieได้ หนังบรรยายถึงเกียรติยศของทหาร
และคำสัตย์ที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด
ประเด็นของหนังอยู่ตรงนี้ครับ
เป็นเรื่องของเกียรติยศของทหาร และการตัดสินใจว่าจะทำเพื่อประเทศชาติหรือเพื่อตัวบุคคล
บางครั้งหลายคนก็สับสน เข้าใจว่า ฮิตเลอร์คือเยอรมัน
หนังทั้งเรื่องก็พูดถึงประเด็นนี้ครับ
นอกนั้นก็เป็นรายละเอียด เรื่องนัดแล้วไม่มา
หรือถ้าฝ่ายก่อการไม่ลังเล สถานการณ์อาจพลิกไปอีกอย่าง
และวีซาฮิตเลอร์อาจหมดอายุแค่นั้นก็ได้
ส่วนประเด็นอื่น อย่างความกดดัน หรือความฉิบหายของยุโรป ที่คุณคิดว่าขาดไป
ผมคิดว่าเป็นพลความครับ เป็นเรื่องที่ละไว้ได้ฐานที่เข้าใจครับ
เอามาพูดมากเดี๋ยวหนังจะยาวเกินความจำเป็น
ฉากความวิบัติก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ จำฉากโบสถ์ที่พระเอกถูกทาบทามตอนต้นเรื่องได้หรือเปล่า
หรือประเด็นการจับตัวผู้คน ผมคิดว่าในช่วงปลายสงครามแล้ว คงไม่เกิดแล้วครับ
ส่วนฉากที่พระเอกเห็นลูกเมียกลัวจนตัวสั่นตอนหลบระเบิด
ผมว่าเป็นสิ่งที่ทำให้พระเอกตัดสินใจทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ
เพราะความตายมันใกล้ลูกเมียเข้ามาทุกที
เรื่องความขาดแคลน อาทิเช่น น้ำมัน
ถ้าจะมีก็เฉพาะในหมู่พลเรือน ฝ่ายทหารคงไม่ขาดแคลนหรอกครับ
ส่วนจุดอื่น อย่างเรื่อง casting ผมขออนุญาตไม่ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
สุดท้าย จากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ
ผมเสนอว่าสิ่งสำคัญในการพูดหรือการวิจารณ์หนังคือ
ต้องตีความให้ได้ว่าผู้สร้างต้องการสื่อสารอะไร
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับ...เราต้องการให้หนังมีอะไรหรือเป็นอย่างไร

บันทึกการเข้า
bobby
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 16
ออฟไลน์

กระทู้: 544


« ตอบ #198 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 10:19:32 AM »

ผมก็ชอบหนังactionมากครับ

- เพิ่งได้ดูเรื่องมิวนิค เพราะใช้ฉากสวย เดินเรื่องสนุกดีครับ

- หนังสงครามโลกครั้งที่สองก็ชอบมากครับ ได้ดู Objective Burma หนังสงครามขาวดำรุ่นเก่ามาก สร้างตอนที่ยังรบกันญี่ปุ่น ใช้อุปกรณ์จริง สนุกดีครับ กำลังจะตั้งใจดู Never so few, Go for Broke, Back to Batan ฯลฯ

- อีกเรื่อง ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ครับ (ฉายทางยูบีชี - ใครจำได้ช่วยบอกด้วยครับ จะได้ไปหาชื้อ) เป็นหนังสายลับยุโรปสู้กัน คล้ายๆกันโรนิน พวกพระเอกหนีด้วยรถ BMW E30 ชอบมากครับ เพราะเคยมีแต่งซิ่ง

ชอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 10:27:23 AM โดย bobby » บันทึกการเข้า
bobby
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 16
ออฟไลน์

กระทู้: 544


« ตอบ #199 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 10:23:22 AM »

The Kingdom, "ซาเรน่า",  และ "สปาย วอร์" ... นายสมชายขอหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ...

ผมดู The Kingdom แล้ว............ เรื่องนี้สนุกมาก
ผมก็ดูครับพี่มะขิ่น สนุกมากๆ แต่ทำไมต้องให้นายทหารซาอุฯ ตายด้วยก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเลยครับ
คล้ายๆกันก็มี vantage pointครับ วนไปวนมาดี
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #200 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 01:36:57 PM »

ขออนุญาตขุดกระทู้ครับเผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ อยากคุย
 
เนื่องจากช่วงนี้ภาพยนต์เรื่อง Valkyrie กำลังฉาย เป็นเรื่องการพยายามสังหารฮิตเล่อร์ของคณะนายทหารบก โดยการวางระเบิดในวันที่ 20 ก.ค. 1944

ผม (รีบ) ไปดูมาแล้ว อิ อิ ขอแนะนำว่าผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์การเมือง การสงครามโลก ครั้งที่ 2 น่าจะดู

ท่านที่ยังไม่ได้ดูข้ามช่วงต่อไปนี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะไม่สนุก

อย่างไรก็ตามมีข้อติบางอย่าง

1. อารมณ์ของเรื่อง

ความเป็นดราม่าของเรื่องน้อยไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าควรใช้ดาราที่หน้าตาดราม่ามากๆ เช่น ราฟ ไฟน์ แทน ทอม ครูส

2.ฉาก

 2.1 ในเรื่องไม่ได้แสดงถึงความกดดันต่อคน/ทหารเยอรมันว่าตอนนั้นสงครามทำให้เยอรมัน/ยุโรป พินาศสันตะโรไปเท่าไหร่ ทำให้เกิดความคิดว่าต้องกำจัดระบบการปกครองของฮิตเล่อร์เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ในเรื่องไม่มีฉากเมืองที่พัง ความกดดัน/กดขี่ของนาซีต่อคนเยอรมันเอง สภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นจากสงคราม บ้านเมืองที่สร้างมาใหญ่โตหลังฟื้นจากเศรษฐกิจถอถอยก็มาพังลง รวมทั้งอาคารทางประวัติศาสตร์ของเยอรมันทุกยุคที่ผ่านมาด้วย ชาวบ้าน/ทหารทำงานเสียสละเต็มที่แต่ผู้นำเอาตัวรอดและบ้า เช่น ความจริงที่ว่าฮิตเล่อร์ไม่ยอมไปเยี่ยมเมืองที่ถูกบอร์ดเพราะกลัวเห็นภความจริงแล้วใจอ่อนไม่อยากรบต่อ จุดนี้ไม่มีในภาพยนต์เลย มีเพียงแค่ครอบครัวหลบหลุมหลบภันในบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดลง ฉากเดียว และยังแสดงความเป็นอยู่เหมือนปรกติมากๆ ตึกต่างๆ ในเบอร์ลินไม่มีร่องรอยเสียหายแม้แต่น้อย มีน้ำมันใช้รถส่วนตัวกันสบายๆ ด้วย "ทำให้สื่อสารแสดงแก่นของเรื่องได้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้สนใจข้อมูลของเหตุการณ์มาก่อน"

เรื่องนี้ถึงแม้ไม่มีงบสร้างฉากก็ควรนำเสนอผ่านบทสนทนา เช่น ข่าวเมืองเยอรมันที่โดนบอร์ม ถึงแม้ตามจริงทางการจะไม่ออกข่าวความสูญเสียมาก แต่ก็ควรแสดงให้เห็นว่าตัวละครรู้ว่าถูกบอร์มหนักๆ แต่ละครั้งต้องมีคนตายครั้งละหลายหมื่นคน

2.2 ไม่ได้แสดงถึงอำนาจครอบงำของนาซีในสังคมเท่าที่ควร และไม่ได้แสดงถึงอานุภาพของระบอบการปกครอง นำเสนอน้อยไปว่าสิ่งที่ผู้ต้องต้านคิดกระทำนั้นใหญ่หลวงนัก ต่อต้านกับอำนาจที่ครอบงำ และสั่งการกำลังการเมืองที่ปกครองคนหลายร้อยล้านคน และคุมกำลังทหาร 8-9 ล้านคน

ถ้าไม่อยากทำภาพความยิ่งใหญ่เข้มแข็งของนาซี แต่ก็ควรสร้างฉากตัวแทนได้ เช่น ตำรวจลับจับชาวบ้านที่ไม่จงรักภักดีเล็กๆ น้อยๆ ไปเข้าค่ายกักกัน

3. ข้อมูล

ไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการหลักในเรื่อง เช่น เมื่อผุ้ก่อการแพ้ ฮิตเล่อร์ก็ออกคลั่ง สั่งกวาดล้างฆ่าผู้ต้องสงสัยไปประมาณ 2,500 คน รวมทั้งคนที่เป็นกำลังของประเทศ เช่น จอมพลรอมเมล และข้อมูลว่านายพันตรีกำลังหนุนที่ฮิตเล่อร์พูดโทรศัพท์โดยตรงให้ไปจับพวกก่อการได้เลื่อนยศเป็นพันเอกเลย ข้อมูลนี้ควรจะมีเพื่อเป็นการเน้นถึงความแหลวแหลกของระบอบผู้นำเผด็จการ เสริมความสำคัญของการก่อการ


ข้อชมครับ

1.เนื่อเรื่อง

สร้างถูกต้องตามเหตุการณ์จริงดีครับ

2. รายละเอียดการสร้าง

2.1 อุปกรณ์ถูกต้องดี เครื่องบินก็ถูกรุ่นตามที่ควรจะเป็น เช่น เครื่องบินโดยสาร Ju52 ฉากสนามบินก็เห็น Me109 ในโรงเก็บ ชเตาเฟนแบร์ก ถูกยิงที่แขนตอนคณะก่อการแพ้จริง แต่มีฉากหนึ่งที่ขึ้นลำปืน PPK โดยเอาลำกล้องกดกับโต๊ะ จุดนี้ไม่แน่ในว่าธรรมเนียมปฏิบัติทหารเยอรมันสมัยนั้นเขาพกปืนดับเบิ้ล/ซิงเกิลขึ้นลำไว้ตลอดหรือไม่ หรือเป็นเพียงการที่ผู้สร้างต้องการแสดงการเตรียมสู้ขั้นสุดท้ายให้เห็นชัดๆ ตามแนวภาพยนต์

2.2 ตัวละคร พยายามสร้างให้ถูกต้องดี ทอม ครูส สูงแค่ 169 ซม มีฉากยืนข้างฮิตเล่อร์ ผู้สร้างก็หาคนเตี้ยกว่ามาแสดงเป็นฮิตเล่อร์ และใช้มุมกล้องช่วยด้วย ตามจริงแล้ว ฮิตเล่อร์สูง 173-175 ซม. (แล้วแต่แหล่งข้อมูล) ส่วน ชเตาเฟนแบร์ก ดูตามภาพควรสูง 187-190 ซม.


ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งก็คือ หนังเรื่องหนึ่งความยาวไม่เกิน 3 ชั่วโมง ไม่มีทางที่จะทำทุกอย่างได้หมด
คนทำหนังต้องเลือกครับว่าจะพูดถึงเรื่องอะไรเป็นหลัก
หากจำฉากเปิดเรื่องของหนัง Valkyrieได้ หนังบรรยายถึงเกียรติยศของทหาร
และคำสัตย์ที่จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด
ประเด็นของหนังอยู่ตรงนี้ครับ
เป็นเรื่องของเกียรติยศของทหาร และการตัดสินใจว่าจะทำเพื่อประเทศชาติหรือเพื่อตัวบุคคล
บางครั้งหลายคนก็สับสน เข้าใจว่า ฮิตเลอร์คือเยอรมัน
หนังทั้งเรื่องก็พูดถึงประเด็นนี้ครับ
นอกนั้นก็เป็นรายละเอียด เรื่องนัดแล้วไม่มา
หรือถ้าฝ่ายก่อการไม่ลังเล สถานการณ์อาจพลิกไปอีกอย่าง
และวีซาฮิตเลอร์อาจหมดอายุแค่นั้นก็ได้
ส่วนประเด็นอื่น อย่างความกดดัน หรือความฉิบหายของยุโรป ที่คุณคิดว่าขาดไป
ผมคิดว่าเป็นพลความครับ เป็นเรื่องที่ละไว้ได้ฐานที่เข้าใจครับ
เอามาพูดมากเดี๋ยวหนังจะยาวเกินความจำเป็น
ฉากความวิบัติก็ใช่ว่าจะไม่มีนะครับ จำฉากโบสถ์ที่พระเอกถูกทาบทามตอนต้นเรื่องได้หรือเปล่า
หรือประเด็นการจับตัวผู้คน ผมคิดว่าในช่วงปลายสงครามแล้ว คงไม่เกิดแล้วครับ
ส่วนฉากที่พระเอกเห็นลูกเมียกลัวจนตัวสั่นตอนหลบระเบิด
ผมว่าเป็นสิ่งที่ทำให้พระเอกตัดสินใจทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ
เพราะความตายมันใกล้ลูกเมียเข้ามาทุกที
เรื่องความขาดแคลน อาทิเช่น น้ำมัน
ถ้าจะมีก็เฉพาะในหมู่พลเรือน ฝ่ายทหารคงไม่ขาดแคลนหรอกครับ
ส่วนจุดอื่น อย่างเรื่อง casting ผมขออนุญาตไม่ขอแสดงความคิดเห็นนะครับ
สุดท้าย จากประสบการณ์ส่วนตัวล้วนๆ
ผมเสนอว่าสิ่งสำคัญในการพูดหรือการวิจารณ์หนังคือ
ต้องตีความให้ได้ว่าผู้สร้างต้องการสื่อสารอะไร
ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับ...เราต้องการให้หนังมีอะไรหรือเป็นอย่างไร



 หลงรักขอบคุณครับพี่ จำบยางฉากได้ครับ เพิ่งดูวันเข้าเย็นพฤหัสเลย Grin

เรื่องขาดแคลน เขาปันส่วนทุกอย่างจริงๆ ครับ ถึงทหารแนวหน้าอาจได้บางอย่างมากกว่าแต่ทหารในเมืองได้เท่าประชาชน เท่าที่จำได้จากที่เคยพบข้อมูล

อาหาร เนื้อ/1 สัปดาห์
ทหารแนวหน้า 250 กรัม
ทหารแนวหลัง ข้าราชการแนวหลัง ประชาชนเยอรมัน 100 กรัม
ประชาชนในประเทศยึดครอง 50 กรัม

กาแฟ เสื้อผ้า รองเท้า ทุกอย่างปันส่วนด้วยคูปองอย่างเคร่งครัด

เรื่องน้ำมันจริงๆ ก็ขาดแคลนมากๆ ครับ ใช้ส่วนตัวคงต้องระดับสมาชิกพรรคตำแหน่งสูงมากๆ ตอนปลายสงคราม Albert Speer เข็นการผลิตออกมาได้มาก เช่นเรื่องหนึ่ง เครื่องบิน Me109 เฉพาะรุ่นนี้รุ่นเดียว เดือนละ 2,500 ลำ (ปี 1944) มากกว่าสมัย Udet รับผิดชอบตอนต้นสงคราม แต่ส่วนมากใช้บินรบไม่ได้จริงเพราะไม่มีน้ำมันจะฝึกนักบิน ให้นักบินขึ้นบิน นักบินขึ้นบินแล้วทำความเสียหายให้ข้าศึกไม่ได้มีโทษเพราะเสียน้ำมันเปล่า ทรัพยากรสำคัญที่สุดที่แตกต่างปลายสงครามคือน้ำมันมากกว่าอาวุธยุทธภัณฑ์
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #201 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 01:42:22 PM »

ผมชอบแบบ ยุคกลางมากกว่าครับ พวกคิงอาร์เธอร์ เทอร์ทีนวอริเออร์ มูซานี่ โปรดเลย พวกลอร์ด หรือนาเนียผมก็ชอบ

เรื่องยุคกลางผมก็ชอบครับ ชอบที่สุด El Cid กับ Ben Hur เร็วๆ นี้มีเรื่อง Outlander ยุคไวกิ้งปนแฟนตาซีอวกาศ เข้าเมื่อไหร่คงต้องไปดูครับ อิ อิ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #202 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 01:47:50 PM »

ขอเสนอ พี่สมชายอีกเรื่อง ครับ " In the name of the farther "   และ " The Boxer"
เรื่องแรก หาแผ่นยากหน่อย ผมยังไม่เคยเจอวางขายเลย   เรื่องจริง ของผู้ถูกปรักปรำ ว่าเป็น IRA เป็นผู้วางระเบิดในกรุงลอนดอน ติดคุกฟรีทั้งครอบครัว 16 ปี   มีฉากการรบกันใน กรุง เบลฟาส ไอร์แลนด์เหนือ   เป็นหนังที่ไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย แต่คนดูหนังทุกคนบอกว่า แม้ไม่มีรางวัล แต่หนัง เยี่ยมมาก   เยี่ยม เยี่ยม

อีกเรื่อง โรแมนติกน้ำเน่า  กล่าวถึงชีวิตของนักรบ IRA ที่ออกจากคุก  แล้วต้องกลับไปใช้ชีวิตในชุมชนเดิม  ซึ่งตนเองหันหลังให้กะความขัดแย้งแล้ว  และมุ่งสร้าง โรงยิม มวย  เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าแก่เยาวชน   ต้องต่อสู้กะคนสองนิกาย  สู้กะนักรบหัวรุนแรงในท้องถิ่นที่แสดงตัวคุกคามห้ามไม่ไห้  เมีย ของสมาชิกที่ติดคุก  ไม่ให้มีสามีใหม่  

ส่วนตัวแล้วระยหลัง ผมไม่ให้เครดิต ออสการ์ แล้วครับ   ยี๊

ขอบคุณครับ ผมไม่เคยได้ยินเรื่องที่สองเลย เรื่องไอร์แลนด์เหนือ ผมว่า Michael Collins ก็ดี แนวการเมือง
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #203 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 03:52:30 PM »

ขออนุญาตคุณ wilhelm Tell ไม่ quote ข้อความนะครับ เพราะมันจะทำให้กระทู้ยาวเกินจำเป็น
เข้าเรื่องนะครับ
เรื่องปันส่วน ผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง
ประเด็นของผมอยู่ที่ประเด็นของหนัง และวิธีในการประเมินคุณค่าของหนังครับ
ว่ากันเฉพาะใน Valkyrie ล้วนๆ เนื้อหนังเขาก็ทำจำกัดวง
พล็อตหลักอยู่ที่ตัวเอกที่หาญทำรัฐประหาร หนังชี้แรงบันดาลใจให้พระเอกยอมเสี่ยงชีวิตหลายตอน
แรกสุดก็คือฉากเปิดเรื่อง ที่พระเอกต้องการรักษาชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา กล้าปฏิเสธคำสั่งที่ได้รับ
ประเด็นต่อมาคือฉากที่พระเอกต้องไปแจกเหรียญให้กับทหารที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
และอีกประเด็นสำคัญคือฉากที่ลูกเมียกลัวระเบิดจนตัวสั่นตอนหลบในห้องใต้ดินที่บ้าน
ส่วนพล็อตรองคือการทำรัฐประหาร
เรื่องราวทั้งหมดมันก็วนอยู่แต่ตรงนี้ ซึ่งผมว่าพอแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปพูดเรื่องอื่น
ในความคิดของผม การวิจารณ์ก็ควรจะตีกรอบจำกัดวงครับ
ว่ากันเฉพาะสิ่งที่คนทำหนังต้องการนำเสนอ และกลเม็ดในการนำเสนอ
จะเอาทุกเรื่องอย่างเช่นข้อเท็จจริงมาบวกเข้าไปไม่ได้ครับ
เพราะหนังเขาพูดเฉพาะประเด็นหนึ่งประเด็นใด อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น
สำหรับข้อเท็จจริงที่คุณนำเสนอ ถือเป็นความรู้ต่อยอด เป็นของแถมสำหรับการดูหนัง (เรื่องนี้) ครับ
ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นชี้ข้อดีข้อเสียของหนัง

อีกนิดครับ ขออนุญาตถามหน่อยครับ
คุณ Wilhelm Tell ทำงานวิจารณ์หนังที่ไหนครับ
ไม่ทราบว่าบอกได้หรือไม่
แจ้งทาง pm ก็ได้ครับ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #204 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 06:42:20 PM »

The Kingdom, "ซาเรน่า",  และ "สปาย วอร์" ... นายสมชายขอหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ...

ผมดู The Kingdom แล้ว............ เรื่องนี้สนุกมาก

งั้นนายสมชายหมายหัวหนังเรื่องนี้สองหมายเลยครับ... แปลว่าจะหามาดูในสามสี่วันนี้เลย... เย้
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #205 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 06:45:08 PM »

The Kingdom, "ซาเรน่า",  และ "สปาย วอร์" ... นายสมชายขอหมายหัวเอาไว้ตั้งแต่วันนี้เลยครับ...

ผมดู The Kingdom แล้ว............ เรื่องนี้สนุกมาก

งั้นนายสมชายหมายหัวหนังเรื่องนี้สองหมายเลยครับ... แปลว่าจะหามาดูในสามสี่วันนี้เลย... เย้

ดูแล้วอย่าเผลอไปซื้อกางเกง 5.11 มาใส่นะครับ   ตัวเองในเรื่องใส่เสื้อผ้ายี่ห้อนี้  Cheesy
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #206 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 06:54:13 PM »

ขออนุญาตคุณ wilhelm Tell ไม่ quote ข้อความนะครับ เพราะมันจะทำให้กระทู้ยาวเกินจำเป็น
เข้าเรื่องนะครับ
เรื่องปันส่วน ผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง
ประเด็นของผมอยู่ที่ประเด็นของหนัง และวิธีในการประเมินคุณค่าของหนังครับ
ว่ากันเฉพาะใน Valkyrie ล้วนๆ เนื้อหนังเขาก็ทำจำกัดวง
พล็อตหลักอยู่ที่ตัวเอกที่หาญทำรัฐประหาร หนังชี้แรงบันดาลใจให้พระเอกยอมเสี่ยงชีวิตหลายตอน
แรกสุดก็คือฉากเปิดเรื่อง ที่พระเอกต้องการรักษาชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา กล้าปฏิเสธคำสั่งที่ได้รับ
ประเด็นต่อมาคือฉากที่พระเอกต้องไปแจกเหรียญให้กับทหารที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
และอีกประเด็นสำคัญคือฉากที่ลูกเมียกลัวระเบิดจนตัวสั่นตอนหลบในห้องใต้ดินที่บ้าน
ส่วนพล็อตรองคือการทำรัฐประหาร
เรื่องราวทั้งหมดมันก็วนอยู่แต่ตรงนี้ ซึ่งผมว่าพอแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปพูดเรื่องอื่น
ในความคิดของผม การวิจารณ์ก็ควรจะตีกรอบจำกัดวงครับ
ว่ากันเฉพาะสิ่งที่คนทำหนังต้องการนำเสนอ และกลเม็ดในการนำเสนอ
จะเอาทุกเรื่องอย่างเช่นข้อเท็จจริงมาบวกเข้าไปไม่ได้ครับ
เพราะหนังเขาพูดเฉพาะประเด็นหนึ่งประเด็นใด อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น
สำหรับข้อเท็จจริงที่คุณนำเสนอ ถือเป็นความรู้ต่อยอด เป็นของแถมสำหรับการดูหนัง (เรื่องนี้) ครับ
ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นชี้ข้อดีข้อเสียของหนัง

อีกนิดครับ ขออนุญาตถามหน่อยครับ
คุณ Wilhelm Tell ทำงานวิจารณ์หนังที่ไหนครับ
ไม่ทราบว่าบอกได้หรือไม่
แจ้งทาง pm ก็ได้ครับ

นายสมชายว่าอย่าซีเรียสมากเลยครับ... คุณต๊อกจะทำงานวิจารณ์หนังที่ไหนอย่างไร นายสมชายไม่สนใจเลยนะครับ...

นายสมชายดูหนังไม่มากเท่าไหร่แค่ดูใน HBO ไม่ได้ เพราะเจอแต่หนังดูแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และก็มีความเห็นว่าคนวิจารณ์หนังตามนิตยสารที่ว่าเยี่ยมแล้วก็ยังไม่เยี่ยมจริงเท่าไหร่หรอกครับ หากนั่งจับประเด็นจริงๆแล้วแต่ละคนก็มีข้อให้นายสมชายติมากมาย แต่นายสมชายไม่ได้สนใจเท่าไหร่ครับ... ที่ตามอ่านมั่งไม่อ่านมั่งเพราะอยากรู้ว่าในหัวเขามีอะไรอยู่ครับ แต่บางคนก็ไม่อยากรู้ เพราะไม่ค่อยมีอะไรให้นายสมชายรู้เพิ่มขึ้นเท่าไหร่... ฮา

ที่นายสมชายสนใจ และติดตามทุก Post ของคุณต๊อก... คืออยากอ่านทุกเรื่องที่ออกจากสมองของคุณต๊อกครับเท่านั้นเอง คือมันไม่เบื่อ ถึงแม้วิจารณ์หนังสงครามแต่เอาเรื่องถ้วยโถโอชามเข้ามาคุย... นายสมชายก็ยังตามอ่านครับ... ฮา

และถึงแม้คุณต๊อกจะขึ้นกระทู้ว่า"วิจารณ์หนัง แบบตามใจฉัน"... นายสมชายก็ยังตามอ่านอยู่ดีครับ... เย้
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #207 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 06:57:18 PM »

ขออนุญาตคุณ wilhelm Tell ไม่ quote ข้อความนะครับ เพราะมันจะทำให้กระทู้ยาวเกินจำเป็น
เข้าเรื่องนะครับ
เรื่องปันส่วน ผมไม่มีข้อโต้แย้งครับ อันนี้เป็นข้อเท็จจริง
ประเด็นของผมอยู่ที่ประเด็นของหนัง และวิธีในการประเมินคุณค่าของหนังครับ
ว่ากันเฉพาะใน Valkyrie ล้วนๆ เนื้อหนังเขาก็ทำจำกัดวง
พล็อตหลักอยู่ที่ตัวเอกที่หาญทำรัฐประหาร หนังชี้แรงบันดาลใจให้พระเอกยอมเสี่ยงชีวิตหลายตอน
แรกสุดก็คือฉากเปิดเรื่อง ที่พระเอกต้องการรักษาชีวิตผู้ใต้บังคับบัญชา กล้าปฏิเสธคำสั่งที่ได้รับ
ประเด็นต่อมาคือฉากที่พระเอกต้องไปแจกเหรียญให้กับทหารที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
และอีกประเด็นสำคัญคือฉากที่ลูกเมียกลัวระเบิดจนตัวสั่นตอนหลบในห้องใต้ดินที่บ้าน
ส่วนพล็อตรองคือการทำรัฐประหาร
เรื่องราวทั้งหมดมันก็วนอยู่แต่ตรงนี้ ซึ่งผมว่าพอแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องไปพูดเรื่องอื่น
ในความคิดของผม การวิจารณ์ก็ควรจะตีกรอบจำกัดวงครับ
ว่ากันเฉพาะสิ่งที่คนทำหนังต้องการนำเสนอ และกลเม็ดในการนำเสนอ
จะเอาทุกเรื่องอย่างเช่นข้อเท็จจริงมาบวกเข้าไปไม่ได้ครับ
เพราะหนังเขาพูดเฉพาะประเด็นหนึ่งประเด็นใด อย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น
สำหรับข้อเท็จจริงที่คุณนำเสนอ ถือเป็นความรู้ต่อยอด เป็นของแถมสำหรับการดูหนัง (เรื่องนี้) ครับ
ความรู้สึกส่วนตัว ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นชี้ข้อดีข้อเสียของหนัง

อีกนิดครับ ขออนุญาตถามหน่อยครับ
คุณ Wilhelm Tell ทำงานวิจารณ์หนังที่ไหนครับ
ไม่ทราบว่าบอกได้หรือไม่
แจ้งทาง pm ก็ได้ครับ

ขอบคุณครับที่มาสนใจพูดคุยกัน ผมทำงานกระทรวงยุติธรรมครับ ไม่ได้เรียนทางหนังหรือนิเทศอื่นๆ มองตามมุมส่วนตัว/เสียงตอบรับของลูกค้าสือ หนัง ละคร ตามที่รู้ข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และนิติเล็กน้อยครับไม่เคยวิจารณ์หนังนอกจากชวยคุยกันเฉพาะในเวปนี้และสภากาแฟครับ ความคิดเห็นส่วนตัวเลยหลายกระจายหลายกว้างเช่นนี้
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #208 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 07:25:12 PM »

สวัสดีครับพี่สมชาย

อิ อิ ผมพยายามเอาเรื่องโอ่ง อ่าง เอ้อ เสื้อผ้า ถ้วย โถ มาคุยเพื่อเพิ่มรสชาติและเพิ่มวามหายของหนังครับ เนื่องจากผมคิดว่าเมื่ออุตสาร์ดูหนังกันก็น่าจะต่อยอดอะไรๆ นอกจากดูเพื่อศิลปแห่งความเป็นหนังเรื่องนั้น

ที่จริงแล้วหนังเรื่องที่คนสนใจมากๆ ก็เปิดโลกจริงๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น Jurassic Park การสร้างดีกว่าหนังไดโนฯ เมื่อก่อนอย่างมาก ผู้คนสนใจไดโนฯ กันใหญ่ เกิดทุนการค้นคว้า ขุดค้น วิจัย เรื่องไดโนฯ จริงๆ มาก อิทธิพลของหนังยังเข้ามาสู่ภาควิชาการจริงๆ อย่าง การค้นพบมนุษย์วิวัฒนาการขั้นหนึ่งตัวเล็กที่เกาะฟลอสซี่ ยังเรียกกันเล่นๆ ว่า "ฮอปบิต" ตามหนังลอร์ดฯ เหมือนกับ Popular Culture อย่างอื่น เช่น ตั้งชื่อ เด็ก ออสตราโลพิเทคัส ที่ขุดเจอว่า "ลูซี่" ตามชื่อเพลง   

แตกเรื่องมากๆ จึงทำให้หนังมีความสำคัญมากกว่าศิลปความบันเทิงรูปแบบหนึ่ง

ที่จริงตอนนี้รุ่นน้องที่ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ มีวิชาที่เรียนร่วมกับเด็กนิเทศเรื่องวิจารณ์หนัง เสียดายผมไม่ทัน รุ่นน้องเขาเล่าว่าในห้อง วิจารณ์ เปรียบเทียบ กันอย่างกว้างขวาง มีคนนึงเปรียบเทียบ จอร์ช บุช พ่อลูก กับ พ่อลูก ปลา ในการ์ตูน นีโม ที่น่าวนใจคือการถกกับเด็กคณะอื่นที่มีความรู้ ข้อมูลต่างกัน ป็นประโยชน์ของทุกฝ่าย เสียดายไม่ทันได้เรียน

ที่จริงเรื่อง วัลคารี มีเพื่อนผมตอบข้อติของผมเรื่องการไม่ค่อยให้ข้อมูลการกวาดล้างกลุ่มต่อต้านว่า ผู้สร้างเมกันต้องการตอบสนองบรรยากาศทางการเมืองปัจจุบันที่เผชิญหน้ากับชาติเผด็กการอย่าง เกาหลีเหนือ หรืออิหร่าน จึงไม่ต้องการแสดงให้ชัดเจนว่าหากต่อต้านเผด็จการแล้วล้มเหลวจะโดนแรงๆ

บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #209 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 21, 2009, 07:35:52 PM »

เดี๋ยวจะขี่มอไซด์ไปซื้อวัลคีรี่มาดูครับ อ่านกระทู้แล้วคันไม้คันมือ ก็จริงอย่างอาจารย์สมชายว่าแหละครับ อ่านวิจารณ์หนังก็มีตามหนังสือพิมพ์ ที่บ้านผมรับมติชน  เดลินิวส์  เวลาอ่านนักวิจารณ์ก็คล้ายๆกัน...บรรดาลใจ...บีบคั้น..ไคลแม๊กซ์ของเรื่อง...แทรดจิดี้...ดราม่า...อ่านไม่เคยจบสักที หลายปีมานี้ไม่เคยอ่านครับ คุณต๊อกจบการทูตจากเมืองนอก เวลาอธิบายอะไรไม่ค่อยซ้ำกับใครผมตามอ่านตลอดครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
หน้า: 1 ... 11 12 13 [14] 15 16 17 ... 73
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.079 วินาที กับ 21 คำสั่ง