เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 13, 2025, 11:03:46 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กระทู้ คนรักม้า  (อ่าน 10775 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 06:35:02 PM »

จะ รักม้า ชอบม้า ชอบขี่ม้า ... ได้ ทั้งนั้น    ...


 ม้าเทศ:จากสีหมอกสู่อัศวราชา (ตอนจบ)

29 มิถุนายน 2548
จุฬิศพงศ์ จุฬารัตน์ / ศูนย์ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศในเอเชีย
ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ม้าเทศที่มักกล่าวถึงในเอกสารหรือวรรณกรรมของสยาม หมายรวมม้าที่มาจากอาหรับ เปอร์เซีย และอินเดีย
ซึ่งพ่อค้าแขกนำเข้ามาขายอยู่ตามเมืองท่าในชมพูทวีป เมื่อสยามต้องการใช้จะจัดส่งพนักงานผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งส่วนมากเป็นมุสลิม ไปหาซื้อม้าจากอินเดีย แล้วลำเลียงลงเรือมาพักไว้ที่มะริดหรือตะนาวศรี เมืองท่าการค้า
ริมอ่าวเบงกอลของสยามในสมัยอยุธยา ที่นั่นจะมีพนักงานในกรมพระอัศวราช หรือกรมม้าต้น ทำหน้าที่คัดเลือก
ม้าสำหรับใช้ในราชการต่อไป วิธีการคัดเลือกม้านั้นมีตำราที่เป็นแบบแผนตกทอดสืบมาจนปัจจุบัน

ตำราดังกล่าวมีอยู่ 3 เล่มสมุดไทย ได้แก่ เล่มที่ว่าด้วยลักษณะม้า 1 เล่ม วิธีขี่ม้า 1 เล่ม และตำรายาม้าอีก 1 เล่ม
สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในรัชกาลที่ 3 ต่อมามีผู้จัดพิมพ์รวมเล่มเป็นหนังสืออย่างสมุดฝรั่ง
ชื่อว่า 'ตำราม้าของเก่า และตำราม้าคำโคลง'

ในตำราระบุถึงลักษณะม้าอันเป็นมงคล หรือม้าเอก 7 ประเภท อย่างเช่น ขาวล้วนเศียรดำ ...
ท่านว่าประเสริฐนักสมควรด้วยพระมหากษัตริย์...

ลักษณะของม้าเอกนั้น มักเป็นม้าที่มีสีแซมตามส่วนต่างๆ หรือเป็นม้าด่าง ส่วนม้าโทมี 15 ประเภท
เช่น ม้าชื่อ 'รังคะตา' มีสีขาว หรือ 'ราชวาหนะ' กายยาวพื้นมรกตแซมดั่งเมล็ดงา เป็นม้าให้คุณแก่เจ้าของ
คุณลักษณะต่ำลงมาเรียกว่าม้าตรี หรือม้าโทเสนาราช มี 24 ประเภท เป็นม้าสีพื้นเสียส่วนใหญ่ เช่น
สีนกกระเรียนดำ สีดำล้วน สีหม้อใหม่ ม้าชั้นต่ำสุดคือ ม้าจัตวา 6 ชนิด เช่น ม้าสีหมอกขาวมากแซมแท้

ถ้ายึดตามตำราดังกล่าว สีหมอกของขุนแผนก็มิได้ถือเป็นม้าเอกหรือม้าโท อาจจะตกอยู่ที่ม้าตรีหรือม้าจัตวาเสียด้วยซ้ำ
และเหตุผลสำคัญที่ทำให้สีหมอกต้องสอบตก ไม่ได้รับการขึ้นระวางเป็นม้าหลวง ก็เพราะนิสัยดุร้ายและพยศจนต้องกำราบด้วยอาคม

ราชสำนักสยามเป็นองค์กรที่มีการใช้ม้าจำนวนมากทั้งในช่วงศึกสงครามและยามปกติ ที่ถือเป็นม้าพระที่นั่งสำคัญมีเจ้าพระยาอาชาชาติ
และเจ้าพระยาราชพาหนะ เป็นม้าทรงซ้ายและขวา นอกจากนี้ยังมีม้าทรงตามวันทั้ง 7 โดยแต่ละวันเป็นม้าที่มีสีกายแตกต่างกัน

กล่าวคือ วันอาทิตย์ทรงอาชาสีแดงเตรียมขึ้นระวางไว้จำนวน 8 ม้า ได้แก่ ทินกรรัศมี รพีพรรณ สุริยบรรยงค์ หงสพิมาน โลหิสดางค์
สรรพางครัต กำพลพัสตร และปัสวหล่ำ

วันจันทร์ม้าทรงสีขาว 8 ม้า ได้แก่ สังขรัศมี ศรีประภัศร แสงศศิธร เขจรจันทร์ ดารินทดารา พาหะพิมาน รัตนมัลลา และรูปาภิรักษ์

วันอังคารม้าทรงสีม่วง หรือเรียกว่า 'กะเลียวสีจันทน์' ประกอบด้วย 8 ม้า คือ ชามพูมนัส สหัสสรังสี เกสรศินี ภุมรีรัตน์ อุดมพิลาป
โภสสพัน วิสุโชติ และวิโรทารุง

วันพุธม้าทรงสีแสดหรือสีปลั่ง 8 ม้า ได้แก่ รูปาสวัต ภัทธวิสุทธิ ทิพยโสภา สุธาทิพ ทิพยโอลา ปรณามริต วรุณรัศมี
และศรีเสาวภางค์

ม้าทรงสำหรับวันพฤหัสบดีสีเหลืองจำนวน 8 ม้า ได้แก่ สุพรรณศฤงคาร กาญจนพิจิตร เหมมงคล ไหยรญรัศมี กนกภูษา
จำรูญรัตน จามนิกร จามรมาศ

ม้าทรงวันศุกร์เป็นม้าลายแซมผ่าน มี 8 ม้า ได้แก่ อนันตสีหาสน์ อากาศพิมาน พาหะวดาร์ วายุพาหะ เมฆมาลา เมฆาพิลาป
วิเวกเวหา และพลาหก

วันเสาร์ม้าทรงสีดำอีก 8 ม้า ประกอบด้วย กาฬาคีรี นีลาวรรณ สุยามพรรณ อัญชันโชติ กฤษณาภรณ์ วรวานิล สิงขรินทรรัต
ปัทมกาลา

รวมทั้งหมดมีม้าพระที่นั่ง 58 ม้า

กรมที่มีหน้าที่จัดหา ฝึกและรวบรวมกองกำลังทหารม้าให้กับราชสำนักสยามคือ กรมพระอัศวราช หรือกรมม้าต้น
ซึ่งเป็นกรมสำคัญรองจากกรมพระคชบาลหรือกรมช้างต้น ผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือ ออกญาศรีสุริยพาห์ สมุหพระอัศวราช

กรมม้าต้นประกอบด้วยกรมย่อยอีก 4 กรม คือ กรมม้า กรมม้าแซงใน กรมม้าแซงนอก และกรมม้าเกราะทอง
กรมม้าทำหน้าที่เป็นเหมือนเสนาธิการและจเรควบคุมดูแลกรมในสังกัด รวมทั้งมี 'พันหมอ' คอยดูแลรักษาม้า ประหนึ่งหน่วยสัตวแพทย์ประจำกรม

กรมม้าแซงในและกรมม้าแซงนอก ทำหน้าที่เป็นกองทหารร่วมในการถวายอารักขาพระมหากษัตริย์ทั้งในยามศึกและ
ยามเสด็จพระราชดำเนินปกติ หากการปฏิบัติหน้าที่จะต้องขึ้นกับกรมพระตำรวจใน และกรมพระตำรวจนอก
เพราะสองกรมนี้มีหน้าที่ถวายอารักขาพระมหากษัตริย์ ส่วนกรมทหารม้าเกราะทองนั้นน่าจะจัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบ
พระอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ ทหารม้าจะสวมชุดเกราะสีทอง กรมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของกรมทหารอาสาที่เรียกว่า
'อาสาเกราะทอง' มีความเป็นไปได้ที่กรมทหารม้าเกราะทองพัฒนามาจากกองทหารราชองครักษ์ต่างชาติ

ในหนังสือประวัติบรรพชนของขุนนางกรมท่าขวา ซึ่งเป็นขุนนางมุสลิมและสืบสายตระกูลมาจากเฉกอะหฺมัด นักเดินทาง
ชาวอิหร่านที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในสยามราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมกล่าวไว้ว่า ขุนป้องพลขันธ์(แก้ว) ทายาทชั้นที่ 5
ของเฉกอะหฺมัด ภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ให้ดำรงตำแหน่งพระยาจุฬาราชมนตรีคนแรกในสมัยรัตนโกสินทร์ เคยเป็นทหารในกองทหารม้าบ้านคำหยาด
มีหน้าที่ถวายอารักขาพระมหากษัตริย์และยังเคยรบบนหลังม้าร่วมกับพระยาตากด้วย

นอกจากกองทหารม้าในราชการสงครามแล้ว พระมหากษัตริย์สมัยอยุธยายังทรงมีกองทหารม้ารักษาพระองค์ที่เป็นชาวต่างชาติ
อีกหลายกอง จากบันทึกของชาวฝรั่งเศสและชาวอิหร่านแสดงว่าสมเด็จพระนารายณ์ทรงมีกองทหารม้าชาติต่างๆ ประกอบด้วย
กองทหารม้าโปรตุเกส มัวร์ (อินโด-อิหร่าน) ตาดหรือตาร์ตา (Tartar) อาร์มิเนีย (Armenian) และเปอร์เซีย
ภายหลังมีกองทหารฝรั่งเศสแต่มิได้ทำหน้าที่รักษาพระองค์ เพราะถูกส่งไปประจำอยู่ที่ป้อมบางกอกช่วงปลายรัชสมัย

ทหารม้ารักษาพระองค์เหล่านี้ได้รับค่าจ้างประจำ ในสมัยที่ออกพระศรีเนาวรัตน์ (อกามูฮัมหมัด แอสตะระบาดิ-Aqa Muhammad Astarabadi) ขุนนางชาวอิหร่านซึ่งเป็นหลานลุงของเฉกอะหฺมัดยังรับราชการในตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีผู้ใกล้ชิดของ
สมเด็จพระนารายณ์ (ก่อนที่ฟอลคอนจะเข้ามามีอำนาจแทนที่) ได้ว่าจ้างทหารม้าจากอินเดียและอิหร่าน
เพื่อทำหน้าที่ราชองครักษ์ของสมเด็จพระนารายณ์

ดูเหมือนความชำนาญการใช้ม้าเทศของมุสลิม จะเอื้อประโยชน์ต่อราชสำนักสยามอย่างยิ่ง
ผู้ชำนาญการที่เกี่ยวกับการคัดเลือกม้า การดูแลและฝึกม้า จึงมีมุสลิมจากฝั่งตะวันตกของสยามเกี่ยวข้องด้วย
ดังที่ขุนช้างขุนแผนกล่าวว่า ...ด้วยหลวงศรีวรข่านไปซื้อม้า ถึงเมืองเทศยังช้าหามาไม่...
ก็เพราะหลวงศรีวรข่านเป็นแขกที่ชำนาญการค้ากับแขกนั่นเอง

ความต้องการม้าเทศมีสืบมาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เห็นได้จากจิตรกรรมรูปม้ามงคลที่ฝาผนังหอพระไตรปิฎกวัดโพธิ์
รวมทั้งตำราม้าต้นในรัชกาลที่ 3 แม้แต่วรรณกรรมพื้นบ้านยอดนิยมอย่าง มณีพิชัย (แก้วหน้าม้า) หรือขุนช้างขุนแผน
ก็ยังสอดแทรกบทบาทของม้าไว้

เรื่องราวของม้าเทศจึงร้อยรัดประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างชาวสยามกับมุสลิมจากฝั่งตะวันตก
ที่สอดประสานเป็นความลงตัวในสังคมไทย ซึมซับสู่งานวรรณกรรมและการรับรู้ของชนชาวสยามมายาวนานนับร้อยๆ ปี


จาก
http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/lofiversion/index.php?t2844.html


 
 
บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 06:49:35 PM »

มีใคร ขี่/เลี้ยง ม้า บ้าง ...

จะได้แลกประสบการณ์ กัน ครับ

น่าทึ่ง บ้านเรา มีสอนวิชาแบบนี้ ด้วย พึ่ง ทราบ จริง ๆ

กำหนดการสอน
กระบวนวิชา651331
หลักการขี่ม้า
 (Principle of Horse Riding)
สาขาวิชาคลินิกม้า  คณะสัตวแพทยศาสตร์  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
3 (1/1 –2/4)

กลุ่มที่ 1 รหัส 
วัน/เดือน/ปี
และเวลาที่สอน
หัวข้อเนื้อหากระบวนวิชา
อาจารย์ผู้สอน
สถานที่
3-7 มี.ค. 51 6.00-7.00
7.00-12.00
13.00-14.00
14.00-16.30


16.30-17.00
หลักการขี่ม้าเบื้องต้น
เดินทางออกจากโรงพยาบาลสัตว์เล็ก
เตรียมตัวม้าและฝึกหัดขี่ม้าเบื้องต้น
อาบน้ำม้า ดูแลม้าตัวที่ฝึกขี่,
ฟังการบรรยายหลักการขี่ม้าเบื้องต้น,สนามและอุปกรณ์เครื่องม้า และการดูแลเครื่องม้า พร้อมดูVDO,CD
เดินทางกลับ
อาจารย์พิเศษ
อ.พ.ท.นสพ.ชำนาญ
อาจารย์ผู้เช็คชื่อ
จ.อาจารย์ศิริพร
อ.อาจารย์ศิริพร
พ.อาจารย์ศิริพร
พฤ.อาจารย์ศิริวรรณ
ศ. อาจารย์ศิริวรรณ
กองพันสัตว์ต่าง
10มี.ค. 51
8.30-10.00

10.00-12.00

13.00-16.30
การเข้าหาม้าและการจับจูงเบื้องต้น
แนะนำกระบวนวิชา,แจ้งเรื่องคะแนน การสอบการแบ่งกลุ่มและมอบหมายงาน
บรรยายและสาธิต การเข้าหาม้าและการจับจูงเบื้องต้น
ฝึกปฏิบัติการเข้าหาม้าและการจับจูง

อ.สพญ.ปรกต



อ.สพญ.ปรกต
อ.สพญ.ศิริวรรณ

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
11มี.ค. 51
8.30-12.00

13.00-16.30


12 มี.ค. 51
8.30-10.30
10.30-12.00


13.00.-16.30


อุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้าและการดูแลม้า
บรรยายและสาธิตการGrooming และการอาบน้ำการดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้า
ฝึกปฏิบัติGrooming และการอาบน้ำม้า
ฝึกปฏิบัติการดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้า

หลักการจัดการคอกม้า
บรรยายหลักการจัดการคอกม้า
ทดสอบเก็บคะแนน
1.การเข้าหาม้าและการจับจูงม้า
2.อุปกรณ์และการทำGrooming
ฝึกปฏิบัติทำความสะอาดคอกม้า,การกำจัดสิ่งปฏิกูล,กำจัดแมลง,
ลอกท่อน้ำ,การเปลี่ยนสิ่งปูนอน

อ.สพญ.ปรกต


อ.สพญ.ปรกต


อ.สพญ.ปรกต



อ.สพญ.ปรกต

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
13 มี.ค. 51
8.30-10.30.00
10.30-12.00

13.00-15.00
15.00-16.30
หลักการให้อาหารม้าเบื้องต้น
บรรยายเรื่องหลักการให้อาหารม้าและดู VCD
เรียนรู้อาหารม้า,หญ้า,การให้น้ำ และการเก็บที่ถูกต้อง
มอบหมายงานให้ค้นคว้าเตรียมนำเสนอ
ฝึกปฏิบัติGrooming
อ.สพญ.ปรกต



อ.สพญ.ปรกต


คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
14 มี.ค. 51
8.30-12.00


13.00-15.00
15.00-16.30
หลักการดูแลสุขภาพม้าเบื้องต้น
บรรยายเรื่อง หลักการดูแลสุขภาพม้าเบื้องต้นและดูVDO, โรคและปัญหาจากการใช้งานม้าทางด้านการกีฬา,
การปฐมพยาบาลม้าเบื้องต้น
นำเสนองานที่ได้ค้นคว้า
ฝึกปฏิบัติGrooming

อ.สพญ.ปรกต


อ.สพญ.ปรกต
อ.สพญ.ศิริวรรณ

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.

กลุ่มที่ 2 รหัส
วัน/เดือน/ปี
และเวลาที่สอน
หัวข้อเนื้อหากระบวนวิชา
อาจารย์ผู้สอน
สถานที่
10-14 มี.ค. 51 6.00-7.00
7.00-12.00
13.00-14.00
14.00-16.30


16.30-17.00
หลักการขี่ม้าเบื้องต้น
เดินทางออกจากโรงพยาบาลสัตว์เล็ก
เตรียมตัวม้าและฝึกหัดขี่ม้าเบื้องต้น
อาบน้ำม้า ดูแลม้าตัวที่ฝึกขี่,
ฟังการบรรยายหลักการขี่ม้าเบื้องต้น,สนามและอุปกรณ์เครื่องม้า และการดูแลเครื่องม้า พร้อมดูVDO,CD
เดินทางกลับ
อาจารย์พิเศษ
อ.พ.ท.นสพ.ชำนาญ
อาจารย์ผู้เช็คชื่อ
จ.อาจารย์ศิริวรรณ
อ.อาจารย์ศิริวรรณ
พ.อาจารย์ศิริวรรณ
พฤ อาจารย์ศิริพร
ศ.อาจารย์ศิริพร

กองพันสัตว์ต่าง
3 มี.ค. 51
8.30-10.00

10.00-12.00

13.00-16.30
การเข้าหาม้าและการจับจูงเบื้องต้น
แนะนำกระบวนวิชา,แจ้งเรื่องคะแนน การสอบการแบ่งกลุ่มและมอบหมายงาน
บรรยายและสาธิต การเข้าหาม้าและการจับจูงเบื้องต้น

ฝึกปฏิบัติการเข้าหาม้าและการจับจูง

อ.สพญ.ปรกต




อ.สพญ.ปรกต
อ.สพญ.ศศิธร อ.สพญ.ศิริวรรณ

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
4มี.ค. 51
8.30-12.00

13.00-16.30

5 มี.ค. 51
8.30-10.30
10.30-12.00


13.00.-16.30


อุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้าและการดูแลม้า
บรรยายและสาธิตการGrooming และการอาบน้ำการดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้า
ฝึกปฏิบัติGrooming และการอาบน้ำม้า
ฝึกปฏิบัติการดูแลอุปกรณ์ที่ใช้ในการขี่ม้า
หลักการจัดการคอกม้า
บรรยายหลักการจัดการคอกม้า
ทดสอบเก็บคะแนน
1.การเข้าหาม้าและการจับจูงม้า
2.อุปกรณ์และการทำGrooming
ฝึกปฏิบัติทำความสะอาดคอกม้า,การกำจัดสิ่งปฏิกูล,กำจัดแมลง,ลอกท่อน้ำ,การเปลี่ยนสิ่งปูนอน

อ.สพญ.ปรกต


อ.สพญ.ปรกต
อ.สพญ.ปรกต




อ.สพญ.ปรกต

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
6 มี.ค. 51
8.30-10.30.00
10.30-12.00

13.00-15.00
15.00-16.30
หลักการให้อาหารม้าเบื้องต้น
บรรยายเรื่องหลักการให้อาหารม้าและดู VCD
เรียนรู้อาหารม้า,หญ้า,การให้น้ำ และการเก็บที่ถูกต้อง
มอบหมายงานให้ค้นคว้าเตรียมนำเสนอ
ฝึกปฏิบัติGrooming
อ.สพญ.ปรกต



อ.สพญ.ปรกต

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.
7 มี.ค. 51
8.30-12.00


13.00-15.00
15.00-16.30
หลักการดูแลสุขภาพม้าเบื้องต้น
บรรยายเรื่อง หลักการดูแลสุขภาพม้าเบื้องต้นและดูVDO, โรคและปัญหาจากการใช้งานม้าทางด้านการกีฬา,การปฐมพยาบาลม้าเบื้องต้น
นำเสนองานที่ได้ค้นคว้า
ฝึกปฏิบัติGrooming

อ.สพญ.ปรกต


อ.สพญ.ปรกต

คอกม้า คณะสัตวแพทยศาสตร์ มช.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 06:53:36 PM โดย deang » บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 06:56:39 PM »

โรงเรียนสอนขี่ม้านานาชาติ ณ ฮอร์สชูพ้อยท์ เป็นสถานศึกษาที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เรามีหลักสูตรการเรียนการสอนครบถ้วนครอบคลุมทักษะการขี่ม้าทุกระดับ ตั้งแต่การขี่แบบนันทนาการเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และการทดลองขี่เพื่อทดสอบความถนัด ไปจนถึงการเรียนขี่ม้าหลักสูตรพื้นฐาน และหลักสูตรการขี่ม้าชั้สูง สำหรับผู้เรียนกลุ่มเล็กๆ และการเรียนแบบส่วนบุคคล บทเรียนของฮอร์สชูพ้อยท์ มีจุดเด่นที่มุ่งให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะรอบด้่าน กล่าวคือจะไม่จำกัดอยู่ที่การขี่ม้าเพียงอย่างเดียว ยังคงครอบคลุมไปถึงความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีการดูแลและควบคุมม้าด้วย พุดง่ายๆ ก็คือให้ผู้เรียนรู้ตัวทุกขณะว่า “ทุกครั้งที่ขึ้นนั่งบนหลังม้าหรือบังคับม้า ท่านกำลังฝึกม้าและควบคุมม้าได้อย่างถูกวิธีหรือไม่”

 

โรงเรียนสอนขี่ม้าของเรา นับเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาจจะเป็นหนึ่งในทวีปเอเชียเลยก็ได้ ที่นำเสนอหลักสูตรศิลปการขี่่ีม้าแบบคลาสสิค นอกจากนั้นเรายังเปิดสอนหลักสูตรการขี่ม้าพื้นฐาน การบังคับม้า ตลอดจนการขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง






การบังคับม้าและจังหวะลีลาที่งดงาม (Dressage)

หลักใหญ่ของการฝึกบังคับม้า หรือที่ใช้ศัพท์เทคนิคว่า “dressage” หมายถึงการฝึกให้ม้ามีพัฒนาการทางสรีระและจังหวะลีลาที่งดงาม ควบคู่ไปกับความสามารถเข้าใจแลปฏิบัติตามคำสั่ง ผลที่ได้ก็คือม้าที่ผ่านการฝึกมาอย่างถูกต้องทุกขั้นตอน จะมีบุคลิกสง่างาม ผ่อนคลาย และยืดหยุ่นไม่ตื่นตกใจง่าย นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจ เชื่อฟัง คล่องแคล่วและปราดเปรียว มีสายสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีเยี่ยมกับผู้ขี่

 

การขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (Jumping)

หลังจากที่เรียนการขี่ม้าเบื้องต้นผ่านไปแล้ว อันดับต่อไปครูฝึกเราก็จะสอนวิธีการขี่ม้าโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ซึ่งถือเป็นขั้นตอนการเรียนขี่ม้าที่น่าตื่นเต้นที่สุด และเกิดขึ้นพร้อมกับความรู้สึกภาคภูมิใจที่ผู้เรียนเองทำได้สำเร็จ ผู้เรียนที่ประสงค์จะเรียนขี่ม้าข้ามเครื่องกีดขวาง จะเริ่มต้นด้วยการฝึกรักษาสมดุลและการขี่เข้าจังหวะให้ดี ก่อนที่จะกลับไปตั้งต้นเพิ่มความเร็วไปโดดข้ามคานซึ่งพาดที่ระดับสองเป็นการเริ่มต้น หลังจากนั้นก็จะเป็นการฝึกโดดข้ามรั้ว และเครื่องกีดขวางแนวตั้งขนาดเล็กๆ เพื่อหาความชำนาญ และเมื่อผู้เรียนสามารถขี่ข้ามรั้วแบบต่างๆ ได้แล้ว ครูฝึกก็จะนำเครื่องกีดขวางทั้งหมดวางเข้าตำแหน่ง แล้วก็สอนเทคนิคการขี่ข้ามเครื่องกีดขวางเสมือนในสนามแข่งขัน 

 

ศิลปการขี่ม้าแบบคลาสสิค (Classical Riding)

จังหวะการเคลื่อนไหวในเบื้องต้นของการขี่ม้าแบบคลาสสิคนั้นมีอยู่ 3 ลักษณะ ซึ่งเรียกเป็นภาษาเทคนิคว่า “steps,” “trot,” และ “canter” ในจังหวะ steps นั้นม้าจะวางเท้าข้างหนึ่งเฉียงไปข้างหน้าของเท้าอีกข้างหนึ่ง ทำให้ทั้งสี่เท้าสัมผัสพื้น และสามารถได้ยินเสียงกีบเท้าทั้งที่สัมผัสพื้นเมื่อเคลื่อนไหว ส่วนในจังหวะ trot สองเท้าที่ทำมุมเฉียงกันจะยกขึ้นพร้อมกันและลงสัมผัสพื้นพร้อมกัน ทำให้ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าสัมผัสพื้นพร้อมๆ กันครั้งละสองกีบ ซึ่งหมายความว่าขณะที่ม้าเคลื่อนไหวในจังหวะ trot จะมีเวลาช่วงเสี้ยววินาทีที่ม้าลอยตัวในอากาศ  และในจังหวะ canter นั้นจะเป็นการเคลื่อนไหวแบบกระโดกต่อเนื่อง ทำให้ได้ยินเสียงกีบเท้าม้าลงสัมผัสพื้นต่อเนื่องคราวละ 3 กีบ นอกจากนี้ยังมีลีลาการเคลื่อนไหวในรูปแบบที่สูงขึ้นไปกว่านี้อีก ซึ่งได้แก่ จังหวะลีลาที่มีชื่อว่า “piaffe,” “passage,” “side stepping” และ “backward steps”


หลังจากการประเมินผลและได้รับการเสนอชื่อจากครูฝึก ผู้เรียนที่ผ่านการทดสอบขึ้นมาอยู่ในระดับสูงแล้ว จะสามารถไปเรียนต่อหลักสูตรขี่ม้าคลาสสิคได้ โดยการฝึกระดับนี้เป็นการฝึกกับม้าสายพันธุ์ “ลูซิทาโน” พันธุ์แท้ ลูซิทาโนเป็นม้าที่สืบเชื้อสายมาจากม้าโปรตุเกสโบราณ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับม้าพันธ์ุ “แอนดาลูเซียน” ของสเปน มาจนกระทั่งทศวรรษที่ 1960 ม้าทั้งสองสายพันธุ์ดังกล่าวบางครั้งเรียกรวมๆ ว่าม้าพันธุ์ “ไอบีเรียน” เนื่องจากทั้งสเปน และโปรตุเกส ต่างก็ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเดียวกัน คือคาบสมุทรไอบีเรีย ในอดีตม้าสายพันธุื์์์ไอบีเรียนเหล่านี้ได้รับการพัฒนาบำรุงพันธุ์ขึ้นมาเพื่อใช้ในศึกสงครามโดยเฉพาะ ต่อมาก็มีการนำไปใช้ในการแสดงโชว์ และในกีฬาสู้วัวกระทิง ลูซิทาโนเป็นม้าที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้ขี่ เนื่องจากเป็นม้าที่สง่างาม อารมณ์คงเส้นคงวา และมักจะพัฒนาสายสัมพันธ์อันดีกับผู้ข ที่สำคัญเป็นม้าฉลาดไม่เจ้าอารมณ์ และทุกลีลาการเคลื่อนไหวสมดุล
 
http://www.horseshoepoint.com/?MPage=31&Lang=TH
บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:06:08 PM »

ตั้งแต่ม.ต้นจนเป็นหนุ่ม พอปิดเทอมใหญ่ผมโดนหาเหตุให้ได้ไปนอนเล่นที่สวนบางม่วงคราวละ1-2สัปดาห์แทบทุกปี

ที่สวนมีม้าอยู่คู่นึงเป็นม้าเทศ1 พันธุ์ผสม1....เครื่องอานครบ อยู่ที่สวนวันๆไม่ค่อยมีอะไรให้ทำ เลยพอจะนับได้ว่าขี่ม้าเป็น

แต่ไม่ได้ขี่มาหลายปีแล้วครับ


อ้อ ม้าเทศตายไปนานแล้วเหลือแต่ม้าพันธุ์ผสม สมัยก่อนมันชื่อเด่นพอหลังสึนามิคนที่สวนเปลี่ยนชื่อให้มันเป็น"บุญรอด"ฐานที่รอดตายมาได้ฉิวเฉียด เดี๋ยวนี้แก่งั่กแล้วจะอุ้มลูกสาวขึ้นหลังมันยังไม่กล้าเลย  อ๋อย
บันทึกการเข้า
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:15:49 PM »

คัชชา   


เกร็ดความรู้ ประวัติศาสตร์ ... และ ม้า

ขอสดุดี และ คารวะอย่างสูง แด่ท่าน ผู้เป็นเจ้าของบันทึกนี้

http://blake.prohosting.com/~rastudio/Katja%2001%20T.htm

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:20:05 PM โดย deang » บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:17:02 PM »

อ้อHorse Shoes Pointอยู่ทางผ่านเข้าบ้านแม่ผมครับ ออกจากบ้านแม่2-3นาทีก็ถึง แต่ยังไม่เคยแว๊บเข้าไปดูเลย
บันทึกการเข้า
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:22:30 PM »

เรื่องดี ๆ ที่น่าสนใจ ....  ตำราโบราณเกี่ยวกับม้า ..



http://www.digitalrarebook.com/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&cid=5067&pid=29210



บางอย่างก็เกินคาด ... จาก เวบ pantip  ...

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/07/K5654103/K5654103.html


ชมรมอนุรักษ์ม้าพื้นบ้าน สิรินธร โขงเจียม
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=kongfon&month=19-05-2009&group=2&gblog=16

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 07:40:26 PM โดย deang » บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
นายขม รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 99
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1377


ที่ว่างปลายปากกระบอกปืน


« ตอบ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2010, 09:46:33 PM »

ขอบคุณครับ  ไหว้ ไว้จะให้ลูกๆเข้ามาอ่าน

ตอนนี้ลูกๆผมฝึกอยู่ทุกวันศุกร์ พอขี่-บังคับม้าได้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นมืออาชีพ ตอนลูกเริ่มเรียนก็เรียนเป็นเพื่อนลูก ได้แค่คอร์สเดียวต้องยอมแพ้เพราะเจ็บหลัง  อ๋อย



บันทึกการเข้า

ผมจ่ายภาษีให้มาดูแลรักษาบ้านเมือง ไม่ใช่ให้มายืนดูคนเผาบ้านเผาเมือง
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 03:37:02 AM »

เด็กบ้านนอกอย่างผมขี่ม้าเป็นแบบควบกันกลางทุ่งสดๆ ดิบๆ อานไม่ต้อง ก้นแตกเดินเป็นพวกริดสีดวงทวารก่อนถึงจะเก่ง

เพราะเลี้ยงม้าไว้ใช้งานขนข้าวในนา พอโตแล้วไม่ได้ขี่นานแล้ว
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
nick357 "รักในหลวง"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 197
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1843


no!!! conflict.let'sit and talk!!!!


« ตอบ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 07:40:49 AM »

ม้าเทศตัวประมานเท่าไหรครับ ม้าแข่งปลดระวางขายแพงไหมครับ สมช ท่านใดทราบมั่งครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า
Ultraman Taro #รักในหลวง#
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 195
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1624



« ตอบ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 07:51:57 AM »

ไว้ขี่ตอนน้ำมันลิตรละ100
บันทึกการเข้า

"อย่าแก่เพราะกินข้าว อย่าเฒ่าเพราะอยู่นาน" 
โบราณว่า อย่าถือสาคนบ้า อย่าว่าคนเมา ใจเย็นเข้าไว้
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
*****

คะแนน 1830
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 19896


ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์


เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 10:05:41 AM »

        ทำให้ผมนึกถึงเพื่อนที่อุดรฯคนหนึ่ง
เจอกันครั้งสุดท้ายประมาณ ๘ ปีมาแล้ว ครับ
แกขี่ม้าไปสอนนักเรียน  ไม่รู้ตอนนี้ยังทำอย่างนั้นอีกใหม
บันทึกการเข้า

คลิ๊ก ทริปจักรยาน   "บินเดี่ยว ทางไกล ตามใจฝัน"     ลูกอิสาน พลัดถิ่น  จากแดนดิน  "ไหปลาแดก"  เร่ร่อน รอนแรม เดินทางดั้นด้น  มาสู่  "โคนต้นสะตอ"
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 12:37:32 PM »

-ตอนเรียนชั้นประถมมีเพื่อนที่บ้านไกลขี่ม้าไป รร. 2 คน เรานั่งในห้องเรียนมองไปนอกหน้าต่างมองหาเรือรบของราชนาวี โดนครูด่าว่าพ่อเป็นทหารเรือเหรอ ? ถ้าไม่มีเรือรบก็มองหาปลาโลมาที่กระโดดอยู่ไกล ๆ
-ที่บ้านเคยเลี้ยงม้าไว้ 2 ตัวครับ(ขายตัวแรกไปซื้อตัวใหม่มา) เป็นม้าแกลบที่ตัวใหญ่สักหน่อย เอาไว้บรรทุกข้าวขึ้นยุ้ง นาน ๆ ก็เอามาขี่สักทีหนึ่ง 
บันทึกการเข้า
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 03:32:45 PM »

เกมส์ ของผู้หญิง ...
Stacy Westfall's Championship Run 2006

Cowgirls Barrel Racing

Scottsdale Arabian Horse Show Liberty Finals 2008


Pure Spanish Horse

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 03:43:25 PM โดย deang » บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
deang
Sr. Member
****

คะแนน 71
ออฟไลน์

กระทู้: 858


....


เว็บไซต์
« ตอบ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2010, 03:54:04 PM »

การฝึกม้า ...
Horse Training Video: 1 of 12

ฝึกม้าป่า ...
A Mustang Story - "Training a Wild Horse" (Introduction)
บันทึกการเข้า

FBook   prasop tongtawat
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.101 วินาที กับ 18 คำสั่ง