เหล็กที่ถูกไฟใหม้จนสปริงล้า เท่ากับว่าอุณหภูมิที่เหล็กได้รับสูงกว่าอุณหภูมิการเปลี่ยนเฟสของโครงสร้างในเนื้อเหล็กครับ
ปรกติเหล็กที่ผ่านการชุบแข็ง คือเหล็กที่ได้รับความร้อนสูงถึงจุดที่มีการเปลี่ยนโครงสร้างแล้วนำมาชุบในน้ำหรือน้ำมัน(น้ำมันเครื่อง)
หรือชุบในเกลือสำหรับชุบแข็ง ซึ่งการเลือกวิธีการในการชุบขึ้นอยู่กับความแข็งที่ต้องการ ต้องมีข้อมูลของเหล็กแต่ละตัวซึ่งจะระบุ
รายละเอียดทั้งระยะเวลา อุณหูภมิ ความเร็วในการเย็นตัว ข้อมูลพวกนี้สำหรับนักโลหะวิทยาหรือวิศวกรที่ทำงานด้านนี้ จะมีคู่มือเล่มใหญ่
ในการอ้างอิงครับ(ของผมไม่ได้ใช้นานหาไม่เจอแล้ว

)
ทีนี้กรณีที่เป็นอาวุธปืนเมื่อได้รับความร้อนจากไฟจนเนื้อเหล็กเปลี่ยนโครงสร้างจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
-กรณีที่อยู่ในกองไฟยาวนานจนถึงอุณหภูมิที่เนื้อเหล็กเปลี่ยนโครงสร้าง แล้วฉีดน้ำไส่ทันที กรณีนี้คล้ายกับการชุบแข็งแบบจุ่มในน้ำ
ซึ่งสำหรับชิ้นงานที่ขึ้นรูปซับซ้อนเมื่อนำมาชุบด้วยน้ำทำให้การเย็นตัวเร็วมาก โอกาสที่จะเกิดการร้าวในจุดที่เป็นรอยต่อเป็นมุมต่างๆ
ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดศูนย์รวมความเค้น(stress concentration)เป็นไปได้สูงมาก ซึ่งการร้าวรอยเล็กๆในโครงสร้างจะสังเกตไม่เห็น
ด้วยตาเปล่าครับ และอาจมีการบิดงอของเนื้อโลหะด้วย(อาจจะน้อยจนมองไม่เห็นแต่จะทิ้งความเครียด Strain ไว้ในเนื้อเหล็ก ทำให้
มีโอกาสแตกหักเสียหายได้ง่ายขึ้น)
-กรณีที่อยุ่ในกองไฟนาน จนถึงอุณหภูมิที่เนื้อเหล็กเปลี่ยนโครงสร้าง แล้วปล่อยให้เย็นตัวเอง กรณีนี้กล้ายกับการอบอ่อน เนื้อเหล็กจะออ่น
ซึ่งเนื้อเหล็กที่อ่อนลง ทำให้รับการสึกหรอจากการเสียดสีได้ต่ำลง มีโอกาสเสียรูป(deform)เช่น บิดเบี้ยว เยิน ได้ง่ายขึ้น
(เช่นนกสับอาจจะเยิน แข็มแทงชนวนงอ สปริงหมดคุณสมบัติการเป็นสปริง)
และยังมีผลต่อความแข็งแรงที่ลดลงด้วย(ส่วนนี้ถ้าเป็นลูกโม่ หรือลำกล้อง ซึ่งรับแรงดันโดยตรง โอกาสเกิดอันตรายได้สูง)
จากคำถามของหัวข้อกระทู้ ถ้าเป็นผมคงไม่ซื้อครับ