ยิงโจรตาย ขณะกำลังเอาทรัพสินไป ทั้งๆที่บอกให้หยุดแล้ว คนยิงผิดแค่ไหน
แน่นอนครับ ที่แน่ๆเบื้องต้นก่อน คือ ท่านจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหาฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ส่วนการกระทำนั้นจะเป็นการป้องกันหรือไม่ เกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
เหมือนเดิมครับ มีปืนไว้ยิ่งตัวตาย
เคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แต่คงต้องขออนุญาตยกมากล่าวอีกครั้ง

หากมองโดยผิวเผินแล้ว อาจจะมองดูว่าการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน ช่างลำบากจัง
แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว เหตุผลตามหลักกฎหมายและคำพิพากษาของศาลที่วางหลักเกณฑ์ในเรื่องป้องกันค่อนข้างละเอียด
ก็เพราะ การที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้ที่เจตนาใช้อาวุธปืน ยิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งจนถึงแก่ความตาย
โดยที่ผู้ใช้อาวุธปืนนั้น ไม่มีความผิดอาญาใดๆทั้งสิ้นติดตัวเลย
แถมส่งผลไปยังบิดา มารดา บุตร ภรรยา ของผู้ตาย ไม่สามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าขาดอุปการะ ค่าปลงศพใดๆ ในทางแพ่งกับผู้ยิงได้
เพราะถือว่า การยิงผู้ตายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฏหมาย ก็ควรที่จะมีหลักเกณฑ์ในการใช้สิทธิป้องกันที่เคร่งครัดและรอบคอบพอสมควร
มิฉะนั้นแล้ว หากมีการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ไม่ร้ายแรง หรือไม่น่าที่จะถึงขั้นต้องใช้อาวุธปืนยิง
เช่น คนเดินผ่านหน้าบ้านในเวลากลางคืน เข้าใจว่าเป็นขโมยก็ยิง
วัยรุ่นเดินเข้ามาหาคนเดียวโดยที่ไม่มีอาวุธ ก็ยิงไว้ก่อน โดยไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาถามทางหรือเอาเรื่อง
เด็กๆอยากกินมะม่วงในเขตที่ดินเรา แอบปีนมาเก็บ แน่นอนเป็นการลักทรัพย์ แต่เรามาเห็นพอดีก็ยิง
โจรขโมยของเรา เราเห็นก็เปิดไฟ คนร้ายตกใจจึงวิ่งหนี เราก็ยิงไส่ไปหมดแม๊ก ฯลฯ
และกฎหมายหรือศาล ตอบสนองอารมณ์โดยเปิดโอกาสให้ยิงผู้อื่นได้ทุกกรณี ไม่ว่าจะมีการละเมิดต่อกฎหมายมากน้อยเพียงใด ร้ายแรงหรือไม่
หรือแม้แต่การละเมิดแม้เพียงนิดเดียว ผู้ยิงสามารถใช้สิทธิป้องกันได้โดยใช้อาวุธปืนยิงคนร้าย ผู้มาละเมิดได้ทันที โดยถือว่าไม่มีความผิดทุกกรณี
และถือว่าเป็นเรื่องที่พอสมควรแก่เหตุทุกกรณี ผมว่างานนี้ คงจะอ้างว่าป้องกัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าป้องกันหรือแค้นส่วนตัว แล้วยิงกันเป็นว่าเล่นละครับ
ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลของกฎหมายและศาล ที่จำเป็นต้องวางกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดพอสมควร ว่าอย่างใดเป็นป้องกัน
อย่างใดพอสมควรแก่เหตุ หรืออย่างใดเกินกว่าเหตุไว้ เพื่อมิให้ใช้สิทธิป้องกันได้อย่างว่าเล่น
ในมุมมองผม การที่กฎหมายและศาลวางหลักว่า อย่างไรถึงจะเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง อย่างไรถือว่าร้ายแรงพอสมควรแก่เหตุที่สามารถใช้อาวุธปืน
หรืออย่างไรที่สมควรจะงดใช้อาวุธปืนก่อน นอกจากคนร้ายยังคงมุ่งประสงค์ต่อชีวิตจึงใช้ได้ หรือเหตุการณ์แบบใด จึงสามารถใช้อาวุธปืนยิงได้
ก็เพราะกฎหมายและศาล ต้องการคุ้มครองสุจริตชน และเป็นการคุ้มครองประชาชนทั่วไป ไม่ให้โดนใช้สิทธิป้องกันอย่างพร่ำเพรือเช่นกัน
และจำเป็นต้องลงโทษบุคคลที่ปากพร่ำเพ้อว่าเป็นสุจริตชน แต่จิตใจ ความคิดมุ่งจะเอาชีวิตผู้อื่นให้ตาย ทั้งที่ไม่จำเป็น
และไม่คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งฝ่ายตนเอง และฝ่ายที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยเอาเหตุป้องกันมาบังหน้า
ดังนั้น กฎหมายจึงได้บอกให้เรา ผู้จะใช้สิทธิป้องกัน ให้ระมัดระวัง รอจังหวะสักนิด หากว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปืน
ก็ไม่ควรใช้ปืนก่อน ใช้อย่างอื่นก่อนได้ไหม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ใช้สิทธิเลย เช่นหากมีพฤติการณ์ร้ายแรง หากมัวรอ อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตร่างกายแน่ๆ หลักกฎหมายและศาลก็เปิดโอกาสให้ตอบโต้ได้ทันทีเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เราในฐานะผู้เสียหาย ยังคงมีฐานะผู้เสียหายที่แท้จริงตามกฎหมายนั้นเอง