เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 09, 2025, 07:30:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 22 23 24 [25] 26 27 28 ... 73
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาภาพยนต์ และประวัติศาสตร์การสงคราม  (อ่าน 225263 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sig_surath7171
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #360 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2009, 10:30:46 PM »

ขออนุญาตขุดกระทู้ครับเผื่อพี่ๆ เพื่อนๆ อยากคุย
 
เนื่องจากช่วงนี้ภาพยนต์เรื่อง Valkyrie กำลังฉาย เป็นเรื่องการพยายามสังหารฮิตเล่อร์ของคณะนายทหารบก โดยการวางระเบิดในวันที่ 20 ก.ค. 1944

ผม (รีบ) ไปดูมาแล้ว อิ อิ ขอแนะนำว่าผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์การเมือง การสงครามโลก ครั้งที่ 2 น่าจะดู

ท่านที่ยังไม่ได้ดูข้ามช่วงต่อไปนี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะไม่สนุก

อย่างไรก็ตามมีข้อติบางอย่าง

1. อารมณ์ของเรื่อง

ความเป็นดราม่าของเรื่องน้อยไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่าควรใช้ดาราที่หน้าตาดราม่ามากๆ เช่น ราฟ ไฟน์ แทน ทอม ครูส

2.ฉาก

 2.1 ในเรื่องไม่ได้แสดงถึงความกดดันต่อคน/ทหารเยอรมันว่าตอนนั้นสงครามทำให้เยอรมัน/ยุโรป พินาศสันตะโรไปเท่าไหร่ ทำให้เกิดความคิดว่าต้องกำจัดระบบการปกครองของฮิตเล่อร์เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ในเรื่องไม่มีฉากเมืองที่พัง ความกดดัน/กดขี่ของนาซีต่อคนเยอรมันเอง สภาพความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นจากสงคราม บ้านเมืองที่สร้างมาใหญ่โตหลังฟื้นจากเศรษฐกิจถอถอยก็มาพังลง รวมทั้งอาคารทางประวัติศาสตร์ของเยอรมันทุกยุคที่ผ่านมาด้วย ชาวบ้าน/ทหารทำงานเสียสละเต็มที่แต่ผู้นำเอาตัวรอดและบ้า เช่น ความจริงที่ว่าฮิตเล่อร์ไม่ยอมไปเยี่ยมเมืองที่ถูกบอร์ดเพราะกลัวเห็นภความจริงแล้วใจอ่อนไม่อยากรบต่อ จุดนี้ไม่มีในภาพยนต์เลย มีเพียงแค่ครอบครัวหลบหลุมหลบภันในบ้าน ได้ยินเสียงระเบิดลง ฉากเดียว และยังแสดงความเป็นอยู่เหมือนปรกติมากๆ ตึกต่างๆ ในเบอร์ลินไม่มีร่องรอยเสียหายแม้แต่น้อย มีน้ำมันใช้รถส่วนตัวกันสบายๆ ด้วย "ทำให้สื่อสารแสดงแก่นของเรื่องได้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้สนใจข้อมูลของเหตุการณ์มาก่อน"

เรื่องนี้ถึงแม้ไม่มีงบสร้างฉากก็ควรนำเสนอผ่านบทสนทนา เช่น ข่าวเมืองเยอรมันที่โดนบอร์ม ถึงแม้ตามจริงทางการจะไม่ออกข่าวความสูญเสียมาก แต่ก็ควรแสดงให้เห็นว่าตัวละครรู้ว่าถูกบอร์มหนักๆ แต่ละครั้งต้องมีคนตายครั้งละหลายหมื่นคน

2.2 ไม่ได้แสดงถึงอำนาจครอบงำของนาซีในสังคมเท่าที่ควร และไม่ได้แสดงถึงอานุภาพของระบอบการปกครอง นำเสนอน้อยไปว่าสิ่งที่ผู้ต้องต้านคิดกระทำนั้นใหญ่หลวงนัก ต่อต้านกับอำนาจที่ครอบงำ และสั่งการกำลังการเมืองที่ปกครองคนหลายร้อยล้านคน และคุมกำลังทหาร 8-9 ล้านคน

ถ้าไม่อยากทำภาพความยิ่งใหญ่เข้มแข็งของนาซี แต่ก็ควรสร้างฉากตัวแทนได้ เช่น ตำรวจลับจับชาวบ้านที่ไม่จงรักภักดีเล็กๆ น้อยๆ ไปเข้าค่ายกักกัน

3. ข้อมูล

ไม่ได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการหลักในเรื่อง เช่น เมื่อผุ้ก่อการแพ้ ฮิตเล่อร์ก็ออกคลั่ง สั่งกวาดล้างฆ่าผู้ต้องสงสัยไปประมาณ 2,500 คน รวมทั้งคนที่เป็นกำลังของประเทศ เช่น จอมพลรอมเมล และข้อมูลว่านายพันตรีกำลังหนุนที่ฮิตเล่อร์พูดโทรศัพท์โดยตรงให้ไปจับพวกก่อการได้เลื่อนยศเป็นพันเอกเลย ข้อมูลนี้ควรจะมีเพื่อเป็นการเน้นถึงความแหลวแหลกของระบอบผู้นำเผด็จการ เสริมความสำคัญของการก่อการ


ข้อชมครับ

1.เนื่อเรื่อง

สร้างถูกต้องตามเหตุการณ์จริงดีครับ

2. รายละเอียดการสร้าง

2.1 อุปกรณ์ถูกต้องดี เครื่องบินก็ถูกรุ่นตามที่ควรจะเป็น เช่น เครื่องบินโดยสาร Ju52 ฉากสนามบินก็เห็น Me109 ในโรงเก็บ ชเตาเฟนแบร์ก ถูกยิงที่แขนตอนคณะก่อการแพ้จริง แต่มีฉากหนึ่งที่ขึ้นลำปืน PPK โดยเอาลำกล้องกดกับโต๊ะ จุดนี้ไม่แน่ในว่าธรรมเนียมปฏิบัติทหารเยอรมันสมัยนั้นเขาพกปืนดับเบิ้ล/ซิงเกิลขึ้นลำไว้ตลอดหรือไม่ หรือเป็นเพียงการที่ผู้สร้างต้องการแสดงการเตรียมสู้ขั้นสุดท้ายให้เห็นชัดๆ ตามแนวภาพยนต์

2.2 ตัวละคร พยายามสร้างให้ถูกต้องดี ทอม ครูส สูงแค่ 169 ซม มีฉากยืนข้างฮิตเล่อร์ ผู้สร้างก็หาคนเตี้ยกว่ามาแสดงเป็นฮิตเล่อร์ และใช้มุมกล้องช่วยด้วย ตามจริงแล้ว ฮิตเล่อร์สูง 173-175 ซม. (แล้วแต่แหล่งข้อมูล) ส่วน ชเตาเฟนแบร์ก ดูตามภาพควรสูง 187-190 ซม.


กำลังอ่านเรื่องราวของ ''จิ้งจอกทะเลทราย'' นายพล เออร์วิน รอมเมล ขุนศึกผู้นำสงคราม (War Leader) หนึ่งในผู้นำสงครามของฝ่ายอักษะ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
"เออร์วิน รอมเมล" ยอดขุนพลคนโปรดของจอมเผด็จการฮิตเลอร์ ผู้พิชิตศึก "รถถัง" ด้านทะเลทราย จนเป็นที่ครั่นคร้ามของอังกฤษ และได้รับสมญานามว่า "จิ้งจอกทะเลทราย"
ผู้ถูกฮิตเลอร์บังคับให้กลืนยาพิษลงโทษตนเองก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะยุติลง
เรื่องราวของนายพลเยอรมันผู้นี้น่าสนใจมาก ความฉลาดและจิตวิญญาณในความเป็นทหารของเขาน่าทึ่งมาก
แม้ว่าเยอรมันจะพ่ายแพ้สงคราม และมีชะตากรรมที่น่าสงสารและน่ายกย่องแม้ถึงฉากสุดท้ายของชีวิตไม่แพ้ Von stauffenberg
ไม่ทราบว่าเคยมีภาพยนต์ที่เคยสร้างเกี่ยวกับ นายพลเยอรมันผู้นี้หรือไม่ครับ

http://www.geocities.com/saniroj/rommel11

http://www.geocities.com/saniroj/rommel2

http://www.geocities.com/saniroj/rommel3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2009, 10:40:41 PM โดย ซิกสุราษฎร์ » บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #361 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 12:57:50 AM »

หนังฝรั่งรุ่นเก่า เวลากองโจรจะแอบเข้าไปทำลายปืนใหญ่ข้าศึก  จะยัดดินปืนมากๆแล้วหาอะไรมาอุดลำกล้อง หรือปักปากกระบอกลงพื้นโคลน  แล้วจุด เพื่อให้ลำกล้องปืนแตก


แต่ระยหลัง  ผู้สร้างเริ่มศึกษาประวัติศาสตร์มากขึ้น  ทั้งหนังซ๊รีย์ทีวี  หนังใหญ่  พบว่าวิธีการของตัวละครเปลี่ยนไป   โดยทำลายด้วย การใช้เหล็กตะปู ขนาดฟิตกะช่องนมหนู  แล้วตอกอุดลงไป  พร้อม ทำลายล้อลาก  ไม่ให้ดัดแปลงไปขนสัมภาระอื่นได้อีก 
ไม่ เห็นต้องระเบิด เหมือนสมัยก่อนเลย   Grin

นโปเลียน ๒  ก็มีฉากนี้ ครับ. ใช้ตะปู และค้อนไม้ ๒ โป๊ก  และย้ำอีก ๑.  Cheesy.

การที่ผลิตปืนใหญ่เองไม่ได้ นั้น.. อาจใช้กลยุทธ บุกเข้าไปชิงเอา ดื้อ ดื้อ ง่ายกว่าหล่อเอง.  นะครับ.  Grin
บันทึกการเข้า

USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #362 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 10:12:37 AM »

บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #363 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 10:47:58 AM »

ตอบคุณ submachine / คุณ wilhelm tell

ไม่แน่ใจว่าจะช่วยหรือเปล่านะคะ แต่จำได้ว่าเคยอ่านเจอว่า ธนูเป็นอาวุธคลาสสิกดั้งเดิม น่าจะพัฒนามาจากลูกดอก และความจำเป็นที่คนต้องล่าสัตว์ใหญ่ สัตว์อันตราย หรือสัตว์ตัวเล็กๆ ไม่อยู่กับที่ และธนูมีมานาน ตั้งแต่ยุคหิน ยุคอียิปต์ ยุคกรีกโรมัน ยุคมองโกล (เข้าใจว่าพวกมองโกลยึดเมืองได้ถึงเกือบหมดยุโรปก็ด้วยเก่งธนู และเก่งขี่ม้า นี่แหละค่ะ เลยได้ทั้งความเร็วและความแม่น บวกกับวิธีรบแบบกองโจร และการสร้างชื่อเสียงข่มขู่ล่วงหน้า ว่าบุกไปไหน ฆ่าคนตายเรียบ) แต่ต่อมา เมื่อยุโรปรบกันเยอะขึ้น ก็ต้องหาอาวุธที่ทำให้อีกฝ่ายสลบหรือตายเร็วๆ ยิ่งขึ้น ดังนั้น พวกอาวุธเหล็ก ใช้หินตกแต่งถึงได้ค่อยๆ ทดแทนธนู ซึ่งเสียเวลาซ้อม เวลาผลิต และอาจไม่ได้ผลยับยั้งศัตรูเท่าอาวุธอื่นๆ ในระยะไกล เช่น เครื่องเหวี่ยงหิน หรือสร้างกำแพงเมืองสูงๆ หรือจัดการศัตรูระยะใกล้เท่าขวาน มีด หรือดาบ  หรือว่าไงคะ หากคุณ Wilhem Tell มีข้อมูล ก็กรุณาแบ่งปันก็ดีค่ะ    

ครับ ธนูมีมาตั้งแต่ยุคหินเก่า (หินเก่าไม่มีการเกษตร หินใหม่มีการเกษตรแล้ว) ที่ตกมาถึงปัจจุบันก็ อะบอริจิน ในออสเตรเลีย เป็นวัฒนธรรมยุคหินเก่า ใช้ธนู

ตอยพบ Ice man บนภูเขาแอลป์ อายุประมาณ 5,300 ปี ก็พบธนูของเขา และพบหัวธนูในร่างกายด้วย ถูกยิงทะลุเสื้อเข้าไหล่

สำหรับชนเผ่ายุคหินเก่าด้วยกัน พวกที่เป็นกลุ่ม "ไล่ล่าหาเก็บ" (Hunter gatherer) จะรบไม่เก่งเหมือนพวกเลี้ยงปศุสัตว์ในทุ่ง ฟังเผินๆ อาจรู้สึกขัดๆ เพราะนายพรานควรรบพุ่งต่อสู้เก่ง แต่ที่จริงคือ พวกเลี้ยงสัตว์ในทุ่งจะต้องต้อนฝูงสัตว์ ให้เดินทาง รวมตัว จึงมีทักษะในการจัดระเบียบแบ่งหน้าที่ในกลุ่ม โอบล้อม กระตุ้นต้อน ดักทาง และสังเกตุเดาทางการเคลื่อนไหว ทั้งหมดนี้เป็นทักษะที่สำคัญในการสู้รบระหว่างกลุ่มคน หรือกองทัพ นอกจากนี้คนเลี้ยงฝูงสัตว์มักพัฒนาสัตว์มาใช้เป็นพาหนะอย่างมีประสิทธิภาพ เคลื่อนที่ได้เร็วด้วย รวมเรียกง่ายๆ ว่านักรบหลังม้า (ในอียิปต์เก่าใช้แต่อูฐมาก่อนใช้ม้า บางวัฒนธรรมอย่างสุเมเรียนใช้ตัว โอนาเกอร์ เล็กกว่าม้า ขี่ไม่ได้ใช้เทียมรถศึกอย่างเดียว)

ถ้าเป็นสังคมยุคหินใหม่ มีการเกษตรแล้ว ศักยภาพในการรบอยู่ที่ระดับการพัฒนาสังคมว่าใหญ่โต ทำเกษตรเก่งแค่ไหน ยั่งยืนแค่ไหน เพราะถ้าทำเกษรได้มีประสิทธิภาพมาก ผลิตอาหารให้สังคมได้พอเพียง มีการเก็ยอาหารได้พอ อาจเก็บไว้ทำเหล้าได้ด้วย (เห้าเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญทางอารยธรรม) เมื่อทุกคนไม่ต้องทำมาหาอาหารเอง จึงมีการจัดระเบียบสังคม แบ่งงานเฉพาะด้านได้ เป็นกลุ่มปกครอง กลุ่มศาสนา และกลุ่มนักรบ ที่ฝึกฝนการรบอย่างเดียว เชี่ยวชาญเป็นพิเศษ...  

สำหรับการที่ นักรบหลังม้าไปตีบ้านเมืองได้มาก จุดสำคัญคือการเคลื่อนที่ได้เร็วมากกว่า ฝ่ายอื่นระดมพลไม่ทัน เคลื่อนกำลังไปสู้ไม่ทัน ยิ่งสมันโบราณข่าวสารมาไม่เร็ว หลายครั้งกว่าจะรู้ตัวก็คือเมื่อเห็นกองทัพข้าศึกแล้ว

ในนิยายมักบรรยายกองทัพนักรบหลังม้าว่ามามืดฟ้ามัวดิน และในบันทึกโบราณก็บรรยาว่ามามากท่วมท้น ในกรณีส่วนมากก็จริงที่ นัรบหลังม้ามามากกว่าชุมชนส่วนมากที่โดนตี แต่จากการวิเคราะห์ของ Sir John Keegan อาจารย์สอนที่ Sandhurst รร.นายร้อย ทบ. อังกฤษ (สอนหนังสือจนได้เป็นอัศวินครับ) ในหนังสือ History of Warfare เสนอว่าที่จริงกิงทัพนักรบหลังม้าอย่างของ Attila อัลติลา เดอะฮั่น ควรจะรวมพลมากสุดในเวลาใดเวลาหนึ่งแค่ประมาณ 4-5 หมื่นคนเท่านั้น เขาวิเคราะห์จำนวนม้าที่นักรบหลังม้าต้องใช้ในการรบต่อเนื่อง ทั้งขี่รบ ทั้งขนของ ม้าสำรองตัวที่บาดเจ็บ ป่วยล้มตาย ฯลฯ ว่าอยู่ที่ประมาณ 10 ตัวต่อนักรบ 1 คน และวิเคราะห์ภูมิประเทศ ทุ่งหญ้าที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถเลี้ยงดูม้าในกองทัพได้กี่ตัว

ดังนั้นการที่ฝรั่งรบแพ้อัลติลา ไม่ได้มาจากถูกรุมด้วยกำลังที่ท่วมท้น แต่มากจากปัจจับอื่นๆ เช่น การรวมพล การเคลื่อนทัพ การถูกตัดขาดปิดล้อม และกลยุทธในการรบกลางแปลงครับ

ในรูป Iceman
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:11:39 AM โดย Wilhelm Tell -(-- » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #364 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 10:53:29 AM »

Standard of ๊Ur (Ur อยู่ในอิรักปัจจุบัน) ไม้ประดับอายุประมาณ 4,500 ปี เป็นวัตถุที่เก่าที่สุดภาพหนึ่งที่แสดงกองทัพ การสงครามอย่างชัดเจน สัตว์เทียมรถคือ Onager ลาแถบนั้นครับ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #365 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:41:52 AM »

คำกล่าวหนึ่งของกษัตริย์สปาร์ต้า Archidamus ที่สอง ยุค 400 กว่าปี ก่อน ค.ศ.

"เราไม่เชื่อว่าคนแต่ละคนนั้นมีอะไรแตกต่างอะไรกันนักหนา แต่เฃื่อว่าความเป็นเลิศนั้นย่อมอยู่กับคนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนักหนาสาหัสที่สุด"

"แต่อย่างไรก็ตาม ถึงฮิลเล่อร์ตายก็อาจไม่มีผลต่อสงครามนัก ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ตกลงกันอยู่แล้วว่าจะไม่ยอมเจรจาสงบศึกแยกกัน ต้องยอมแพ้กับโซเวียตอย่างไม่มีเงื่อนไขด้วย รัฐบาลเยอรมันคนไหนก็คงไม่ยอม ต้องรบกันต่อ"

ขอแสดงความเลื่อมใสคุณ Willhem ได้ความรู้ดีมาก ท่อนสองตรงใจครับ คือถ้าสำเร็จผลจะออกมาอย่างไร จำเป็นต้องทำหรือไม่  ไหว้

ขอบคุณมากครับพี่ ถ้าทหารเยอรมันปฏิวัติก่อนสงครามหรือต้นสงครามก่อนรบกับโซเวียต ประวัติศาสตร์คงเปลี่ยน

มุกนี้ผมเอาไว้ใช้เวลาเจอต่างชาติหัวดื้อชอบโวยเรื่องเมืองไทยมีทหารยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งครับ

"ตอนนี้ยูไม่ชอบใจที่ทหารไทยยึดอำนาจปี 2006 ใช่มั๊ย? เหอะๆ ถ้าปี 1936 ทหารเยอรมันยึดอำนาจรัฐบาลเยอมันที่มาจากการเลือกตั้ง ไอเชื่อว่ายูก็คงโวยเหมือนกัน"
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #366 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:42:15 AM »

แบบนี้หรือเปล่าOnager สัตว์ทะเลทรายหรือเปล่า คุณต๊อก


รูปนี้เป็นPERSIAN ONAGER








บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #367 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:42:43 AM »

หนังฝรั่งรุ่นเก่า เวลากองโจรจะแอบเข้าไปทำลายปืนใหญ่ข้าศึก  จะยัดดินปืนมากๆแล้วหาอะไรมาอุดลำกล้อง หรือปักปากกระบอกลงพื้นโคลน  แล้วจุด เพื่อให้ลำกล้องปืนแตก


แต่ระยหลัง  ผู้สร้างเริ่มศึกษาประวัติศาสตร์มากขึ้น  ทั้งหนังซ๊รีย์ทีวี  หนังใหญ่  พบว่าวิธีการของตัวละครเปลี่ยนไป   โดยทำลายด้วย การใช้เหล็กตะปู ขนาดฟิตกะช่องนมหนู  แล้วตอกอุดลงไป  พร้อม ทำลายล้อลาก  ไม่ให้ดัดแปลงไปขนสัมภาระอื่นได้อีก 
ไม่ เห็นต้องระเบิด เหมือนสมัยก่อนเลย   Grin

ช่องนมหนูหรือช่องใส่ดินหู

ช่องนมหนูสำหรับใส่ดินหู ครับ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #368 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:48:41 AM »

แบบนี้หรือเปล่าOnager สัตว์ทะเลทรายหรือเปล่า คุณต๊อก


รูปนี้เป็นPERSIAN ONAGER









แบบนี้หรือเปล่าOnager สัตว์ทะเลทรายหรือเปล่า คุณต๊อก


รูปนี้เป็นPERSIAN ONAGER










ดูรูปแล้วก็หน้าตาเหมือนนะครับ อิ อิ

สมัยก่อนม้าตามธรรมชาติตัวไม่ใหญ่มาก ใช้ขี่ไม่ค่อยได้เพราะถ้าวิ่งในถนนปูหินกีบจะแตก กรีกยุคต้นมากๆ ก็ไม่ค่อยขี่ม้า ต้องผสมพันธุ์ม้าให้ตัวใหญ่ขึ้นๆ จนยุคกลางม้าศึกที่ตัวก็ใส่เกราะและต้องขนอัศวินใส่เกราะตัวเบ้ิอเริ่ม

เมื่อมนุษย์เอเซียนอพยพไปเมกาหมื่นกว่าปีก่อนล่าม้าพื้นเมืองสูญพันธุ์ไป ทวีปเมกาไม่มีม้าจนกระทั่งสเปนไปยึดครอง ม้าสเปนหลุดไปอยู่ตามธรรมชาติ ผสมกันเองไม่มีการคัดพ่อ/แม่พันธุ์ตัวใหญ่ ขนาดเลยย่อมลงมากว่าม้านักรบสเปน กลายเป็นม้าพันธุ์มัสแตง สีก็หลากหลาย บางตัวมีหลายสี
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #369 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 11:58:21 AM »

เรียนพี่ซิกสุราษฎร์

ผมนึกหนังเรื่องของรอมเมลโดยเฉพาะไม่ออกเลยไปดูในวิกิ มีบ้างครับ ไม่เคยดูเหมือนกัน เคยดูแต่เรื่องอื่นที่มีบทรอมเมลอย่าง The longest day

http://en.wikipedia.org/wiki/Erwin_Rommel
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Stevie G - รักในหลวง
LABOR OMNIA VINCIT
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 47
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 562


"Don't let your feeling controls your life"


« ตอบ #370 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 12:40:09 PM »

อ่านสนุกได้ความรู้ดีครับ   ไหว้

สอบถามเพิ่มเติม ลูกปืนใหญ่สมัยกรุงศรีฯ  เป็นลูกเหล็กธรรมดา หรือ เป็นแบบใด    ....     การทำลายเป้าหมายด้วยแรงจากการชนกระแทก หรือ  การระเบิด     ครับ        ไหว้
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=zw5pAshxY80

โลกต้องการคนดี
มิใช่เพื่อให้มารับรางวัล
แต่เพื่อมาช่วยทำชีวิตและสังคมให้มันดี ...
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #371 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 12:55:57 PM »

ลูกปืนใหญ่สมัยนั้นมีทั้ง ลูกตัน และ ลูกแตก ครับ

แต่ลูกแตก ใช้ยาก อันตรายกับผู้ใช้ และเชื่อถือไม่ค่อยได้ ฝรั่งทำมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 16 ถ้าเป็นปืนครก ใช้ลูกเป็นลูกระเบิดเอามือยื่นไปจุดชนวนจากปากลำกล้องตอนจะยิง ถ้าเป็นปืนใหญ่ลำกล้องยาวก็ทำชนวนอยู่รอบๆ ร่องบนผิว ให้ไฟจากการยิงจุดชนวนให้
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #372 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 01:04:22 PM »

ที่พิศดารสมัยนั้นก็คือ ลูกร้อน Hot shot นี่ละครับ เอาลูกปืนเผาไฟให้ร้อนแดง แล้วคีบมาหย่อนใส่ปากลำกล้องยิงออกไป ตกใส่เรือ บ้านเรือน ร้อนไฟติด 

อาจเป็นต้นตอของคำ Hot shot = คนที่เจ๋งๆ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #373 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 01:07:10 PM »

ในนิยายมักบรรยายกองทัพนักรบหลังม้าว่ามามืดฟ้ามัวดิน และในบันทึกโบราณก็บรรยาว่ามามากท่วมท้น ในกรณีส่วนมากก็จริงที่ นัรบหลังม้ามามากกว่าชุมชนส่วนมากที่โดนตี แต่จากการวิเคราะห์ของ Sir John Keegan อาจารย์สอนที่ Sandhurst รร.นายร้อย ทบ. อังกฤษ (สอนหนังสือจนได้เป็นอัศวินครับ) ในหนังสือ History of Warfare เสนอว่าที่จริงกิงทัพนักรบหลังม้าอย่างของ Attila อัลติลา เดอะฮั่น ควรจะรวมพลมากสุดในเวลาใดเวลาหนึ่งแค่ประมาณ 4-5 หมื่นคนเท่านั้น เขาวิเคราะห์จำนวนม้าที่นักรบหลังม้าต้องใช้ในการรบต่อเนื่อง ทั้งขี่รบ ทั้งขนของ ม้าสำรองตัวที่บาดเจ็บ ป่วยล้มตาย ฯลฯ ว่าอยู่ที่ประมาณ 10 ตัวต่อนักรบ 1 คน และวิเคราะห์ภูมิประเทศ ทุ่งหญ้าที่เกี่ยวข้อง ว่าจะสามารถเลี้ยงดูม้าในกองทัพได้กี่ตัว

เท่าที่ทราบ มีการใช้ทำอาหารด้วย เอาม้าที่เจ็บเกินเยียวยามาทำอาหาร เลี้ยงทหาร
มีการต้อนสัตว์ที่ให้น้ำนม เช่น วัว จามรี ไปกับกองทัพ เพื่อเอาของเหลวในตัวสัตว์เป็นอาหาร

กองทัพมองโกล ของเจงกีสข่าน (บุรุษในรอบสหัศวรรษ ปี1001-2000)ก็ใช้วิธีนี้ ถึงสามารถเอาชนะกำแพงเมืองจีน (Great Wall)ได้
ชนะโดยวิธีง่ายๆ แต่ใช้เวลาคือ เดินทัพอ้อมกำแพงเมืองจีนไปเข้าตีปักกิ่ง ว่ากันว่า ในยุคนั้น สามารถเดินทัพได้ไม่เกิน 5 กม.ต่อวัน
เนื่องจากการต้อนสัตว์ให้น้ำนมไปด้วย ต้องใช้เวลาส่วนหนี่งไปกับให้สัตว์เลี้ยงกินหญ้า และหาแหล่งน้ำทั้งทหารและสัตว์เลี้ยง

เหตุที่มองโกลเข้าตี มีอย่างเดียว คือกลัวจีนเข้าตี เนื่องจากมองโกลเริ่มรุ่งเรือง จากการเปลี่ยนวิถีชีวิต ไม่ร่อนเร่ แต่ปักหลักอยู่กับที่
บนทุ่งหญ้า เลี้ยงสัตว์ รวบรวมกลุ่มเล็ก กลุ่มน้อย เป็นกลุ่มใหญ่ ตั้งเป็นชุมชน เริ่มมีอารยธรรม ปราบโจรผู้ร้ายที่เข้าปล้นสะดมภ์


(ลักษณะชนเผ่าเร่ร่อน แบบก่อนมองโกลเริ่มรวมตัวหรือ ชนเผ่าอื่นๆ อาทิพวกคนในทะเลทราย มักจะเจอการปล้นสะดมภ์บ่อย
ทางแก้มีอย่างเดียว คือ รวมกลุ่มและปักหลักอยู่กับที่)
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Stevie G - รักในหลวง
LABOR OMNIA VINCIT
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 47
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 562


"Don't let your feeling controls your life"


« ตอบ #374 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 25, 2009, 01:09:15 PM »

ลูกปืนใหญ่สมัยนั้นมีทั้ง ลูกตัน และ ลูกแตก ครับ

แต่ลูกแตก ใช้ยาก อันตรายกับผู้ใช้ และเชื่อถือไม่ค่อยได้ ฝรั่งทำมาตั้งแต่ประมาณศตวรรษที่ 16 ถ้าเป็นปืนครก ใช้ลูกเป็นลูกระเบิดเอามือยื่นไปจุดชนวนจากปากลำกล้องตอนจะยิง ถ้าเป็นปืนใหญ่ลำกล้องยาวก็ทำชนวนอยู่รอบๆ ร่องบนผิว ให้ไฟจากการยิงจุดชนวนให้
ที่พิศดารสมัยนั้นก็คือ ลูกร้อน Hot shot นี่ละครับ เอาลูกปืนเผาไฟให้ร้อนแดง แล้วคีบมาหย่อนใส่ปากลำกล้องยิงออกไป ตกใส่เรือ บ้านเรือน ร้อนไฟติด 

อาจเป็นต้นตอของคำ Hot shot = คนที่เจ๋งๆ

   ขอบคุณครับพี่ต็อก    ไหว้
บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=zw5pAshxY80

โลกต้องการคนดี
มิใช่เพื่อให้มารับรางวัล
แต่เพื่อมาช่วยทำชีวิตและสังคมให้มันดี ...
หน้า: 1 ... 22 23 24 [25] 26 27 28 ... 73
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.096 วินาที กับ 21 คำสั่ง