อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1599
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 10265
ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
|
 |
« ตอบ #210 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 03:29:39 PM » |
|
เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในอนาคต
ปัญหาอิสราเอลกับปาเลสไตน์ยังไม่ยุติแต่กลับรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทางด้านสหรัฐฯ กับคู่ปรับเก่าอย่างอิรัค สงครามอ่าวเปอร์เซียยกที่ 2 ส่อแววว่าจะเกิดขึ้นอีก เมื่อผู้นำสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าจะล้มรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน ให้ได้ ซึ่งขณะที่ผู้เขียนกำลังเขียนต้นฉบับอยู่นี้มีข่าวว่าเครื่องบินรบของสหรัฐฯ และกองทัพอากาศชาติอื่นๆ เริ่มมีการปฏิบัติการโจมตี ต่อเป้าหมายในอิรัคบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดศึกครั้งใหญ่
การขู่ว่า จะเปิดสงครามกับอิรัค ยกที่ 2 ของสหรัฐฯ ดูเหมือนจะแตกต่างกับปี พ.ศ. 2534 โดยสิ้นเชิง ในขณะนั้นมีหลายฝ่ายออกความเห็น ทั้งประชาชนและชาติอื่นๆ ต่างเห็นพ้องกับสหรัฐฯ ให้สหรัฐฯ โจมตีอิรัคเพื่อปลดปล่อยคูเวต แต่ในปีนี้ พ.ศ. 2545 นอกจากไม่เห็นด้วย หลายฝ่ายยังออกมาคัดค้านเพราะเหตุผลมีไม่เพียงพอที่จะต้องใช้กำลังทหาร นอกจากนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังไม่เอื้ออำนวยที่จะนำประเทศเข้าสู่สงคราม ถ้าหากต้องการมีชัยชนะในการรบจะต้องได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากกองทัพชาติสมาชิกนาโด ทั้งกำลังทางทหารและทางการเงิน
ถ้าหากสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีอิรัคจริงตามคำขู่ การปฏิบัติการทางทหารอาจจะใช้กำลังทางอากาศเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อวิเคราะห์ดูจากสถานการณ์แล้วจะเห็นได้ว่า สหรัฐฯ ไม่มีการเคลื่อนกำลังทางบกมุ่งสู่ภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียแต่อย่างใด การเคลื่อนย้ายกำลังทางอากาศจากสหรัฐฯ ของกองทัพอากาศ สามารถเสริมกำลังเข้าสู่ภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียกระทำได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีกำลังอากาศยานจากเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เข้าร่วมปฏิบัติการ กำลังทางอากาศหลักที่สหรัฐฯ จะนำออกปฏิบัติการน่าจะเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งสามารถบินปฏิบัติการจากฐานบินในประเทศสหรัฐฯ ไปโจมตีเป้าหมายในอิรัค โดยเฉพาะ บี-2 ซึ่งสามารถเล็ดลอดการตรวจจับจากเรดาร์และระบบป้องกันทางอากาศเข้าไปโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
การใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศสหรัฐฯ หรือฐานทัพอากาศบนเบาะ ดิเอโกการ์เซียในมหาสมุทรอินเดีย จะมีข้อเสียคือ การใช้ระยะเวลาบินนานในการโจมตีอัฟกานิสถานเครื่องบิน บี-2 นำระเบิด 16 ลูกไปทิ้งใส่เป้าหมาย จะต้องใช้เวลาบินไป กลับ ถึง 40 ชั่วโมง ถ้าหากเป็นเป้านิ่ง เช่น โรงไฟฟ้า ที่ตั้งกองบัญชาการ หรือที่ตั้งข่ายการสื่อสาร ไม่เป็นเป้าหมายแต่ถ้าหากเป็นเป้าหมายเคลื่อนที่ อาทิเช่น ฐานยิงอาวุธปล่อยนำวิถี ขบวนรถถัง เป้าหมายต้องเปลี่ยนตำแหน่งห่างจากตำแหน่งเดิมไปไกลนับ 100 กิโลเมตร แม้ว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯ จะแก้ปัญหาโดยนำเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบอื่นๆ เช่น บี-1 และบี-52 มาวางกำลังอยู่ที่ฐานทัพอากาศบนเกาะดิเอโกการ์เซีย เพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินให้มากขึ้น และลดระยะทางและเวลาบิน แต่เครื่องบินทิ้งระเบิดทั้งสองแบบก็ยังต้องใช้เวลาบินหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเป้าหมาย เนื่องจากพื้นที่ปฏิบัติการอยู่ไกล และที่สำคัญคือเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีประการอยู่ในกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในปัจจุบันทั้งสามแบบสามารถทำความเร็วในการบินได้ต่ำกว่าเสียง โดย บี-1 สามารถทำความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 600 ไมล์ต่อชั่วโมง ในการบินปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในระดับความสูงต่ำส่วน ปี-2 ทำความเร็วในการบินเดินทางได้เพียง 450 ไมล์ต่อชั่วโมงเท่านั้น... ...เครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ทั้งสามแบบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ (ไว้มาต่อกันตอนหน้านะครับ)
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 15, 2013, 07:08:08 PM โดย อรชุน-รักในหลวง »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #211 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 08:43:58 PM » |
|
ระหว่างรอเรื่องของคุณ Hydra ผมมีเครื่องบินปีก 3 เหลี่ยมของ อเมริกา สมัย โบราณที่สมัยของมัน ราคาแพงกว่าทองอีก เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวมาให้ดูครับ
เครื่องบิน Convair B-58 Hustler เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดเร็วเหนือเสียงแบบแรก
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #212 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 08:57:42 PM » |
|
อีกมุมครับ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #213 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 09:11:15 PM » |
|
ลองทายสิว่า นี่เครื่องบินอะไร  [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mb154cm
ชอบบรรยากาศที่อบอวลด้วยมิตรภาพ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 4
ออฟไลน์
กระทู้: 1221
|
 |
« ตอบ #214 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 09:31:36 PM » |
|
ต้นตระกูลของB52 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #215 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 09:41:46 PM » |
|
ดูก็รู้  แต่ผมอยากรู้ว่า รุ่นอะไร??? ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Recoillism
ชาว อวป.
Full Member
  
คะแนน 10
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 208
|
 |
« ตอบ #216 เมื่อ: กันยายน 28, 2005, 10:09:14 PM » |
|
 B-47 Stratojet Nuclear Bomber : 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #217 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 08:55:46 AM » |
|
ผิดครับ ใบ้ให้ก็ได้ เป็คู่แข่งกับ B-52 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #218 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 12:06:38 PM » |
|
เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Boeing B-47 Stratojet เป็นเครื่องบิน 6 เครื่องยนต์ครับ ส่วนในภาพปริศนาเป็นเครื่องบิน 8 เครื่องยนต์ ที่เหมือนกันกับ Boeing B-52 Stratofortress แต่ B-52 มีประสิทธิ์ภาพเหนือกว่า เลยชนะการแข่งขันไป B-47 ภาพบน
ภาพปริศนา ภาพล่างครับ
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #219 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 12:16:45 PM » |
|
B-52 Stratofortress เป็นโครงการเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีชื่อเสียงที่สุด และ ประจำการยาวนานที่สุดด้วย เริ่มประจำกรตั้งแต่ปี 1962 จนถึงปัจจุบัน
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
   
คะแนน 741
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 14573
นายใหม่ รักหมู่
เว็บไซต์
|
 |
« ตอบ #220 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 12:31:48 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #221 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 01:41:36 PM » |
|
B-36 Peacemaker เป็นเครื่องบินในพัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นเครื่องบินรุ่นเดียวในโลกที่ปีกมีช่องทางให้ช่างเครื่องมุดเข้าใปซ่อมเครื่องยนต์ขณะบินได้ด้วย
ภาพที่ 2 เทียบขนาดกับ B-29 ด้านหลัง
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 1599
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 10265
ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
|
 |
« ตอบ #222 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 03:38:42 PM » |
|
เครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในอนาคต (ตอนจบ)
เครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ทั้งสามแบบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบันจะยังคงประจำการอยู่ต่อไป บี-52 และ บี-1 ประมาณ 10 ปี ส่วน บี-2 จะรับราชการนานกว่านั้น ในขณะนี้กองทัพอากาศสหรัฐฯ เริ่มศึกษาเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบใหม่ที่จะมารับหน้าที่ต่อจาก บี-52 และ บี-1 ซึ่งในขณะนี้สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางการทหารของกระทรวงกลาโหม หรือ DAPRA ได้จีดทำโครงการเครื่องบินทิ้งระเบิดในอนาคต หรืออาจจะเป็น บี-3 โดยได้ว่าจ้างให้บริษัทผู้ผลิตอากาศยานในสหรัฐฯ ทำการศึกษาวิจัย ขณะนี้ได้คัดเลือกแผนแบบของอากาศยานไว้แล้ว 2 บริษัท เพื่อให้ทำให้การศึกษาต่อไป เครื่องบินทิ้งระเบิดในอนาคตของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จะมีความเร็วในการบินเดินทางเข้าสู่เป้าหมายด้วยความเร็วสูงถึง 2.4 มัค เพื่อลดเวลาในการเดินทางจากฐานที่ตั้งไปยังพื้นที่เป้าหมาย
เครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงไม่ใช่สิ่งใหม่สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในอดีตเคยมีการพัฒนาขึ้นมาใช้งานแล้ว แต่ประจำการอยู่ในช่วงเวลาอันสั้น เพราะแนวความคิดในการปฏิบัติการใช้กำลังทางอากาศของเครื่องบินทิ้งระเบิดได้เปลี่ยนไปก่อนที่จะนำท่านไปรู้จักรูปร่างหน้าตาของเครื่องบินทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ในอนาคต และขอย้อนอดีตไปรู้จักการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา
ในอดีตกองทัพอากาศสหรัฐฯ เคยมีโครงการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงมากกว่า 2 เท่าของความเร็วเสียงขึ้นมาใช้งานเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการทางยุทธการได้อย่างรวดเร็วในปลายปี ค.ศ. 1950 บริษัท คอนแวร์ ของสหรัฐฯ ได้ทำการพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-58 ฮัสท์เลอร์ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไอพ่นเทอร์โบเจต เจ 58 จำนวน 4 เครื่อง สามารถทำความเร็วในการบินเดินทางเข้าสุ่เป้าหมายด้วยความเร็วสูงถึง 2.4 มัค หรือ 2.4 เท่าของความเร็วเสียง บี-58 นับเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วเหนือเสียงแบบแรกของโลกน้ำหนักสูงสุดพร้อมบรรทุกอาวุธเต็มที่ 165,000 ปอนด์ บินได้สูงสุด 60,000 ฟุต สามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ได้ 1 ลูก และขนาดเล็กอีก 4 ลูก และติดใหญ่อากาศขนาด 20 มิลลิเมตร ที่ด้านท้ายเครื่องหนึ่งกระบอก อัตรายิงสูงสุด 6,000 นัดต่อนาที สร้างขึ้นมาจำนวน 104 เครื่อง ประจำการอยู่ในกองทัพอากาศระหว่างปี ค.ศ. 1960-1970 ต่อมากองทัพอากาศสหรัฐฯ ให้ความนิยมชื่นชอบเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-70 สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 3 มัค มีขนาดใหญ่กว่าและมีสมรรถนะทางการบินสูงกว่า บี-58 โดย บี-70 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไอพ่นเทอร์โบเจตขนาด 30,000 ปอนด์ ถึง 6 เครื่อง สามารถทำความเร็วได้สูงสุดมากกว่า 3 เท่าของความเร็วเสียง (2,056 ไมล์ต่อชั่วโมง) ความเร็วในการบินเดินทาง มัค 3 หรือ 2,000 ไมล์ต่อชั่วโมง มีพิสัยบินไกล 4,288 ไมล์ แต่อย่างไรก็ตาม บี-70 ไม่ได้รับการผลิตขึ้นมาใช้งานแม้แต่เครื่องเดียว
ปลายปี ค.ศ. 1960 หลักนิยมการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วสูงมากและมากกว่าความเสียง 2 เท่า และบินเข้าปฏิบัติการที่ระดับเพดานบินสูงได้เปลี่ยนไป เนื่องจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ เห็นว่าแนวความคิดในการใช้กำลังดังกล่าวทำให้เครื่องบินมีโอกาสถูกยิงตกสูงจากอาวุธต่อสู้อากาศยานที่ทันสมัย (SAM) โอกาสอยู่รอดควรเปลี่ยนมาทำการบินที่ระดับความสูงต่ำ และใช้ความเร็วประมาณ 0.9-1.2 มัค จากแนวความคิดในการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดปฏิบัติที่ระดับควาสูงต่ำทำให้โครงการเครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วสูงเหนือเสียงมากกว่า 3 เท่าของความเร็วเสียง แบบ อาร์เอส 71 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาต้องล้มเลิกไป อาร์เอส-71 กลายมาเป็นเอสอาร์ 71 สำหรับปฏิบัติลาดตระเวนทางอากาศ และไม่มีการผลิต บี 70 ที่อยู่ในระหว่างการทดสอบการบินขึ้นมาใช้งาน
แต่อย่างไรก็ตามแนวความคิดที่จะใช้เครื่องบินเข้าโจมตีเป้าหมายด้วยระเบิดในระดับความสูงต่ำ และบินด้วยความเร็วสูงต่ำกว่าเสียงได้พิสูจน์ให้เห็นเป็นแนวความคิดที่ผิดพลาด เครื่องบินขับไล่/ทิ้งระเบิดแบบ เอฟ-111 และเครื่องบินโจมตีทอร์นาโดของอังกฤษ ซึ่งถูกนำมาใช้ในสมรภูมิจริงตามแนวความคิดในการใช้กำลังทางอากาศในการทะลวงเข้าไปโจมตีในระดับความสูงต่ำและใช้ความเร็วต่ำกว่าเสียงมีการสูญเสียสูงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ปัญหาที่พบก็คือ เมื่อทำการบินต่ำจะมีพบเห็นจำนวนมาก แม้ว่ายุทธวิธีดังกล่าวจะสามารถหลีกเลี่ยงจากการ ถูกตรวจจับจากเรดาร์ระบบป้องกันทางอากาศและรอดพ้นจากการถูกยิงด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้อากาศยานประเภทนำวิถีด้วยเรดาร์ แต่การบินในระดับต่ำ จะต้องพบกับภัยคุกคามจากปืนต่อสู้อากาศยานและอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานประเภท ประทับบ่ายิง นักบินมีเวลาทำการสู้รบอันสั้นและไม่มีเวลาที่จะหลบหลีกให้พ้นจากการถูกยิง เพราะมีห้วงอากาศจำกัดที่จะทำการบินหลบหลีก ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ถูกนำมาใช้น้อยมาก แม้แต่เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1 ซึ่งได้รับการออกแบบให้ทำการบิน เข้าโจมตีเป้าหมายในระดับความสูงต่ำโดยใช้ความเร็วสูงประมาณ 600 ไมล์ต่อชั่วโมง ยังถูกนำมาใช้ปฏิบัติการน้อยมาก ซึ่งตั้งแต่นำเข้าประจำการนานนับ 10ปี มีการนำออกปฏิบัติภารกิจในสนามรบจริงเพียง 2 ครั้ง คือ สงครามโคโซโว และศึกถล่มอัฟกานิสถาน ...ในขณะที่สมมติฐานที่ว่าเครื่องบินทิ้งระเบิดที่บินปฏิบัติการด้วยความเร็วสูงและที่ระดับเพดานสูงจะมีโอกาสถูกยิงตกได้ง่ายกลายเป็นเรื่องสมมติฐานที่ผิดพลาด ในการปฏิบัติจริงเครื่องบิน เอสอาร์-71 ซึ่งบินปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนสอดแนมเหนือน่านฟ้าโซเวียตจากปี ค.ศ.1968-1990 ถูกยิงมากกว่า 1,000 ครั้ง ไม่มีรายงานว่าสหรัฐฯ สูญเสียแม้แต่เครื่องเดียว เครื่องบินมิก-25 ของกองทัพอิรัคซึ่งมีความเร็วสูง 2.5 มัค บินไปทิ้งระเบิดเป้าหมายในอิหร่านก็ไม่มีรายงานว่าถูกอาวุธภาคพื้นของกองทัพอิหร่านยิงตก ...การปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายที่ระดับเพดานบินสูงและใช้ความเร็วสูง นักบินอาจจะมีปัญหาในการเล็งอาวุธได้ยาก เพราะเครื่องบินบินด้วยความเร็วสูง อาทิเช่น การโจมตีทิ้งระเบิดด้วยเครื่องบิน มิก-25 แต่ไม่ใช่ปัญหาถ้าหากเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีเป้าหมาย เพราะมีอำนาจการทำลายล้างที่รุนแรงและมีพื้นที่ทำลายเป็นบริเวณกว้างและปัจจุบันมีการพัฒนาอุปกรณ์สำหรับช่วยในการเล็งอาวุธที่ทันสมัยเช่น เรดาร์ ระบบเครือข่าย และจีพีเอส ช่วยให้การใช้อาวุธต่อเป้าหมายของเครื่องบินที่บินปฏิบัติการด้วยความเร็วสูงและบินอยู่ที่ระดับเพดานบินสูงมีความแม่นยำสูงมาก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
686
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 471
ออฟไลน์
เพศ: 
กระทู้: 3988
|
 |
« ตอบ #223 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 07:01:29 PM » |
|
อิอิ  บทความของคุณ Hydra ตรงกับรูปที่ผมโพสได้ไงเนี่ย  เลยไม่ต้องอธิบายรูปมากเลย :  เครื่องบินทิ้งระเบิดความเร็วสูงกว่าความเร็วเสียงหลายเท่า ก็ไม่ไช่สิ่งที่ดีเสมอไป อย่าง SR-71 Blackbird ที่มีการเคลือบสีลดการสะท้อนเรด้า แต่ไอความร้อนท้ายเครื่องบินทำให้เรด้าในปัจจุบันจับเส้นทางการบินของมันได้ เป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร เครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่จึงมีระบบ 'Supercruise" ทั้ง F22 และ Euro Fighter Supercruise คือ การที่เครื่องบินบินด้วยความเร็วเหนือเสียง โดยที่ไม่ใช้สันดาปท้าย "After Burnner " เพราะ จะทำให้เกิดความร้อนเป็นแนวยาวอยู่บนเส้นทางบินจนเรด้าจับได้ อย่างที่ SR-71 โดน (เรื่องนี้คงทำให้ SR-71 ถูกปลดก็เป็นได้) [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
mb154cm
ชอบบรรยากาศที่อบอวลด้วยมิตรภาพ
ชาว อวป.
Hero Member
  
คะแนน 4
ออฟไลน์
กระทู้: 1221
|
 |
« ตอบ #224 เมื่อ: กันยายน 29, 2005, 07:05:17 PM » |
|
ได้ความรู้ดี 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|