ชาวพม่าแปรพักตร์เผยเกาหลีเหนือช่วยพม่าสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ซิดนีย์ 1 ส.ค.-หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ ในออสเตรเลีย รายงานอ้างคำกล่าวของผู้ที่ใช้นามว่า โม โจ และ ทิน มิน สองผู้แปรพักตร์ชาวพม่า กล่าวกับนายเดสมอนด์ บอล เจ้าหน้าที่สืบสวนของออสเตรเลีย ว่าเกาหลีเหนือกำลังช่วยพม่าสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ลับและโรงงานสกัด พลูโตเนียมเพื่อสร้างระเบิดปรมาณูภายใน 5 ปี
โรงงานนิวเคลียร์ดัง กล่าวซ่อนอยู่ในภูเขาที่เมืองทางเหนือของพม่า การก่อสร้างดำเนินไปพร้อมกับการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ใช้ในกิจการ พลเรือนในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรัสเซียให้ความช่วยเหลือ
ผู้แปร พักตร์ชาวพม่าทั้ง 2 คน บอกว่ารัฐบาลทหารพม่ามีความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ไกลเกินกว่าที่ แจ้งอย่างเป็นทางการว่าจะใช้ในทางการแพทย์ในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังอ้างว่าพวกเขาล่วงรู้แผนการของรัฐบาลทหารพม่า และมีความเป็นไปได้อย่างแท้จริงที่พม่าจะมีอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเตาปฏิกรณ์ลับจะสามารถดำเนินการและผลิตระเบิดได้ปีละ 1 ลูกตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป
นายโม โจ เคยเป็นนายทหารในกองทัพพม่า และได้รับการฝึกให้เข้าร่วมในกองพันนิวเคลียร์ ซึ่งมีกำลังพล 1,000 นาย เขาบอกว่าพม่าจัดหายูเรเนียมให้แก่เกาหลีเหนือและอิหร่าน นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากรัสเซียคอยให้คำปรึกษากระบวนการแปรรูป ยูเรเนียมอีกด้วย
นายโม โจ บอกด้วยว่ากองพันนิวเคลียร์ซึ่งสังกัดกองทัพบกพม่า ประจำการอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งเพื่อผลิตอาวุธ และมีศูนย์ปฏิบัติการลับซ่อนอยู่ในภูเขา
ส่วนนายทิน มิน มีอาชีพเป็นนักบัญชีให้กับนายเทย์ ซา เพื่อนสนิทของพลเอกอาวุโสตาน ฉ่วย นายเทย์ ซา เป็นผู้เจรจาทำสัญญานิวเคลียร์กับรัสเซียและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นผู้จัดเตรียมเส้นทางการขนส่งลำเลียงในเวลากลางคืนและทางน้ำ วัสดุอุปกรณ์ที่เกาหลีเหนือส่งมาทางเรือที่ท่าเรือนครย่างกุ้ง นายทิน มิน บอกว่า นายเทย์ ซา เคยบอกว่า รัฐบาลทหารพม่ารู้ดีว่าไม่สามารถแข่งขันด้านอาวุธในสงครามตามแบบกับไทยได้ ดังนั้นจึงต้องสร้างพลังในการต่อรองเหมือนกับเกาหลีเหนือ โดยมีทั้งระเบิดนิวเคลียร์และจรวดต่อสู้อากาศยาน
การเปิดเผยครั้งนี้ มีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ แสดงความวิตกว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังถ่ายทอดอาวุธและเทคโนโลยีนิวเคลียร์ ให้แก่พม่า.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-08-01 17:09:05
จาก OKnation
ไม่ทราบว่าข่าวนี้น่าเชื่อถือได้มากเพียงไหนครับ
