พอดีช่วงที่ผมเคยไปรับราชการอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีคดีผ่านเข้ามาใน
ความรับผิดชอบอยู่เรื่องหนึ่งก็เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง และรบกวนพี่ ๆ ช่วยกันวิเคราะห์
เหตุการณ์นี้ด้วยครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผู้เสียหายเป็นผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งมีผลงานในการปราบปราม
ผู้ก่อความไม่สงบจนเป็นที่หมายหัวของคนร้าย ขออนุญาตอธิบายสภาพบ้านของผู้เสียหาย
ก่อนนะครับ บ้านของผู้เสียหายเป็นบ้านพักชั้นเดียวก่อด้วยปูน มีหน้าต่างรอบบ้านลักษณะเป็น
บานเกล็ด ตัวบ้านยกสูงจากพื้นประมาณ ๑ เมตร ด้านหน้ามีโรงรถจอดรถได้ ๑ คัน ส่วนประตู
ทางเข้าบ้านอยู่ติดกับโรงจอดรถ ประตูรั้วเป็นสังกระสีสูงประมาณหน้าอก ส่วนรั้วบ้านใช้เสาไม้ปัก
ลงกับพื้นดินแล้วใช้ไม้ตีตามยาวลักษณะคล้ายกับคอกวัวยาวตลอดแนว สามารถปีนข้ามหรือมุดลอด
ช่องว่างระหว่างไม้แต่ละชั้นได้ หน้าบ้านมีกอต้นกล้วย ๑ กอ และมีเนินดินเล็ก ๆ อยู่ติดกับกอกล้วย
ระยะห่างระหว่างตัวบ้านกับประตูรั้วประมาณ ๗ ๘ เมตร ด้านขวาของบ้านไม่แน่ใจว่าติดอะไร
แต่ทางด้านซ้ายติดกับบ้านของเพื่อนบ้านซึ่งไม่มีรั้วกั้น
เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ของคืนเกิดเหตุ ขณะที่ผู้เสียหายกำลังอยู่ภายในบ้านพักกับครอบ
ครัวและเตรียมจะออกไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ตอนนั้นผู้เสียหายได้ยินเสียงผิด
ปกติมาจากทางหน้าบ้าน จึงได้สั่งให้ภริยาปิดไฟภายในบ้านพัก และสั่งให้ภริยากับลูกไปหลบภายใน
ห้องนอน ส่วนตัวเองถืออาวุธปืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณหน้าต่างบ้านเกล็ด ( ผู้เสียหายมีอาวุธปืนยาว
เป็นลูกซองปั๊มห้านัด ส่วนปืนสั้นเป็นขนาด ๑๑ มม. ยี่ห้อซิกเซาเออร์ สาเหตุที่จำได้เพราะนึกอยู่ใน
ใจว่าผู้ใหญ่ใช้ปืนดีกว่าเราอีก

) จึงเห็นเงาคนประมาณ ๓ ๔ ตะคุ่มอยู่บริเวณกอกล้วยหน้าบ้าน
จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น ๑ นัด จากกลุ่มดังกล่าว ( ปรากฏในตอนหลังว่าเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านข้างเคียง
กันได้เสียงเหมือนคนเดินอยู่ข้างบ้าน จึงเปิดประตูออกมาดู คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่เพื่อนบ้านคน
ดังกล่าวที่บริเวณขา จำนวน ๑ นัด ได้รับบาดเจ็บ ) ผู้เสียหายแน่ใจว่าเป็นคนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซอง
และปืนสั้นยิงใส่กลุ่มคนร้ายดังกล่าวจำนวนหลายนัด ( ในภายหลังสามารถเก็บปลอกกระสุนปืนลูกซองประมาณ
๓ ๔ ปลอก และปลอกกระสุนปืนขนาด ๑๑ มม. ประมาณ ๘ ๙ นัด ได้จากภายในบ้านพักผู้เสียหาย )
คนร้ายจึงได้ยิงตอบโต้ กระสุนปืนถูกตัวบ้าน รถยนต์ หลังคา และกระจกบานเกล็ดแตกได้รับความเสียหาย
จากนั้นคนร้ายจึงได้หลบหนีไป
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุพบคนร้ายนอนอยู่ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกอกล้วย จำนวน ๒ คน คนหนึ่ง
เสียชีวิตคาที่ ส่วนอีกหนึ่งคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยคนที่เสียชีวิตคาที่มีบาดแผล
ถูกยิงด้วยปืนขนาด ๑๑ มม. เข้าที่แขน จำนวน ๑ นัด และที่หน้าอก จำนวน ๑ นัด ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บ
มีแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด ๑๑ มม. และปืนลูกซอง ( แต่จำไม่ได้ว่าถูกยิงที่ไหนบ้าง ) เมื่อตรวจสอบบริเวณบ้าน
พบปลอกกระสุนปืนอาก้า เอ็ม - ๑๖ ปืนลูกซอง และกระสุนปืนพก ตกอยู่รวมกันประมาณเกือบ ๔๐ ปลอก
ส่วนอาวุธปืนของคนร้ายที่ถูกยิงเชื่อว่าพวกที่เหลือได้เก็บไปด้วย ( แหมรอบคอบจริงวุ๊ย

) ส่วนตัวผู้เสียหาย
ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการโดนสะเก็ดกระจกบาด ส่วนคนร้ายอื่นหนีไปได้และในระหว่างหลบหนียังได้ยิงเข้า
ใส่บ้านเรือนชาวบ้านแถวนั้นอีกหลายนัด และเส้นทางที่จะเข้ามายังหมู่บ้านดังกล่าวยังมีการโยนตะปูเรือใบ ตัดต้น
ไม้ และเผายางรถ เพื่อเป็นการสะกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามายังที่เกิดเหตุด้วย
ส่วนตัวของผมเท่าที่วิเคราะห์จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นว่าผู้เสียหายรอดชีวิตในครั้งนี้มาได้เพราะมีสติ
พอรู้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจึงรีบปิดไฟภายในบ้านพักทันที ทำให้คนร้ายไม่สามารถสังเกตการณ์ภายในบ้านพักได้
ประกอบกับบริเวณหน้าบ้านมีแสงไฟริมทางแม้จะสลัว แต่ก็พอที่จะทำให้ผู้เสียหายสังเกตเห็นกลุ่มคนร้ายได้โดยถนัด
และผู้เสียหายอยู่ในที่กำบังที่มั่นคงสามารถใช้อาวุธปืนยิงลอดทางบานเกล็ดได้ ส่วนคนร้ายแม้จะมากันหลายคนและ
มีอาวุธที่ร้ายแรงกว่า แต่ก็เสียเปรียบในเรื่องที่กำบัง และมองไม่เห็นตัวผู้เสียหาย ประกอบกับเพื่อนบ้านเปิดประตูออก
มาดูคนร้ายเลยต้องยิงเพื่อนบ้านคนดังกล่าวก่อน ทำให้ผู้เสียหายแน่ใจว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นคนร้ายอย่างแน่นอนเลย
มีโอกาสยิงก่อนทำให้ได้เปรียบ
พี่ ๆ มีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับเกี่ยวกับเรื่องนี้ รบกวนขอทราบความเห็นด้วยครับ
