...มันยังบีบแตรอีกนับสิบครั้ง ผมหันไปมอง
ช่างเถอะ! มันก็แค่ไอ้แท็กซี่คันหนึ่ง
ท่าทางคนขับคงจะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ตอนหลังก็ดูจะโวยวายโหวกเหวกไม่แพ้กัน จะรีบไปไหนนักหนาวะ
แต่โดนเข้าไปหลายครั้งก็อายเหมือนกันแฮะ
เสียงแตรที่ดังสนั่นทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมามองที่ผมเป็นตาเดียว แล้วจะให้ทำไงล่ะ ผมมองซ้ายมองขวา
รถติดออกอย่างนี้จะถอยหลังก็ไม่ได้ รถคันหลังก็จ่อมาซะติด
จะขยับไปข้างหน้าก็อย่าหวัง ช่างมันเถอะ ทนอายเอาหน่อย
พอเถอะวะ จะบีบไปทำไม
ออกจากซอยได้ก็ต้องมาติดไฟแดงด้วยกันอยู่ดี
ทั้งคนขับและผู้โดยสารชี้โบ๊ชี้เบ๊มาที่ผม
จะว่าอะไรผมก็ไม่เข้าใจหรอก
ตาของผมกับตาของคนขับแท็กซี่ประสานกันเข้าอย่างจัง
ทำไงดีล่ะ เห็นทีงานนี้ต้องกวนตีนกันแล้ว
ผมยกนิ้วกลางให้พร้อมกับเหยียบคันเร่งกระชากรถออกจากสี่แยก
ขยับไปได้นิดเดียว แท็กซี่คันนั้นก็ปราดแทรกรถคันที่ตามหลังผมทันที
เอาวะ งานนี้เป็นไงเป็นกัน ผมคิด
แท็กซี่คันนั้นยังบีบแตรและเปิดไฟสูงต่ำไล่ผมมาตลอด มันแน่มึงงานนี้ !!!
ถนนช่วงนี้ถึงแม้การจราจรจะค่อนข้างคับคั่ง
แต่จริงๆ ก็ไม่เหลือวิสัยหากผมจะหลีกทางให้มันแซงขึ้นไปข้างหน้า
แต่ถ้าลองเล่นกันถึงขั้นนี้แล้ว
ก็เห็นที่จะต้องตามกวนตีนกันไปให้ถึงที่สุด
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าผมขับรถเร็วขนาดไหน
รู้แต่ว่าผมทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้มันแซงหน้าไปได้
ถ้าเผลอปล่อยให้แซงหน้าได้เมื่อไหร่
ผมจะเร่งแซงกลับไปดักหน้าไว้ทุกครั้ง
ต้องให้บทเรียนไอ้คนพวกนี้บ้าง
ผมเบื่อเต็มทนกับพวกแท็กซี่ที่จอดรับส่งผู้โดยสารไม่เลือกที่
คิดอยากจะจอดตรงไหนก็จอด ที่รถรามันติดกันยาวเหยียดอยู่ทุกวันนี้ ก็ไอ้พวกนี้แหละเป็นส่วนหนึ่ง ต้องเล่นแม่งซะบ้างจะได้เข็ด
แท็กซี่คันนั้นยังใช้ความเร็วอยู่เหมือนเดิม
แซงซ้ายแซงขวาปาดหน้าปาดหลังเค้าไปทั่ว
ผมหลับตานึกถึงผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในนั้น
ป่านนี้คงหายใจไม่ทั่วท้องแน่ๆ ทำไมถึงได้รีบขนาดนี้วะ
ผมเหยียบคันเร่งจนมิดแซงรถคันโน้นคันนี้แล้วก็ไปปาดหน้ามันอีกครั้ง
แล้วก็ชลอความเร็วกันท่าไม่ให้มันแซงผม ก็ได้ผล มันทั้งบีบแตรทั้งเปิดไฟไล่ใส่ผม ช่าง แ_ง
บีบแตรไล่กูนัก
กูจะกันท่าแ_งไปตลอดอย่างนี้แหละ
อีกแค่สองแยกก็จะถึงที่หมายของผมแล้ว
วันนี้ผมลางานครึ่งวันเพื่อมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งนี้
จริงๆ แล้วผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรหรอก เวลาของผมยังมีเหลือเฟือ กวนตีนกันอีกซักพักเวลาก็ยังเหลือแหล่
ไอ้การตรวจร่างกายสมัยนี้ก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรนักหนา เถลไถลไปโน่นไปนี่ก็ยังกลับไปทำงานช่วงบ่ายได้ทัน
รถติดไฟแดงอีกแล้ว ท่าทางจะติดยาวเสียด้วย
แท็กซี่ที่ตามหลังผมมาติดๆ ปราดเข้าเลนซ้าย
ก่อนจะแซงหน้าผมไป
คนขับหันมามองผมแล้วก็ส่ายหน้าเหมือนกับรำคาญผมเต็มประดา
ผมหักพวงมาลัยตาม จากนั้นรถก็ค่อยๆ เขยิบทีละนิดไปตามจังหวะสัญญานไฟ มันพยายามแทรกรถคันอื่นๆ เพื่อที่จะไปอยู่แถวหน้าสุด
ผมปราดรถเข้าช่องว่างตามไป จังหวะนั้นเลนขวาว่าง
ผมเหยียบคันเร่งปาดเข้าขวาแล้วปาดเข้าซ้ายตัดหน้ารถแท็กซี่ไปนิดเดียว
เสียงเบรกของมันดังสนั่น!!
แต่นาทีนี้ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว งานนี้มันต้องทำให้รู้สึกกันบ้าง เหลืออีกนิดเดียวผมก็จะถึงที่หมายแล้ว
หลังจากนั้นเอ็งจะไปไหนก็ไปเหอะ
หลุดจากไฟแดง รถของเราทั้งสองคันก็ปราดออกจากสี่แยกพร้อมๆ กัน
ยังไงซะผมก็ไม่ยอมให้มันขึ้นหน้าหรอก เสียงแตรของแท็กซี่ดังไล่หลังมาไม่ขาดระยะ ถึงซะที
คราวนี้ แ_งจะไปไหนก็ไปเถอะ
ผมเลี้ยวซ้ายเข้าโรงพยาบาล รับบัตรจอดรถจากยามแล้วแล่นเข้าสู่ลานจอด มันยังตามมาติดๆ ยังไม่เลิกเหรอวะ!!
ผมคิด เอาก็เอา ที่ล็อคเกียร์ก็วางอยู่บนเบาะหลัง ผิดนักก็คงได้ฟาดกันมั่งหรอก ผมขับรถเข้าที่จอด
เปิดและปิดประตูรถอย่างแรงเหมือนไม่กลัวว่ามันจะพัง
แท็กซี่ที่ตามมาก็จอดพร้อมๆ กันกับผม
ประตูแท็กซี่ทั้งสี่ด้านเปิดผลัวะออกมาทั้งๆ ที่รถยังจอดไม่สนิทด้วยซ้ำ !!!!!!!!!
ในทันใดนั้น ผมได้แต่ยืนตะลึง
แขนซึ่งถือที่ล็อกเกียร์เตรียมจะประจันบานตกลงมาข้างตัวเหมือนจะหมดแรง
ไม่น่าเชื่อ ทุกสิ่งทุกอย่างในรถคันนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทั้งบนเบาะ ที่บานประตูด้านใน
ไม่เว้นกระทั่งบนเสื้อของคนขับแท็กซี่
ผู้ชายสูงอายุแต่งตัวมอมแมมคนนึงถูกอุ้มอย่างทุลักทุเลลงมาจากรถ
เลือดเปรอะอยู่ทั้งบนลำตัวและใบหน้าของเขาและบนเนื้อตัวของหญิงสาวทั้งสองคนที่คอยประคองอยู่
เธอทั้งคู่ร้องไห้เสียงดัง
โชเฟอร์แท็กซี่ที่ผมคาดว่าคงจะเปิดประตูเข้ามาลุยกับผมรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองชายสูงอายุ
ผมยืนมองจนบุรุษพยาบาลวิ่งเข้ามาและนำชายคนนั้นขึ้นรถเข็นพร้อมทั้งปั๊มหัวใจกันพัลวัน ตลอดเวลานั้น
ผู้หญิงทั้งสองคนเกาะราวรถเข็นไม่ยอมห่าง
ผมได้แต่ยืนงงทำอะไรไม่ถูก คนแก่คนนั้นเขาจะโดนอะไรมาก็เถอะ ถูกยิง ตกตึก หรือรถชน แกคงจะมีโอกาสรอดแน่
ถ้ามาถึงโรงพยาบาลได้เร็วกว่านี้ นี่ถ้าผมไม่แกล้งเขา ลุงแกอาจจะรอด
เขาอาจจะมาถึงที่นี่ซักสิบนาทีก่อนหน้านี้ นั่นก็ยังดี ลุงอาจจะรอด ผมคิด ลุงคงจะรอด ทำไม
แ_งไม่เปิดกระจกมาบอกกรูซักคำวะ
ผมแช่งชักหักกระดูกคนขับแท็กซี่ ในขณะนั้นผมไม่ได้คิดถึงความเลวของตัวเองซักนิด นาทีนั้นผมสับสนอยากอ้วก
ไม่มีแรงจะพยุงตัวเองไว้ได้
ผมเปิดประตูกลับเข้าไปในรถ แว่บนั้นผมเห็นคนขับแท็กซี่เดินเข้ามาหา ช่าง - - - - - -
อยากจะทำอะไรกรูก็ทำ กรูไม่มีกะจิตกะใจจะสู้ - - - อีกแล้ว
ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวาย ผมได้ยินเสียงคนขับแท็กซี่ดังแว่วเข้ามา
มันทำให้ผมรู้สึกเย็นเยือกไปถึงขั้วหัวใจว่า "พี่รู้ไม๊ ลุงแกตายแล้ว เพราะพี่นั่นแหละ"
นั่นเป็นเสียงสุดท้าย ก่อนที่ผมจะซบหน้าลงกับพวงมาลัยและร้องไห้
