เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
กันยายน 27, 2025, 10:41:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กรมราชองครักษ์แจกปืนสั้น-ลูกซอง 4.7พันกระบอก "ครู-อาสามสมัคร" ชายแดนใต้  (อ่าน 8925 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Orion
Full Member
***

คะแนน 256
ออฟไลน์

กระทู้: 437


« เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:21:28 AM »

>> จากมติชน 27/3/2552

กรมราชองครักษ์แจกปืนสั้น-ลูกซอง 4.7พันกระบอก "ครู-อาสามสมัคร" ชายแดนใต้

กรมราชองครักษ์เป็นห่วงประชาชนผู้บริสุทธิ์ ถูกผู้ก่อความไม่สงบฆ่าโดยไม่มีอาวุธต่อสู้ สั่งซื้อปืนสั้น-ลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ 4,700 กระบอก
แจก ครู ทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน ให้มหาดไทยออกใบอนุญาต เป็นปืนส่วนบุคคล หวั่นฝ่ายตรงข้ามยึดได้ไปโฆษณาชวนเชื่อ

ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์"รายงานเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 ว่า  กรมราชองรักษ์ได้หาเงินบริจาคสั่งซื้ออาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ STEYR PISTOL
รุ่น M-A1 และอาวุธปืนยาวลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BAIKAL รุ่น MP 153  รวม 4,700  กระบอก เพื่อให้ ครู ทหาร ตำรวจ และสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) อรบ.
ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยืมไว้ป้องกันตนเองและหมู่บ้านโดยให้กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนเหล่านั้น


แต่ยังมีปัญหาในข้อกฎหมายและอาจถูกฝ่ายตรงข้ามยึดไปโฆษณาชวนเชื่อ กระทรวงมหาดไทย จึงหารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา
ถึงแนวทางการใบอนูญาตให้มีและใช้อาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490
 ให้แก่กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งคณะกรรมการพิจารณาเห็นว่า นายทะเบียนท้องที่อาจพิจารณาออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนให้แก่ผู้รับโอนอาวุธปืน
จากกรมราชองครักษ์ได้โดยให้รัฐมมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตดังกล่าวได้เพื่อความสงบเรียบร้อย(เรื่องเสร็จที่ 262/2552)


ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว อธิบดีกรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนอาวุธปืนท้องที่กรุงเทพมหานครว่า
กรมราชองครักษ์ขอความอนุเคราะห์กระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกในการขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน
ให้กับครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ.เนื่องจากเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชนผู้บริสุทธิ์และครูถูกฆ่าโดยไม่มีอาวุธที่จะต่อสู้


กรมราชองรักษ์จึงได้หาเงินบริจาคสั่งซื้ออาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9  มม. ยี่ห้อ STEYR PISTOL รุ่น M-A1 จำนวน 700  กระบอก
เพื่อให้ครูและเจ้าหน้าที่ยืมใช้ป้องกันตัว และอาวุธปืนยาวลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ BAIKAL รุ่น MP 153 จำนวน 4,000  กระบอก เพื่อ
ให้ อรบ. ยืมไว้ป้องกันตนเองและหมู่บ้าน โดยกรมราชองครักษ์จะควบคุมด้วยการตรวจสอบประวัติผู้ยืม ยิงปืนทดสอบ เก็บประวัติอาวุธปืน ฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน
จัดทำใบยืมอาวุธปืน ซึ่งจะมีการเรียกผู้ยืมและอาวุธปืนมาตรวจสอบเพื่อต่ออายุใบยืม ปีละหนึ่งครั้ง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ ทหาร
และตำรวจในพื้นที่รับรู้การขึ้นทะเบียนและกำกับดูแลการใช้ปืน

 

ต่อมา กรมราชองครักษ์พิจารณาเห็นว่า การให้ยืมอาวุธปืนอาจมีปัญหาในอนาคต จึงมีความประสงค์จะโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการดังกล่าวให้กับผู้ยืม
และให้มีการอนุญาตให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ฯ จึงขอหารือไปยังกรมบัญชีกลางเพื่อขอยกเว้นหรือผ่อนผันไม่ปฏิบัติตามระเบียบ
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535  ซึ่งต่อมากรมบัญชีกลางได้แจ้งให้กรมราชองครักษ์ทราบว่า คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ได้อนุมัติยกเว้น
ให้กรมราชองครักษ์ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 157 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุฯ  โดยให้กรมราชองครักษ์สามารถโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการ
 จำนวน 4,700  กระบอก แก่บุคคลที่ได้รับการพิจารณาและให้ยืมใช้อาวุธปืนอยู่แล้วได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย  แต่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อ
บังคับ หรือมติคณะรัฐมนตรี



กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า อาวุธปืนของกรมราชองครักษ์ จำนวน4,700  กระบอก ที่จะโอนให้แก่ ครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ. เป็นอาวุธปืน
ของราชการทหารซึ่งได้รับการยกเว้นไม่อยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  นายทะเบียนท้องที่จึงไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้ 
จึงขอหารือข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติ ในกรณีดังกล่าวต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา
 

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 11)  เห็นว่า แม้ว่าการที่กรมราชองครักษ์ได้นำเข้าอาวุธปืนตามข้อหารือมาใช้ในราชการ ซึ่งอาวุธปืนดังกล่าวไม่ตกอยู่ภายใต้
บังคับของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  แต่เมื่อกรมราชองครักษ์ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ยกเว้นให้ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อ 157
 ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ ฯ  โดยให้กรมราชองครักษ์สามารถดำเนินการโอนอาวุธปืนทั้งสองรายการ ให้แก่บุคคล
ที่ได้รับการพิจารณาและให้ยืมใช้อาวุธปืนอยู่แล้วได้เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย


ฉะนั้น เมื่อกรมราชองครักษ์ได้โอนอาวุธปืนให้แก่ครู ทหาร ตำรวจ และ อรบ. เแล้ว อาวุธปืนเหล่านั้นก็จะตกเป็นของผู้รับโอน
และไม่เป็นอาวุธปืนของทางราชการอีกต่อไป
โดยต้องถือว่า อาวุธปืนนั้นเป็นอาวุธปืนส่วนบุคคลอันนายทะเบียนท้องที่สามารถจะนำบทบัญญัติว่าด้วย
อาวุธปืนส่วนบุคคลของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาใช้บังคับกับอาวุธปืนนั้นได้ นายทะเบียนท้องที่จึงอาจพิจารณาออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน
ให้แก่ผู้รับโอนอาวุธปืนดังกล่าวได้



อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า มีความจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนสมควรควบคุมปริมาณ
และการใช้อาวุธปืนก็อาจอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯในการออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตและอาจกำหนดให้ใช้บังคับ
ในบางท้องที่หรือทั่วราชอาณาจักรได้


 
บันทึกการเข้า
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:28:51 AM »

โอนให้เป็นของส่วนตัวไปเลยก็ดีครับ ผมว่าจะตั้งใจดูแลรักษาดีกว่าของยืม
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:33:21 AM »

เดี๋ยวนี้ ปืนแพง จนถึงขั้นต้องซื้อแจกกันแล้ว .....  คิก คิก คิก คิก

รายละเอียดต้องรอดูระเบียบการโอนอีก  ไหว้
บันทึกการเข้า

passado
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 15
ออฟไลน์

กระทู้: 265


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:35:15 AM »

เป็นโครงการที่ดีสำหรับพี่น้องภาคใต้ครับ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกท่านครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:44:52 AM »

กรมราชองครักษ์ และกรมบัญชีกลาง มีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก ๆ ครับ
แต่ กระทรวงมหาดไทย.....นี่  เฮ้อ......
บันทึกการเข้า
hare
Hero Member
*****

คะแนน 1785
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13043


มีแล้วไม่ต้องใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี


« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 11:02:57 AM »

ความคิดผม ขนาด รปภ. ของธนาคารยิงโจรที่ใช้ปืนปลอมปล้น ยังโดนข้อหาพยายามฆ่า
แล้วถ้าเป็นปืนยืม แล้วยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ก็ต้องดำเนินการตาม
กฎหมาย มิฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามจะใช้ช่องว่างนี้เล่นงานกับเจ้าหน้าที่ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติ
หน้าที่ ความสำคัญของใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ก็จะเกิดประโยชน์ตรงจุดนี้โดยเฉพาะ
สู้กันที่ชั้นศาลโอกาสหรือหนทางชนะคดีทุกท่านก็คงจะรู้กันนะครับผม  Grin

                                                                   ขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญ  ไหว้
บันทึกการเข้า

โป้ง*กันบอย - รักในหลวง
YOU'LL NEVER WALK ALONE
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1629
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16886


คนฮัก เต้าผืนหนัง........คนจัง เต้าผืนสาด


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 11:11:03 AM »

แจกเบเนลลี 121 ด้วยโอ้ว.......^^(ตามภาพ)
บันทึกการเข้า


naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 11:48:42 AM »

นายสมชายว่าเรื่องแบบนี้เขาเคยทำกันครับ ถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ แต่ทำกันเป็นรายบุคคล ไม่กี่กระบอก...

ที่โอนไปเป็นชื่อบุคคลนั่นเพราะต้องการให้ถูกกฏหมายตาม พรบ. อาวุธปืนครับ... แต่เมื่อสถานการณ์สงบแล้ว หรือว่าเมื่อราชการพิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคลนั้นๆ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธปืนของทางราชการ(ตามข้างต้น)อีกต่อไป... ส่วนราชการต้นเรื่องจะทำหนังสือทวงอาวุธฯ กับผู้ที่ได้รับโอน ให้บริจาคคืนให้หลวงก็ได้ครับ...

เฉพาะเท่าที่นายสมชายได้ยินมา เป็นเรื่องสัญญาสุภาพบุรุษ ครบสิบปีหมดเรื่องแล้วหลวงจะตามทวงคืน เพราะเป็นเงินหลวง ไม่บริจาคคืนแล้วนรกจะกินกบาล... ฮา
บันทึกการเข้า
flyingkob-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 361
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2396


"สุวิชาโน ภวัง โหติ" ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ


« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 03:03:34 PM »

เบื้องบนรู้ถึง.........ภยันตรายที่เกิดขึ้นทุกวี่วัน......แต่เบื้องล่างทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว.........ปล่อยให้ราคาปืนทะลุขนาดนั้น....ปืนสวัสดิการก็เช่นกัน..

จึงต้องลงมาช่วยผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ
บันทึกการเข้า

ตึกยาวหลังนี้ สอนให้เรารู้สำนึกถึงบุญคุณของแผ่นดิน
aka11"รักในหลวง"
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 8
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 255


« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 06:28:48 PM »

มีคนไข้....มาตรวจที่ผมคนหนึ่งแกพก สไตเออร์ มาด้วย  ผมเห็นแล้วก็ถาม แกว่า.... เป็นของสวัสดิการเหรอครับ แกก็บอกว่า...ใช่  ก็คุยกับแกสักพักหนึ่งก็จับใจความได้ว่า...แกเป็น ครู  อาจารย์2  ระดับ 7  อายุ  56+  มาจาก ยะลา..ปืนที่พกอยู่  เป็นสไตเออร์  ของสวัสดิการกรมราชองครักษ์  แจกจ่ายให้ยืมใช้  ปืนกระบอกนี้ไม่มีใบ ป.4  แต่มีใบคุมปืน อยู่คล้าย..บัตรประชาชน มีชื่อ-สกุล  รูปถ่าย  ที่อยู่  ยี่ห้อปืน   หมายเลขปืน   วันออกบัตร  -วันหมดอายุ    มีระยะเวลา  1ปี ต้องต่ออายุทุกปี เป็นปืน ปี 49  ราคาตอนนั้นประมาณ  19,000 บาท  (แกเป็นคนบอก)   อยากให้ราคาปืนตอนนี้  ......เท่าตอนนั้นจังเลยครับ......
บันทึกการเข้า

ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง                             ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
SOAP47 รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 333
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5792



« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 08:45:42 PM »

อ้าว steyr กลายเป็นของแจกไปซะแหระ ดีใจครับ จะได้มีของดีไว้ป้องกันตัวครับ
บันทึกการเข้า

THIS IS MY STEYR.
THERE ARE MANY LIKE IT, BUT THIS ONE IS MINE.
WITHOUT MY STEYR,I AM NOTHING.
WITHOUT ME, MY STEYR IS NOTHING.
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
*****

คะแนน 3539
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 12903



« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 08:53:48 PM »

โอนให้เป็นของส่วนตัวไปเลยก็ดีครับ ผมว่าจะตั้งใจดูแลรักษาดีกว่าของยืม

จริง ๆ ก็เป็นของครูนั่นแหละครับ  เพียงแต่ต้องทำเป็นเรื่องยืมก็เพราะต้องการให้ราคาถูกที่สุด (สไตเออร์ 17,000 บาท)   จึงซื้อมาแบบยกเว้นภาษี เป็นของส่วนราชการแล้วให้ครูยืมไปใช้   หักค่าเสื่อมราคาปีละ 20%  ครบ 5 ปีถึงโอนให้   ถึงเวลานั้นก็จำหน่ายออกจากบัญชีพัสดุ  และไม่เหลือราคาปืนให้เป็นฐานภาษีแล้ว
บันทึกการเข้า
SDH2th
Hero Member
*****

คะแนน 37
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2203

การให้สบายใจกว่าการรับ


« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 08:58:48 PM »

โอนให้เป็นของส่วนตัวไปเลยก็ดีครับ ผมว่าจะตั้งใจดูแลรักษาดีกว่าของยืม

จริง ๆ ก็เป็นของครูนั่นแหละครับ  เพียงแต่ต้องทำเป็นเรื่องยืมก็เพราะต้องการให้ราคาถูกที่สุด (สไตเออร์ 17,000 บาท)   จึงซื้อมาแบบยกเว้นภาษี เป็นของส่วนราชการแล้วให้ครูยืมไปใช้   หักค่าเสื่อมราคาปีละ 20%  ครบ 5 ปีถึงโอนให้   ถึงเวลานั้นก็จำหน่ายออกจากบัญชีพัสดุ  และไม่เหลือราคาปืนให้เป็นฐานภาษีแล้ว
..ขอบคุณครับ...ออกมาแต่ละที....กระจ่างทุกเรื่องครับ...+1
บันทึกการเข้า

เข้าเถื่อนอย่าหมิ่นพร้า  มีไป
เข้าศึกอย่านอนใจ       เฉื่อยช้า
อาวุธอย่าวางไกล        ขุกค่ำ  คืนแฮ
นอนแต่ยามหนึ่งอ้า      อาจป้องภัยพาล
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 27, 2009, 10:07:06 PM »

อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า มีความจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนสมควรควบคุมปริมาณ
และการใช้อาวุธปืนก็อาจอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯในการออกคำสั่งห้ามหรือจำกัดการออกใบอนุญาตและอาจกำหนดให้ใช้บังคับ
ในบางท้องที่หรือทั่วราชอาณาจักรได้

 ตกใจหน้าซีด  ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 28, 2009, 08:59:27 PM »

ขอบคุณมากครับท่านผู้การสุพินท์
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.058 วินาที กับ 21 คำสั่ง