ทำภาระกิจของตัวเองให้ดีที่สุด(หรือยัง ครับ)
ทุกวันนี้ผมทำงานเพื่อเด็ก(จริง ๆ )โดยไม่สนใจเรื่องอื่น ๆ
๖ ปีที่ผ่านมา งานด้านดนตรีเริ่มต้นจาก ๐ วันผมย้ายมา
หิ้วแตรทรัมเป็ตเก่า ๆ มา ๑ ตัว ไปคุ้ยดูในห้องเจอเครื่องดนตรีเก่า ๆ
ที่ตั้งแต่ได้รับจัดสรรมาไม่เคยใช้ นำมาซ่อมเช็ดถูปรับจูน ทำความสะอาด
ทำมันเท่าที่มีจนสังคมเห็นความตั้งใจจริง เริ่มได้เงินสนับสนุนมาเรื่อย ๆ
จนครั้งสุดท้ายได้มา ๑ ล้านบาท(อย่านึกว่ามากสำหรับงานดนตรี)
ระยะเวลา ๓ ปีเศษ วงลูกทุ่งเราเข้าแข่งขันทุกรายการใหญ่ ๆ ได้ระดับ
ที่ ๒ -๓ ของภาคใต้สองสามปีติดต่อกัน หรือแม้แต่ในกทม.
สุดท้ายรวมรวมผลงานเข้าออดิชั่นรายการชิงช้าสวรรค์ ถึงแม้
จะแพ้แต่ก็ภูมืใจที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ และได้เห็นระบบธุระกิจ
ของรายการ มันไม่เหมือนภาพที่เราเห็น มีอะไรมากมายกว่านั้น โปรดิวเซอร์ใหญ่ที่สุด
(รายการนี่ไม่ใช่วงใหนสมัครไปเขารับหมดนะครับ เขาต้องคัดเลือกอีกที)
ระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่เบื้องหลังมันคือ
ความทุ่มเทชนิดสุด ๆ บ่อยครั้งที่กิน-นอน ที่โรงเรียนทั้งครูทั้งเด็ก
วันธรรมดา ๗.๒๐ ถึงที่ทำงาน กลับบ้านก่อน ๕ โมงเย็นนี่นับครั้งได้
หรือแม้แต่วันหยุด(เช่นวันนี้ ใกล้ตัวที่สุด กำลังจะพาวงโยฯไปงานพระราชพิธีฯ)
ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนร่วมงาน มีทุกประเภท ชนิดที่น่าเสียดายเงินภาษีประชาชน
มีเยอะ แม้แต่ฝ่ายบริหาร
ตลอดระยะเวลาที่ทำมา "ไม่เคยได้ ความดีความชอบ ๒ ขั้น"
พวกบางคนประเภทขนหน้าแข้งติดปาก ได้ไป ๓ หนแล้ว
ความดีความชอบของผมคือลูกศิษย์ ที่ประสบความสำเร็จ
ในด้านดนตรี และลูกศิษย์ทุกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขรักครูเรียกว่ารองลงมาจากพ่อแม่ของเขา
ทำหน้าที่ในส่วนของเราดีที่สุด หรือยังครับ
ที่สังคมที่ทำงานมันป่วนเพราะหน้าที่ของตน
ยังทำไม่เต็มที่ แล้วดันไปมองแต่ความบกพร่องของคนอื่น
แล้วสุดท้ายก็พาลไปโทษระบบ ระบบมันดีอยู่แล้ว คนต่างหากที่ทำให้ระบบเสีย
ป.ล.ผมก็ต้องใช้ความอดทนในการทำงาน ทนมา ๒๐ ปีแล้ว
ว่าจะทนต่อ อีกสัก ๕-๖ ปี ถ้าทนได้ก็ทนต่อไปอีก ไม่ไหวจริง ๆ ก็ลาออก
ขออภัยที่พิมพ์ยาว คันปากครับ
อ้อ...ที่ผมบุกเรื่องงานสุด ๆ
เพราะผมแต่งงานแล้วไม่มีลูกครับ
จึงทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจ ความรัก เต็มที่
ดังนั้นคงไม่เกินจริง ที่บอกว่าเขารักรองจากพ่อแม่
เมื่อมีปัญหาในบางเรื่อง เขาปรึกษาผมก่อนพ่อแม่เสียอีก
พวกที่จบไปแล้ว กลับบ้านก็จะแวะเวียน
มาเยี่ยม ดีใจที่ได้เห็นเขาเติบโตตั้งแต่ตัวเล็ก ๆ
จนเป็นหนุ่มเป็นสาว