เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 15, 2025, 10:18:11 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประเทศไทย.....ที่นี่ปลอดภัยไม่ได้น่ากลัว  (อ่าน 4079 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 02:09:08 PM »

 ไหว้ ไหว้ ไหว้




“สถานการณ์ภาคใต้ หรือไข้หวัดระบาด ที่ทำให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยตกลง จริงๆแล้วที่นี่ปลอดภัยไม่ได้น่ากลัว
ฉันเองอยู่ที่นี่ก็ยังไม่มีอะไร สงบสุขดี เรื่องที่สอง ประเทศไทยในแง่ของความเป็นคนไทย ซึ่งนิสัยดีมาก มีความอบอุ่น
เป็นคนที่มีจิตใจงดงาม ด้านวัฒนธรรมก็คล้ายกับชาวภูฏาน เป็นเมืองพุทธเหมือนกัน อีกประการคือ พระมหากษัตริย์ของ
ไทย เหมือนกับที่ภูฏาน เพราะรักประชาชนเหมือนกัน แล้วอยากเห็นประชาชนอยู่ดีมีสุข…”


       
       องค์หญิง “ยีหวาง พินดาริกา” แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ตรัสถึงเมืองไทยในยุคที่กำลังประสบปัญหามากมาย แต่ยังคง
ความน่าอยู่ตลอดช่วง 2 ปี ที่พระองค์ทรงศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ไทยแลนด์) ประชาชนชาวไทยคงได้รู้จักและ
คุ้นเคยกับสมเด็จพระราชาธิบดีจีกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และพระองค์หญิงยีหวางนี้มีศักดิ์เป็นพระญาติเรียงพี่เรียงน้องใน
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีฯ นั่นเอง
       


       M- Lite ได้รับประทานพระวโรกาสจากองค์หญิงยีหวางให้เข้าเฝ้าสัมภาษณ์ ด้วยสีพระพักตร์ที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแย้ม
แจ่มใส และทรงเป็นกันเอง ทรงฉลองพระองค์สบายๆ ที่ทรงหอบใส่กระเป๋าสะพายมาเพื่อให้เราได้ฉายพระรูป


       
       องค์หญิงยีหวางทรงเรียนวิชาด้านการสื่อสารมวลชนและการสื่อสาร หรือที่บ้านเราเรียกศาสตร์เหล่านี้ว่านิเทศศาสตร์
ที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ประเทศไทย) ที่มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลก สำหรับเมืองไทย มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ตั้งอยู่
ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีนักศึกษาแต่ละเทอมไม่เท่ากันเนื่องจากว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติ และสามารถโอน
ย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยนี้ในต่างประเทศได้ในทุกเทอม แต่สำหรับพระองค์หญิงแห่งภูฏาน พระองค์ทรงเลือกมาเรียนที่
ประเทศไทย เนื่องจากเมืองไทยใกล้และมีลักษณะภูมิประเทศไม่แตกต่างจากบ้านเมืองของพระองค์หญิงมากนัก




       
       “ที่เลือกมาเรียนที่ประเทศไทยเพราะว่าใกล้บ้าน รู้สึกว่าสามารถที่จะกลับบ้านได้บ่อยขึ้น สาเหตุที่มาเรียนที่เว็บสเตอร์
เพราะเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติ แล้วก็มีเพื่อนที่ 40 กว่าประเทศทั่วโลกในห้องเรียน ซึ่งฉันคิดว่าฉันมีโอกาสที่ดีมาก”


       
       “ฉันชอบที่เงียบๆ เล็ก ๆเพราะว่าคล้ายที่ภูฏาน เพราะที่นั่นเล็กแล้วก็เงียบ หัวหินเป็นอะไรที่เล็กเงียบและสงบ ไม่วุ่นวาย
แต่น้องฝาแฝดจะชอบเมืองใหญ่ เขาเลยเลือกไปเรียนที่แคนาดา เป็นคู่แฝดที่ต่างกันพอสมควร นัมเซ (namzay) ฝาแฝด
ของฉัน เป็นอะไรที่สนิทกันมาก ฉันรู้สึกดีมีอะไรที่พิเศษการที่มีพี่น้องฝาแฝด เหมือนมีเพื่อนอยู่ตลอดเวลา ตอนแรกที่ห่าง
กันคิดถึงมาก แต่ตอนนี้ค่อนข้างชินแล้ว ปกติแล้วน้องฝาแฝดรู้จักประเทศไทยดี เพราะว่ามาเที่ยวประเทศไทย มาบ่อยมาก”


       
       เมื่อเอ่ยถึงพี่น้องฝาแฝดซึ่ง พระองค์ทรงมีพระเชษฐาเคยร่ำเรียนในประเทศไทยมาแล้ว และเมื่อมีโอกาสได้มาเรียนที่นี่
องค์หญิงยีหวางทรงเลือกเรียนศาสตร์ด้านการสื่อสาร และการโฆษณา เพื่อจะได้ใช้วิชาการเหล่านั้นไว้โปรโมตประเทศของ
พระองค์ในด้านต่างๆ
       


       “ฉันชอบครีเอทีฟและงานสร้างสรรค์มาก สื่อเองก็กำลังพัฒนา ถ้าเรียนด้านนี้ก็คงจะกลับไปโปรโมตและสื่อสารเมือง
ภูฏานให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้ เพราะว่าภูฏานตอนนี้ยังเป็นประเทศเล็กๆยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก”

       



       “จริงๆ แล้วการเรียนให้ดีไม่ได้เป็นความกดดันมาก แต่มองว่าเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องเรียนให้ดี เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีของ
วัยรุ่น เด็กรุ่นใหม่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ความกดดัน แต่ก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อให้เรียนดี วัยรุ่นที่ภูฏานไม่ได้แข่งขันกันเรื่องเรียน แต่
แข่งขันกันเข้าทำงานมากกว่า แต่ก็ยังชอบความสนุกสนาน”



       
       เมื่อทูลถามถึงผลการเรียนพระองค์หญิงตรัสถ่อมพระองค์ว่าเรียนระดับปานกลาง และอยากมีประสบการณ์กลับไปพัฒนา
สื่อแห่งภูฏาน และอีกเพียงหนึ่งปีเท่านั้นที่พระองค์หญิงยีหวางจะจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และหากมีโอกาส พระองค์มี
พระประสงค์จะทรงงานที่เมืองไทยเช่นกัน
       


       “มาเรียนที่นี่ชอบวิชาโฆษณามากๆ แล้วก็ถามว่าเรียนดีมั้ย ฉันเรียนระดับปานกลาง (อาจารย์แอบกระซิบว่าพระองค์ทรงเรียนดี)
อีกปีหนึ่งจบอยากจะทำงานก่อน เพื่อจะหาประสบการณ์ ก่อนที่จะเรียนต่อ ท่านแม่อยากให้ทำงานนอกประเทศภูฏานก่อน เพื่อหา
ประสบการณ์ อยากทำงานที่ประเทศไทยเหมือนกัน ถ้ามีโอกาส”





       
       สำหรับความสนิทสนมกับสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก นั้น พระองค์หญิงตรัสว่าในสมัยที่ยังทรงพระเยาว์
ด้วยพระชันษาห่างกันมาก พระราชาธิบดีจิกมีจะทรงเล่าเรื่องตลกๆ และวิ่งไล่จับกัน อีกทั้งยังทรงมีความเป็นห่วงเป็นใยกันเป็น
อย่างมาก แต่ปัจจุบันพระองค์ทรงงานหนัก และอีกทั้งพระองค์หญิงมาศึกษาต่อที่ประเทศไทย จึงไม่ได้มีโอกาสพบกันมากเหมือน
แต่ก่อน แต่พระองค์หญิงยีหวางตรัสกับเราว่าทราบดีว่ากษัตริย์องค์ปัจจุบัน โด่งดังและเป็นที่รักของคนไทยไม่น้อย


       
       “พอทราบนะว่าท่านจิกมีฟีเวอร์มากที่นี่ เพราะว่านั่งแท็กซี่เวลาไปโรงแรม ผู้คนจะถามว่ามาจากประเทศไหนเขาก็จะบอกว่า
พระราชาธิบดีจิกมี พูดถึงเยอะมาก เลยทราบว่าพระองค์ท่านเป็นที่รักของชาวไทย ตอนนี้ไม่ได้คุยกันมาก เพราะว่าท่านราชาธิบดี
มีพระราชภารกิจมาก แล้วฉันเองก็มาเรียนที่นี่ จะคุยกันก็มีตอนที่กลับบ้าน ส่วนใหญ่จะถามว่าเรียนเป็นอย่างไร สบายดีหรือเปล่า
ตอนที่เด็กๆ จะพูดคุยกันบ่อยตอนเด็กๆวิ่งไล่จับกัน ท่านจิกมีก็ชอบคุยกับน้องๆ เล่นกันบ่อย ห่างกัน 8 ปี ท่านก็ยังเป็นวัยรุ่นในวัย
ที่น้องๆ ยังเป็นเด็ก”
       


       พอทูลถามถึงสถานการณ์ข่าว ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งเรื่องราวของแวดวงบันเทิง พระองค์หญิงทรงพระปรีชา
รอบด้าน และเมื่อทูลถามถึงสถานการณ์การเมืองแห่งราชอาณาจักรภูฏาน พระองค์ทรงเล่าว่าเพิ่งเริ่มมีประชาธิปไตยจึงยังไม่มีการ
ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยดังเช่นบ้านเรา และที่สวมเสื้อลาย Che Guevara ก็เป็นเพียงแฟชั่นเท่านั้น แต่ทรงรับรู้ว่าคือนักปฏิวัติ
คนหนึ่ง


       
       “ที่สวมเสื้อลาย Che Guevara จริงๆเป็นแค่แฟชั่น (ทรงยิ้ม) และรู้ว่าเขาคือนักปฏิวัติคนหนึ่ง ส่วนเรื่องการเมืองที่ภูฏานยังไม่มี
แบบแบ่งแยก เพราะเพิ่งเริ่มต้นของการเป็นประชาธิปไตย ประเทศภูฏานเป็นประเทศที่สงบมาก ที่ไม่มีความขัดแย้งแบ่งแยกเป็นกลุ่มๆ
เพราะว่าพระราชาธิบดีจิกมี ท่านรวมทุกคนเป็นหนึ่งเดียว ประชาชนของท่านนี่รวมเป็นหนึ่งเดียว คือรักพระองค์ท่าน"




       
       สำหรับการจากบ้านจากเมืองมาศึกษาที่เมืองไทยนั้น พระองค์หญิงใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนอีกทั้งทรงดูแลทำความสะอาดห้อง
ด้วยพระองค์เอง และทำเป็นทุกอย่าง และทรงเล่าว่าไม่เคยคิดอยากให้เพื่อนนักเรียนด้วยกันทราบว่าพระองค์เป็นใคร ส่วนฉลอง
พระองค์นั้นทรงแต่งธรรมดาไม่พิถีพิถันหรือทรงจับจ่ายฟุ้งเฟ้อแต่อย่างใด และทรงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย


       
       “ตอนมาเรียนที่นี่ ฉันไม่อยากให้เพื่อนทราบ แต่หลังๆ เพื่อนๆทราบก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนเพราะว่าเรียนนานาชาติทุกคนเท่ากันหมด
ท่านแม่สอนให้ทำงานเองแต่เล็กๆ ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แม้ว่าจะมีคนช่วยก็ตาม แล้วฉันก็ชอบที่จะทำอะไรด้วยตนเอง ท่านแม่ไม่
ได้ตามใจ ปกติระวังเรื่องค่าใช้จ่ายและระวังเรื่องเงิน ไม่ใช้สุรุ่ยสุร่ายอยู่แล้ว อยู่อย่างง่ายๆ”


       
       ทูลถามทิ้งท้ายว่า พระองค์หญิง มีงานอดิเรกอย่างไรบ้าง หนึ่งในนั้นมีการฟังเพลงไทย อย่างเช่น วงบอดี้สแลม หรือโปเตโต้
ซึ่งพระองค์ทรงฟังตามพระเชษฐาซึ่งโปรดเพลงไทยมาก และในประเทศของพระองค์ซึ่งประกาศว่าไม่สนใจ GDP แต่ใส่ใจและวัด
ความสุขประชาชนเป็นดัชนีชี้วัดคนในประเทศ เมื่อทูลถามถึงความสุขของพระองค์หญิง พระองค์ตรัสมีความสุขเต็มเปี่ยมและจะสุข
มากขึ้น หากพระองค์ได้พบกับพระมารดามากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่


       
       “ตอนนี้ในแง่ของความสุขนี่ ดัชนีความสุขของฉันแฮปปี้มาก อยากจะเพิ่มความสุขมากขึ้นก็อยากเจอท่านแม่มากกว่านี้ ตอนนี้
เจอกันปีละ 2 ครั้ง แต่ถ้าในแง่ของความรู้สึก กับแม่นี่ใกล้ชิดมาก”

       
       *****
       
       “ในฐานะที่เรียนเพื่อเป็นสื่อก็อยากเห็นสื่อมีข้อมูลที่ลึก และมากขึ้น แล้วก็เป็นข้อมูลที่เป็นจริง และสื่อไม่ควรจะถูกควบคุมโดยใครคนใดคนหนึ่ง” ...ความหมายของสื่อในพระดำริของพระองค์ยีหวาง พินดาริกา แห่งภูฏาน




       
      พระประวัติ
       
       ยี หมายถึงโชคดี หวาง หมายถึงพร ที่ให้โชคดี ยีหวางแปลว่า พรแห่งความโชคดี พินดาริกา คือดอกไม้ยามรุ่งอรุณ
พระชันษา 21 ปี มีพระเชษฐภคินีหนึ่งพระองค์พระเชษฐาสองพระองค์ และพระขนิษฐาฝาแฝดอีก 1 พระองค์ องค์หญิง
ยีหวางเป็นพระธิดาของเจ้าหญิงเดกี้ เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 2 ของภูฏาน
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จิ วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 3 และสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 4 ซึ่ง
เป็นพระราชบิดากษัตริย์ภูฏานองค์ปัจจุบัน เป็นพระราชปิตุลา (ลุง) ขององค์หญิง ดังนั้นองค์หญิงจึงเป็นพระญาติเรียง
พี่เรียงน้องในกษัตริย์ภูฏานองค์ปัจจุบัน
       
       ภาพโดย วรงค์กรณ์ ดินไทย

หัวเรื่อง

เจ้าหญิง "ยีหวาง พินดาริกา" : ดอกไม้ยามรุ่งอรุณแห่งภูฏาน

จาก

Click
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 02:16:50 PM »

"เมืองไทยน่าอยู่ คนน่ารัก อาหารอร่อย" กลั่นจากใจ องค์หญิงภูฏาน

ด้วยความประทับใจ ในหลายสิ่งหลายอย่าง ของประเทศไทย ทำให้เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์วังชุก ของราชอาณาจักรภูฏาน
ตัดสินใจเลือกประเทศไทย เป็นสถานที่ศึกษาต่อ สร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีงาม ระหว่างไทย-ภูฏาน...


นับตั้งแต่ "มกุฎราชกุมารจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน" (พระยศขณะนั้น) ได้เสด็จฯมาร่วมงานพระราช
พิธีฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี 2549 เรื่องราวของราชวงศ์และประเทศภูฏานก็ได้กลายเป็น
ที่สนใจของคนไทยเป็นอย่างมาก ถึงขั้น "จิกมี ฟีเวอร์" เลยทีเดียว


แต่ไม่เฉพาะคนไทยที่เป็นปลื้มและให้ความสนใจเกี่ยวกับประเทศภูฏานเท่านั้น   ชาวภูฏานเองก็มีความผูกพันกับเมืองไทย
โดยเฉพาะสมาชิกในราชวงศ์วังชุกแห่งภูฏาน ก็โปรดปรานประเทศไทยมิได้ยิ่งหย่อนกว่ากันเลย   โดยไม่เพียงเลือกเมืองไทย
เป็นสถานที่พักผ่อนและแหล่งรักษาพยาบาลเท่านั้น   แต่ยังเลือกให้เป็นสถานที่ศึกษาของสมาชิกในราชวงศ์ภูฏานอีกด้วย


"องค์หญิงยีหวาง พินดาริกา แห่งภูฏาน" เป็นหนึ่งในสมาชิกแห่งราชวงศ์วังชุกที่เลือกมาศึกษาต่อที่เมืองไทย โดยกำลังศึกษา
อยู่ที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ (ประเทศไทย) โอกาสนี้ ทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ ได้รับอนุญาตให้เข้าสัมภาษณ์ถึงการใช้ชีวิตใน
เมืองไทยในฐานะนักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่ง


องค์หญิงยีหวาง ได้ทักทายอย่างเป็นกันเองก่อนที่จะเริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสว่า  ท่านเป็นธิดาของเจ้าหญิง
เดกี้  เป็นพระธิดาของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 2 ของภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จิ วังชุก
กษัตริย์องค์ที่ 3 คือท่านลุงขององค์หญิง และสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 4 (พระราชบิดากษัตริย์ภูฏาน
องค์ปัจจุบัน) เป็นราชโอรสของท่านลุง จึงมีศักดิ์เป็นลูกผู้พี่ลูกผู้น้องขององค์หญิง





เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เค เซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์องค์ที่ 5 (องค์ปัจจุบัน) องค์หญิงยีหวาง
อธิบายว่า ถ้าตามศักดิ์ท่านเป็นอา (ของกษัตริย์จิกมี) แต่ไม่ใช่สายตรง แต่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันดี   และด้วยความที่สมเด็จ
พระราชาธิบดีจิกมีทรงมีพระชนมายุมากกว่า   จึงเปรียบเสมือนพระเชษฐาองค์โตขององค์หญิง หากอยู่ภูฏานก็จะใกล้ชิดกัน เพราะ
สมาชิกในราชวงศ์วังชุกค่อนข้างสนิทกัน แต่นับตั้งแต่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงขึ้นครองราชย์และองค์หญิงมาศึกษาที่เมืองไทย   
เลยทำให้ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนักตอนนี้อายุ 21 ปีแล้ว มีพี่สาว 1 พี่ชาย 2 และยังมีพี่สาวซึ่งเป็นฝาแฝดกับองค์หญิงอีกด้วย ซึ่ง
กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา


สำหรับองค์หญิงยีหวาง เริ่มต้นการศึกษาที่ภูฏานจนถึงเกรด 4 จึงไปเรียนต่อชั้นประถมศึกษาที่เซนต์ เฮเลน คอนแวนท์ ในเมือง Kurseong, Darjeeling ประเทศอินเดีย และไปเรียนมัธยมศึกษาที่โรงเรียน Kodaikanal International School ซึ่งสอนตั้งแต่ชั้น
ประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนปลายที่เก่าแก่ที่สุดในอินเดีย ตั้งอยู่ที่เมือง Tami Nadu ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้องค์หญิงสามารถพูดได้
ถึง 5 ภาษาคือ Dzongkha, Bhumthap (ภาษาท้องถิ่นของภูฏาน), ภาษาอังกฤษ, ฮินดี, เนปาล และยังได้เรียนภาษาฝรั่งเศสตอน
เรียนมัธยมอยู่ 2 ปี ขณะนี้ก็กำลังเรียนภาษาไทยที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์-หัวหิน   แต่ยังไม่คล่องเท่าไหร่ตอนที่องค์หญิงตัดสินใจ
มาเรียนที่เมืองไทย สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีได้พระราชทานคำแนะนำอะไรบ้างไหมคะ


"พระองค์รู้สึกดีใจที่ฉันเลือกมาเรียนที่ประเทศไทย   เพราะท่านรักประเทศไทย   คนไทยทำให้พระองค์ทรงรู้สึกเหมือนเป็นบ้านของ
พระองค์เอง พระองค์รับสั่งว่า ขอให้โชคดีและเดินทางโดยสวัสดิภาพ นอกจากฉันแล้วตอนนี้ยังมีองค์ชายจาโช จิกมี นัมเกล จอร์จิ
มาเรียนที่มหาวิทยาลัยรังสิตด้วย"




ทำไมถึงเลือกมาเรียนที่เมืองไทยล่ะคะ

"เพราะที่นี่ไม่ไกลจากภูฏานมากนัก ฉันอยากอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว   จะได้ไป-มาเยี่ยมกันได้ง่าย การเดินทางไปภูฏาน
ใช้เวลาไม่นาน เพียง 4 ชั่วโมง แต่ต้องไปลงที่อินเดียก่อน และฉันก็ชอบเมืองเล็กๆ สงบๆ ส่วนพี่สาวฝาแฝดของฉัน
ชอบเมืองใหญ่ เขาเลยเลือกไปแคนาดา เราเลยแยกกันเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ฉันคุ้นเคยกับเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศ
ที่น่าอยู่ คนไทยก็น่ารัก อาหารก็อร่อย   เลยเลือกมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์-หัวหิน ซึ่งพี่ชายฉันก็จบจากที่นี่   
และเรียนที่นี่ก็ได้ปริญญาของอเมริกา เพื่อนร่วมชั้นก็เป็นชาวต่างชาติจากทั่วโลก   เป็นประสบการณ์ที่ดีที่จะได้เรียนรู้
วัฒนธรรมระหว่างตะวันออกและตะวันตก   นอกจากนี้   ในแต่ละเทอมยังสามารถไปเรียนต่อที่แคมปัสอื่นในประเทศต่างๆ 
เช่น  ที่ลอนดอน,  เจนีวา, ญี่ปุ่น หรือเซี่ยงไฮ้ แล้วกลับมาเรียนที่เมืองไทยต่อได้ด้วย"


แม้ทางมหาวิทยาลัยจะเปิดโอกาสให้โยกไปเรียนแคมปัสอื่นในมหาวิทยาลัยเดียวกันได้ แต่ องค์หญิงยีหวาง บอกว่า
ไม่คิดจะโยกย้ายไปเรียนที่อื่น ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้นปี 3 สาขาสื่อสารมวลชนและการสื่อสาร โดยจะเน้นหนักไปที่การ
โฆษณาและการตลาด การที่เลือกเรียนทางด้านนี้ องค์หญิงยีหวาง บอกว่า ชอบด้านสื่อมาตั้งแต่เด็ก โดยหวังว่าเมื่อจบไป
แล้ว   จะนำความรู้ด้านโฆษณาไปทำการประชาสัมพันธ์ ประเทศภูฏานในอนาคต


ส่วนชีวิตการเป็นนักศึกษาขณะนี้ องค์หญิงยีหวาง เล่าว่า การอยู่ที่นี่เป็นการท้าทายตัวเอง   เพราะต้องพบกับชีวิตที่แตกต่าง
จากที่เคยเป็นอยู่  อย่างการอยู่ด้วยตัวเองในอพาร์ตเมนต์  มีภาระรับผิดชอบมากขึ้น และทำความเคยชินกับระบบศึกษาที่แตก
ต่าง   ต้องทำความรู้จักเจ้าหน้าที่และนักเรียนทุกๆคนในฐานะเพื่อน


เพื่อนๆนักศึกษาทราบหรือไม่คะว่า ท่านเป็นองค์หญิงแห่งภูฏาน


องค์หญิงยีหวาง ยิ้มอย่างสดใสก่อนบอกว่า "ตอนแรกไม่ทราบ คิดว่าฉันเป็นคนไทยด้วยซ้ำ พอตอนหลังมีคนพูดให้ได้ยิน พวก
เขาก็เข้ามาถาม พอรู้ก็ล้อฉัน เป็นเรื่องตลกไปเลย แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ทำตัวเหมือนเดิม เป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่
เพื่อนๆเป็นนักเรียนชาวอเมริกัน เขาไม่รู้สึกแตกต่างอะไร"


แล้วท่านพ่อท่านแม่ขององค์หญิงทรงเป็นห่วงหรือแนะนำอะไรบ้างไหม


"ท่านไม่ห่วงอะไรมาก บอกให้ตั้งใจเรียน ใช้ชีวิตอย่างปกติ ทำทุกอย่างที่ตัวเองอยากทำ แต่ให้คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
และให้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ทำทุกอย่างเพราะคนอื่นอยากให้ทำ เราจะคุยกันค่อนข้างบ่อย อาทิตย์ละ 2 ครั้ง และฉันก็จะ
กลับบ้านปีละ 2 ครั้ง ทุกซัมเมอร์และช่วงวันหยุดอีก   หรือมีงานพระราชพิธีก็กลับไป"


เมื่อถามถึงความผูกพันระหว่างเมืองไทยกับสมาชิกในราชวงศ์วังชุก องค์หญิงยีหวาง บอกว่า "ค่อนข้างคุ้นเคย เมืองไทยเป็น
ที่โปรดของราชสำนัก เพราะถ้าเลือกสถานที่พักผ่อนหรือช็อปปิ้ง จะคิดถึงเมืองไทยก่อนเลย ตอนฉันอายุ 13-14 ปี ก็มาเที่ยว
เมืองไทยเกือบทุกปีตอนฤดูหนาว"


แล้วคนภูฏานล่ะคะ รู้จักเมืองไทยมากน้อยแค่ไหน

"พวกเขารู้จักเมืองไทยดีนะ ส่วนใหญ่เขาก็ชอบเมืองไทย อยากจะมาบ่อยๆ เพราะวัฒนธรรมมีความคล้ายคลึงกัน
แล้วก็ชอบช็อปปิ้งที่นี่ ชอบคนไทยด้วย"

พร้อมกันนี้ องค์หญิงยีหวาง ยังบอกอีกว่า เมื่อกลับไปประเทศภูฏานแล้ว หากใครถามถึงเมืองไทย องค์หญิงจะช่วยประชา
สัมพันธ์ให้เลยว่า เมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงามหลายแห่ง ผู้คนน่ารักอัธยาศัยดี ส่วนอนาคตขององค์หญิงหลังสำเร็จ
การศึกษาแล้วนั้น ตั้งใจจะทำงานหาประสบการณ์ทางด้านที่เรียนมา   ก่อนที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ
อาจ จะตั้งบริษัทเกี่ยวกับมีเดีย ดูด้านการสื่อสาร เพราะสายงานนี้กำลังเติบโต ซึ่งคงจะช่วยพัฒนา การสื่อสารในประเทศ
ภูฏานด้วย


พอถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาของประเทศภูฏาน ซึ่งไม่ได้วัดดัชนีการเติบโตจากรายได้ แต่วัดจากความสุข
องค์หญิงยีหวาง ยิ้มหวานก่อนตอบว่า "ฉันคิดว่าดีแล้ว และเราคงไม่ต้องห่วงว่าใครจะมองว่าเราล้าหลัง หรือมองที่การเติบโต
ของประเทศ สมเด็จพระราชาธิบดีทรงอยากให้ชาวภูฏานมีความสุข การเติบโตของประเทศคือความสุขของคนทั้งประเทศ
ซึ่งฉันก็เห็นด้วย การที่ทุกคนไม่มีปัญหา ไม่ต้องวิตกกังวลใจเรื่องความปลอดภัยหรืออาชญากรรม มีชีวิตอย่างพอเพียงและยึด
วัฒนธรรมประเพณีของเราแบบเดิมๆให้คงอยู่   เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว  นอกจากนี้  สมเด็จพระราชาธิบดีของเราทรงมีรับสั่งเสมอ
ว่า  ทุกคนเหมือนอยู่ครอบครัวเดียวกัน ประเทศเดียว ครอบครัวเดียว ดังนั้น พวกเราจึงเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน"





องค์หญิงรู้จัก "ในหลวง" ของคนไทยไหมคะ


"รู้จักซิ แต่ยังไม่เคยเข้าเฝ้าฯนะ รู้ว่าพระองค์ท่านประทับที่หัวหินด้วย ในหลวงทรงเป็นที่รักของคนไทย ฉันรักและเคารพพระองค์
ท่านเหมือนอย่างที่รักและเคารพกษัตริย์ของภูฏานเช่นกัน"


จากที่องค์หญิงใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยมานานหลายปี ประทับใจสิ่งใดมากที่สุดคะ


"การใช้ชีวิตอยู่ประเทศไทย ฉันไม่ต้องปรับตัวอะไรมาก เรามีอะไรคล้ายๆกัน ซึ่งฉันประทับใจหลายอย่าง ทั้งด้านวัฒนธรรมและผู้คน   
แต่สิ่งที่ฉันรู้สึกดีมากที่สุดคือ   ฉันรู้สึกทึ่งที่เห็นความรักและความเคารพที่คนไทยมีต่อพระมหากษัตริย์ของชาวไทย   ซึ่งฉันจะเก็บสิ่ง
ดีๆแบบนี้กลับไปยังประเทศภูฏานของฉันด้วย"


เพียงความรู้สึกเท่านี้ก็สามารถรับรู้ได้ว่า  ความสัมพันธ์ ฉันมิตรอันดีระหว่างชาวไทยและชาวภูฏาน   จะคล้องเกี่ยวเป็นความผูกพันกัน
ตลอดไป

จาก

Click




บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 02:19:49 PM »


           ขอบคุณครับน้าซับฯ  ......  เจ้าหญิงแห่งภูฎาน ท่านทรงมีพระอัธยาศัยดียิ่งนัก   

           ผมรู้สึกประทับใจตั้งแต่เจ้าชายวังชุกสมัยทรงเป็นองค์รัชทายาทแล้ว

บันทึกการเข้า

                
visith
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 474
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9438



« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 02:44:33 PM »

...ขอบคุณกับความรู้สึกดี ๆ ในอีกมุมมองหนึ่งครับ..
บันทึกการเข้า



"ร่วมส่งเสริมและพิทักษ์สิทธิการใช้อาวุธปืนของประชาชน"
NANAJOY
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 03:39:46 PM »

ขอบคุณครับน้าซับ   เมื่อคืนดูรายการ ราตรีสโมสร ได้เห็นชีวิตส่วนพระองค์   ช่างเป็นที่น่าประทับใจจริงๆครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
นายต้นงิ้ว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 479
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4867



« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 05:21:24 PM »

ขอบคุณครับพี่ซับ สำหรับสาระดีๆ
บันทึกการเข้า

พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 08:09:18 PM »

           ขอบคุณครับน้าซับฯ  ไหว้
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 08:53:01 PM »

 ไหว้ ทรงมีพระสิริโฉม และพระจริยวัตร งดงามยิ่งนัก ขอทรงพระเจริญ

ขอบคุณ คุณ.ซัพฯ +1 คะแนน (ไม่ต้องทอน) ครับ
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 09:17:32 PM »

เป็นเพราะพระองค์ได้รับข่าวสารเฉพาะที่รัฐบาลนี้ต้องการเสนอเท่านั้น ก็เหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงและชอบที่จะแสดงความเห็นโดยไม่เคยสัมผัสบรรยากาศจริงๆ
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
salinee19
ออยล์คนที่ต้องดูแลตัวเอง.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 627
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6525


.....^.^


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2009, 09:21:14 PM »

 




                                         กิ๊วก๊าว   ขอบคุณค่ะน้าซับ .....  สำหรับสาระดีๆ    กิ๊วก๊าว
บันทึกการเข้า

...--*
มะขิ่น
Hero Member
*****

คะแนน 2453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17813


"ทหารแก่ไม่มีวันตาย แต่จะค่อยๆเลือนหายไป"


« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2009, 07:10:47 AM »

ขอบคุณคุณซับฯมากนะครับ .................. ที่นำเสนอเรื่องราวที่หลายๆคนไม่ทราบมาก่อน

ผมมองว่าเป็นเรื่อง"ดีๆ" ที่เกี่ยวข้องกับสัมพันธไมตรีที่ดีงามระหว่าง"ประเทศไทย"กับ"มิตรประเทศ" ของสื่อในการนำเสนอครั้งนี้........................เป็นสิ่งที่คนไทย(ที่มีความคิดความอ่านดีๆ)ควรจะดำรงไว้ให้ยืนยาวนานเท่านาน โดยไม่มีเรื่องสกปรกๆทางการเมืองภายในประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง...............

กาละเทศะในการติดต่อสื่อสารและการให้ข้อมูล.................. นับว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ............. การแยกแยะในเรื่องนี้ เป็นสิ่งที่พึงตะหนักเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ"ราชวงศ์ของมิตรประเทศ"...................
บันทึกการเข้า

อย่าดึงฟ้าต่ำ  อย่าทำหินแตก  อย่าแยกแผ่นดิน
ต.แม่สาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 490
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6544



« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2009, 07:56:23 AM »

ขอบคุณครับ น้าทรัพย์
บันทึกการเข้า

ผู้ใดทำใจให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง
krajong
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 453
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2875



« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2009, 10:07:13 AM »

นอกจากสิริโฉมงดงามแล้ว ยังมีพระอัธยาสัยดีด้วย
บันทึกการเข้า

ความจริงไม่มีวันตาย แต่คนพูดความจริงตายไปหลายแล้ว
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2009, 02:59:07 PM »

ไหว้ ทรงมีพระสิริโฉม และพระจริยวัตร งดงามยิ่งนัก ขอทรงพระเจริญ

ขอบคุณ คุณ.ซัพฯ +1 คะแนน (ไม่ต้องทอน) ครับ

อ้าว....ทอนไปแล้วครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2009, 03:34:45 PM »

เป็นเพราะพระองค์ได้รับข่าวสารเฉพาะที่รัฐบาลนี้ต้องการเสนอเท่านั้น ก็เหมือนกับคนไทยส่วนใหญ่ ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงและชอบที่จะแสดงความเห็นโดยไม่เคยสัมผัสบรรยากาศจริงๆ

 Smiley ต้องเข้าใจในเจตนาของเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ...

ผมเห็นด้วยกับพี่มะขิ่น อย่าเอาเรื่องทุกเรื่องไปเกี่ยวกับการเมืองสิครับ มันไม่ดี โดยเฉพาะเรื่องที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้   
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.097 วินาที กับ 21 คำสั่ง