สืบมาจากกระทู้ที่มีคนถามเกี่ยวกับปืนลั่น ผมเลยสงสัยว่า..
1. ปืนลั่นโดยประมาทโดยทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้นมีความผิดมากน้อยเพียงใด? และ
2. อาวุธปืน(ถูกต้องตามกฎหมาย)จะต้องถูกริบด้วยหรือไม่ครับ?
3. ถ้าพี่ๆท่านใดพอมีคำพิพากษาฎีกาที่เกี่ยวข้องกับกรณีปืนลั่นช่วยนำมาลงให้ได้ศึกษาเป็นความรู้ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ
ส่วนของผมขอเพิ่มเติมให้อีกนิดนึงนะครับ
สำหรับคำถามแรกนะครับที่ว่าปืนลั่นโดยประมาทโดยทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตนั้นมีความผิดมากน้อยเพียงใด?
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกินสิบปีและปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๓๙๐ ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่
เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าเป็นการทำปืนลั่นแล้วทำให้คนตายก็โทษตามมาตรา ๒๙๑ เลยครับ
ส่วนกรณีถ้าทำปืนลั่นแล้วทำให้คนแค่บาดเจ็บธรรมดาแต่ไม่ถึงกับสาหัสก็โทษตามมาตรา ๓๙๐ เลยครับ
แต่กรณีตามมาตรา ๓๙๐ ถือว่าเป็นความผิดลหุโทษ ซึ่งความลหุโทษนี้ถ้าผู้เสียหายยินยอม พนักงานสอบสวน
สามารถเปรียบเทียบได้เลยครับโดยคดีไม่ต้องถึงศาล เรียกว่าจบที่สถานีตำรวจเลยครับ ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๗ , ๓๘ , ๓๙
สำหรับอาวุธปืนนะครับถ้าเป็นปืนที่มีทะเบียนก็ตามที่คุณสิงห์กลิ้ง กับคุณ Ro@d ให้ความเห็นไว้เลยครับ ก็คือต้องคืนให้แก่เจ้าของที่แท้จริง
ซึ่งในชั้นพนักงานอัยการถ้าเป็นความผิดซึ่งเกี่ยวกับความประมาทก็จะไม่ขอริบอาวุธปืนของกลางครับ และพนักงานอัยการก็จะสั่งไว้ในคำสั่งว่า
ปืนของกลางให้จัดการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๕ ซึ่งก็คือให้คืนให้แก่เจ้าของนั่นแหละครับ และในชั้นการบรรยาย
ฟ้องพนักงานอัยการก็จะไม่ขอริบปืนของกลางครับ เพราะได้สั่งคืนไปแล้วตั้งแต่ชั้นสั่งคดีข้างต้นนั่นเองครับ
สำหรับคำพิพากษาฎีกาที่ ๕๙๕/๒๕๕๑ ก็อย่างที่คุณสิงห์กลิ้งกล่าวไว้นะครับว่าศาลไม่ได้วินิจฉัยว่ากรณีความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทศาลสามารถ
ริบของกลางได้ แต่โดยส่วนตัวผมแล้วเห็นว่าการที่ศาลริบรถยนต์ของกลางเป็นปัญหาข้อกฎหมายมากกว่าครับ เพราะว่าคดีนี้ตามคำฟ้องโจทก์
บรรยายฟ้องโดยบรรยายว่ารถยนต์ได้ใช้ในการกระทำความผิดและขอริบรถยนต์ไว้ด้วย เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ข้อเท็จจริงย่อมรับฟังได้ตาม
ฟ้องว่ารถยนต์ได้ใช้ในการกระทำความผิด และต้องริบตามคำขอด้วย เมื่อคดีนี้ขึ้นไปสู่ศาลสูง ศาลสูงก็ย่อมต้องรับฟังข้อเท็จจริงว่ารถยนต์เป็นทรัพย์
ที่ใช้ในการกระทำความผิด อันต้องริบด้วยครับ ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาเทคนิคข้อกฎหมายครับ ถ้าคดีจำเลยให้การปฏิเสธและมีการสืบพยานกัน เชื่อว่า
ศาลก็คงสั่งคืนรถให้ ตามที่คุณสิงห์กลิ้ง กับคุณ Ro@d ให้เหตุผลไว้แหละครับ
