ตามที่สัญญากับคุณAKM47ว่าจะไปถามมาให้ พิ้งค์ได้คำตอบมาเรียบร้อยแล้วค่ะสวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว อวป.
ขอบคุณพี่จอยครับ ที่อุตส่าห์นำข่าวหนังสือมาโฆษณาให้ถึงที่นี่
ผมในฐานะผู้ถอดความ เมื่อได้อ่านข้อสงสัยของแต่ละท่านแล้วก็พอเข้าใจได้ในความกังขาต่างๆ ครับ ผมเองก็มีชุดข้อสงสัยของตัวเองอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งที่มานี่ก็ไม่ได้มีคำตอบ หรือคำอธิบายใดๆ มาฝากกัน (ในส่วนของเนื้อหา-รายละเอียดการทำงานของ SEALs) หรอกครับ เพราะจะว่าไป ผู้ถอดความ ก็เหมือนร่างทรง ผู้เขียนเขาเขียนมาอย่างไร เราก็ส่งสาส์นต่อไปอย่างนั้น โดยมีข้อแม้ง่ายๆ ว่า ต้องเก็บเนื้อความไว้ให้ซื่อตรงต่อต้นฉบับที่สุด ส่วนเนื้อเรื่องมันจะออกมาสนุก หรือน่าเบื่อ อ่านดูคล้ายรายงานปฏิบัติการอย่างไรแล้วล่ะก็ ผมต้องยกทั้งโทษและประโยชน์ให้ผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว เพราะผมไม่มีหน้าที่ไปปรุงแต่งเนื้อเรื่องให้มีสีสันมากมายไปกว่าที่เขาเล่ามา
กล่าวสำหรับความสงสัยของคุณ akm47 ในเรื่องวิทยุติดต่อนั้น คุณคงไม่ได้อ่านอะไรตกหล่นไปหรอกครับ ตามตฉบ. ผู้เขียนเล่ามาอย่างนั้นจริงๆ ผมว่า ที่เตรียมไปน้อยก็เพราะคงเป็นเรื่องของภารกิจที่ มาร์คัส อธิบายไว้ว่า พวกเขาเป็น long range recon team ที่ต้องล้วงลูกกันลึกเข้าไปถึงในคอหอยของข้าศึกซึ่งทำกันอยู่เป็นประจำนั่นเอง
ไปทีก็หายกันไป 5-6 วัน แยกเป็นทีมเล็กๆ ชุดละ 4 คน แต่ละคนมีหน้าที่ซ้อนหน้าที่ ไหนจะอาหาร ไหนจะสัมภาระของเล่นล้ำยุคต่างๆ ที่ซีลเขาใช้กัน ไหนจะภูมิประเทศอันจะต้องปีนป่าย ผมว่าพวกเขาคงเอาไปเท่าที่เล่านั่นล่ะครับ อย่างที่มาร์คัสว่าไว้นั่นแหละ บทคนมันจะซวย...
อ้อคุณ akm47 ครับ ต่อข้อที่คุณติงว่าแปลกอย่างหนึ่ง ที่เจ้าหน้าที่ในทีม เลือกอาวุธรองเป็น sig แทนที่จะเป็น HK mark 23 นั้น...เท่าที่ผมทราบมา ปืนพกประจำหน่วยของซีลเป็น sig 226 ครับ และเชื่อว่าน่าจะยังไม่เปลี่ยนแปลงครับผม และต้องขอขอบคุณคุณ akm47 สำหรับ link สู่ video ครับ ผมเคยได้เห็นเพียงบางส่วนใน youtube ไม่เคยเห็นเต็มๆ อย่างนี้มาก่อน ดูแล้วก็ได้แต่ภาวนา ขออย่าให้พ่อแม่ หรือภรรยาของทหารเหล่านี้ได้มาเห็นมันเลย...ผมชอบลายเซ็นของคุณ akm47 ครับ ผมเองพอมีเพื่อนเป็น Marines อยู่บ้าง ลายเซ็นของคุณทำให้คิดถึงพวกมันกับวันเก่าๆ ที่มา r&r อยู่ด้วยกัน เมาทีไร...พวกมันท่องให้ฟังทุ้ก...ที
พี่จอย ที่พี่สงสัยเรื่อง video นั้นเป็นเหตุการณ์จริงของปฏิบัติการ red wing ครับ, ขอขยายเพิ่มเติมจากคุณ akm47 อีกนิดว่า...ศพแรกที่เห็นชัดๆ นั้น ดูจากป้ายที่แขนเสื้อด้านขวาคือ ไมค์กี้ แน่นอน ส่วนศพที่สอง (ใกล้โขดหินใหญ่ ถ่ายจากปลายเท้าขึ้นไป) นั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นใครระหว่าง แอ๊กซ์ กับแดนนี่, ส่วนบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่นั้น เป็นของแดนนี่ครับ (เจ้าหน้าที่สื่อสาร/ตายคนแรก) ถ้าดูตามรูปแถวยืน คนซ้ายสุดของภาพคือ แอ๊กซ์, ขวาสุด คือไมค์กี้ และคนที่สามจากขวา คือมาร์คัส (ผู้เล่า-ผู้เขียน) ส่วนแดนนี่ ไม่ปรากฏอยู่ในภาพนี้...ทั้งนี้ผมหมายถึง 4 คนในชุดสอดแนมที่ปะทะเป็นกลุ่มแรกนะครับ, ที่เหลือในภาพก็อย่างที่คุณ akm47 อธิบายไว้นั่นแหละครับ คือตายหมด (เว้นผู้เล่า) แต่เป็นการตามมาสมทบในภายหลัง เมื่อ ฮ. นำส่งถูกสอยร่วงเสียก่อน
คุณ แมลงวันหัวเขียวฯ ครับ ต่อเรื่องภาษาที่ใช้ทับศัพท์นั้น ผมขอน้อมรับคำติชมของคุณไว้ครับ ผมเห็นด้วยคล้ายๆ คุณว่าภาษาไทยก็สามารถระบุ/บ่งบอก ความรู้สึก ได้ใกล้เคียงกับภาษาต้นฉบับ ข้อนี้จริง แต่ขอโทษนะครับ, ขออนุญาตยกตัวอย่างนิดเถอะ เราผู้ชายด้วยกัน อย่าถือผมนะ เอาคำเบาะๆ ที่สุดก่อนแล้วกัน...อย่างคำว่า dick heads ที่ มาร์คัสใช้บ่อยมากในเรื่อง ภาษาไทยเราก็มีครับ เพื่อนๆ ที่เป็นทหารไทยก็ใช้เรียกแทนชื่อเพื่อนรักอยู่บ่อยๆ แต่ขืนผมถ่ายทอดออกมาตรงๆ ก็มีหวัง สนพ. ถูกปิด
อย่างที่ผมเขียนแถลงไว้ในหน้า คำแก้ตัวของผู้ถอดความ นั่นแหละว่า นี่เป็นคำของทหาร ภาษาของนักรบ ในเวป อวป. นี่ก็มีพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เป็นทหารอยู่หลายต่อหลายคน ภาษาเชิงสนิทของพวกพี่ๆ เวลาเขาเล่าอะไรให้ฟังนั้น ก็รู้อยู่ว่ามันมีสีสันฟังมันจะตายไปครับ เพียงแต่เราถ่ายทอดมันออกมาเป็นภาษาเขียนไม่ได้เท่านั้นเอง แต่สำหรับทางฝั่งฝรั่งนั้น ไม่มีกฎหมายห้ามพิมพ์คำหยาบ คำลามก-สัปดน
จะให้ผมเอาประโยคอย่าง ไอ้พวกบ้าเนี่ย ไปใส่แทนคำ (ภาษาอังกฤษข้างบน) นั้น ผมก็กลัวว่า จะถ่ายทอดมาร์คัสออกมาเป็นแต๋วไปหน่อย, จึงใช้วิธีทับศัพท์บ้าง ในบางคำด่าที่แปลไม่ได้จริงๆ, หรือเพี้ยนเสียงบ้าง แล้วแต่กรณี สำหรับอาวุธและยุทธภัณฑ์สงครามนั้นก็ไม่ต้องพูดถึง เราทับศัพท์กันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว การขานรับคำสั่งของ SEALs, Rangers และ Marines คือ ฮูยา อันนั้นผมก็จนปัญญา จะไปเปลี่ยนเขาก็รู้สึกกระไรอยู่ จากนั้นก็มีศัพท์แพทย์ ที่ผมนึกไม่ออกว่าจะแปล chest tube ออกมายังไง...นอกเหนือจากนี้ ผมยอมรับผิดเรื่องคำทับศัพท์ครับ (คริ คริ...แปลว่าอะไร ผมไม่แน่ใจนัก แต่อ่านแล้วก็ได้ยิ้ม ว่านักเล่นปืนสมัยนี้ ใช้ภาษาน่ารักดี คริ คริ...สมัยเมื่อยี่สิบ-สามสิบปีก่อน แต่ละคน ท่าทางเหมือน ซามูไร ขรึม นิ่ง และน้อยคำ...นั่งอยู่ใกล้ๆ นี่ไม่ได้ยินหรอก เสียงน่ะ...ได้แต่กลิ่น solvent หึ่งเลย) คริ คริ ด้วยครับ
ไหนๆ เมื่อยอมรับผิดแล้ว ขอยอมรับผิดต่ออีกเรื่อง สองเรื่อง...คืออายุของแดนนี่ครับ
อายุที่แท้จริงของเขาตอนเกิดเรื่องนั้น น่าจะเป็น 24 ไม่ใช่ 34 ผมล่ะฉุนขาด เพราะเพิ่งมาเอะใจเอาตอนที่มาเห็น video bud class ของเขาใน you tube หลังจากที่ต้นฉบับส่งพิมพ์ไปเรียบร้อยแล้ว รู้สึกว่าเขาจะอยู่ในชั้น 230 หรืออะไรที่ไล่ตามหลังชั้นของ มาร์คัสมาติดๆ นี่แหละ จึงสำเหนียกได้ว่า อายุของเขาน่าจะผิด และเมื่อย้อนดู ตฉบ. ภาษาอังกฤษจึงทราบว่า เขาเขียนผิดมาตั้งแต่ต้นในหน้า 182 ย่อหน้าที่ 2 จะอย่างไรก็ตาม ผมขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขออีกเรื่อง...
http://www.youtube.com/watch?v=VQebS8WUYuAมาร์คัสออกมาเปิดเผย กึ่งแก้ข่าวในเรื่องของจำนวนนักเรียนที่เขาบันทึกไว้ในหนังสือ ตัวเลขที่แท้จริงของนักเรียนที่จบใน bud class ของเขาคือ 10 คน จากจำนวนเริ่มต้นที่ 164 ครับผม
อย่าถือผม, ผู้ไม่ใช่สมาชิกประจำ และถือวิสาสะเข้ามาคุยที่นี่เลยนะครับ, น้องพิ้งค์ไปตามผมมา ผมก็เข้ามาเล่า มาชี้แจงในส่วนที่พอจะตอบได้ ถือเป็นการฝากความมาเล่าสู่ ในฐานะคนรักปืนเหมือนกัน ก็แล้วกัน
ขอบคุณครับที่อุตส่าห์ไปซื้อหนังสือมาอ่าน ผมทราบดีว่าเล่มนี้หายากมาก (ท่านที่ยังหาหนังสือไม่ได้ก็ยืมเพื่อนอ่านเอาเถอะครับ ฝ่ายการตลาดมันหยิ่งนัก ก็อย่าไปซื้อแม-แอ้งเลยครับ นี่ผมไม่ได้ประชดนะ) อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่ได้มาครอบครองแล้ว ผมขอให้อ่านกันให้สนุกครับ ข้อผิดพลาดอันใดที่คอมมานโดชุดนี้กระทำ หรือไม่กระทำลงไป หากท่านใดจะเก็บจำไปเป็นวิทยาทาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปรับปรุงในหน่วยรบใดของเราต่อไป ผมก็ขออนุโมทนาด้วย อันไหนที่มันฟังดูเกินจริง ก็ถือว่าอ่านเอามันก็แล้วกันครับ
...ไว้หนังออกเมื่อไหร่ เรายกโขยงไปเหมาโรงดูด้วยกันคงจะเข้าท่าไม่น้อย เห็นข่าวว่า peter berg เป็นผู้กำกับ, (เจ้าของผลงานเรื่อง the kingdom และ lions for lambs) คงน่าดูทีเดียวครับ
ด้วยความเคารพ
วิษณุฉัตร วิเศษสุวรรณภูมิ