เอาไงแน่2กระทรวงนี้

นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวถึงการแก้ปัญหาเรื่องการอนุญาตให้เด็กต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมเกิน 3 ชั่วโมงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามในการครม.เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ได้ข้อยุติเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปว่า การผลักดันกฏกระทรวงดังกล่าวในระดับกระทรวงได้ระบุชัดเจนว่า เด็กต่ำกว่า 18 ปีไม่ควรเล่นเกมเกิน 3 ชั่วโมง แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกา บอกว่า ไม่สามารถระบุเพียงแค่ 3 ชั่วโมงได้ เพราะไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง ดังนั้น ควรที่จะระบุระยะเวลาที่เด็กได้ใช้จริงมากกว่า จึงขอให้มีการประกาศใช้กฏกระทรวงไปก่อน
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา แนะนำว่า วธ.ควรทดลองบังคับให้เด็กเล่นเกม 3 ชั่วโมงก่อน หากใช้ได้จริง ก็นำเอารูปแบบมาเขียนเป็นกฎหมายปรับปรุงกฎกระทรวงได้ ดังนั้น ตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา1 ชุด ประกอบด้วย ผู้แทนวธ. ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย (มท.) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ผู้ประกอบการร้านเกม เพื่อหาแนวทางการควบคุมให้เด็กต่ำกว่า 18 ปี เล่นเกมไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อไป อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาเด็กติดเกม ตนคิดว่า ควรใช้มาตรการทางสังคมโดยให้แต่ละตำบล แต่ละจังหวัด จัดระเบียบร้านเกมให้เป็นร้านเกมสีขาว รวมถึงชุมชนโรงเรียนและครอบครัว ช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เด็กติดเกมจะเป็นผลดีมากกว่า การบังคับให้เด็กเล่นเกม 3 ชม.
สำหรับกรณีการควบคุมร้านคาราโอเกะที่ห้ามมีเด็กนั่งดริ๊ง ที่หลายฝ่ายเข้าใจว่าอยู่ในส่วนความรับผิดชอบของวธ.นั้น เป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะกฎหมายที่ดูแลร้านคาราโอเกะมี 2 ฉบับ ฉนับแรกอยู่ในการดูแลของกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการควบคุมร้านคาราโอเกะที่มีสาวนั่งดริ้ง ส่วนฉบับที่วธ.ดูแลจะควบคุมเฉพาะคาราโอเกะหยอดเหรียญตามห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารทั่วไปที่ไม่มีสาวนั่งดริ้ง ซึ่งขณะนี้ ผมได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ(สวช.)สำรวจจำนวนร้านคาราโอเกะที่อยู่ในความดูแลของวธ.ว่า มีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะได้ดำเนินการจัดระเบียบต่อไป รมว.วัฒนธรรม กล่าว นายธีระ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่วธ.เสนอปรับปรุงแก้ไขพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เกี่ยวกับการกำหนดประเภทของเกม ต่อ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบตามที่วธ.เสนอ ซึ่งจะมีการเพิ่มมาตรา 47/1 โดยเนื้อหาระบุว่า ในการตรวจพิจารณาวีดิทัศน์ตามมาตรา 47 หากวีดิทัศน์มีลักษณะเป็นการเล่นเกม ให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กำหนดด้วยว่า เกมการเล่นดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทใด ดังต่อไปนี้ 1.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นทุกวัย 2.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นอายุตั้งแต่สามถึงห้าปี 3.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นอายุตั้งแต่หกถึงสิบสองปี 4.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นอายุตั้งแต่สิบสามปีขึ้นไป 5.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นอายุตั้งแต่สิบห้าปีขึ้นไป 6.เกมที่เหมาะสมกับผู้เล่นอายุตั้งแต่สิบแปดปีขึ้นไป และ7.เกมที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเล่น ขณะที่หลักเกณฑ์ที่จะกำหนดว่า เกมไหนจะอยู่ในประเภทใดนั้น จะมีการกำหนดในกฏกระทรวงอีกครั้ง
"ส่วนขั้นตอนจากนี้ไป จะต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขในครั้งนี้ เนื่องจากวธ.ยังเห็นว่า บางมาตราไม่ครอบคลุมถึงการดูแลเกมออนไลน์ เกมคอมพิวเตอร์ ที่ส่งผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน และสังคม" รมว.วธ. กล่าว