เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
มิถุนายน 19, 2025, 01:48:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ยิงโจรตาย ขณะกำลังเอาทรัพสินไป ทั้งๆที่บอกให้หยุดแล้ว คนยิงผิดแค่ไหนครับ  (อ่าน 8800 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
AEY@1911
1911 lism...
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 65
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1380



« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 09:13:31 PM »

ผมจะยิงที่ขาแล้วให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ปืนลั่น.... คิก คิก
บันทึกการเข้า
Marcuechio
Full Member
***

คะแนน 23
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 419



« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 09:24:22 PM »

ถ้าเจอจริงๆ เป็นผมก็ ยิงขู่ไปก่อนหนึ่งนัด ยิงลงดิน โดยปกติถ้าเจอเสียงปืน โจรคงทิ้งของแล้วหนีหละครับ คงไม่มีโจร หน้าด้าน ยังคงขนของหนีหรอครับ
บันทึกการเข้า
steam.รักในหลวง
รวดเร็วดั่งสายลม สงบนิ่งดั่งแนวป่า ร้อนแรงดั่งเปลวเพลิง มั่นคงดั่งขุนเขา
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2579
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6366



« ตอบ #17 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 09:30:45 PM »

         เป็นผมจะแหกปากเตือนก่อน ถ้าสู้ยิงขู่ทีหัว อุ๊ยไม่ใช่ที่พื้นหนึ่งนัด ถ้ายังไม่หนีและจะสู้อีกก็ยิงตัดขั้วหัวใจเลย คนตายพูดอะไรไม่ได้ครับ  Grin
บันทึกการเข้า
nara11
Jr. Member
**

คะแนน 8
ออฟไลน์

กระทู้: 38


« ตอบ #18 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 09:44:55 PM »

กรณีที่โจรขึ้นบ้านมาขโมยทรัพย์สิน แล้วเรามาเจอพอดีและบอกให้หยุดไม่ให้เอาทรัพย์สินของเราไปแต่โจรไม่ฟัง แถมยังจะเอาของเราไปอีก แล้วเรายิงโจรตาย หรือ บาดเจ็บ เรามีความผิดมากแค่ไหนครับ
สามารถอ้างได้ไหมครับว่าถ้าเราเข้าไปหยุดในระยะประชิดเราจะถูกทำร้ายจากโจรได้จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนแทน
                 เป็นผมคงจะต้องใช้มาตรการจากหนักไปหาเบาเลยครับ   คือ  ยิง แต่ไม่ให้ถึงตาย  เหตุผล คือ
                           ๑. เหตุเกิดในบ้านของเรา
                           ๒. การที่คนร้ายเอาทรัพย์สินเราไป แล้วเรากำลังติดตามเอาคืน  ถือว่าภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป
                           ๓. หากเราไม่ยิง  คนร้ายก็จะเอาทรัพย์เราไปได้  ดังนั้น การยิง  ถือว่าเป็นวิธีทางที่น้อยที่สุดแล้วสำหรับการป้องกัน
                           ๔. การยิงถูกแขน หรือขา มองได้ว่า เราไม่ได้มีเจตนาฆ่า คงมีแค่เจตนาทำร้าย
                           ๕.  จึงไม่เกินสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย  ไม่เป็นความผิด
              ขอฝากข้อคิดไว้นิดว่า  ถ้าเราจะอ้างว่าป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เราจะต้องต่อสู้ว่าเรามีเจตนาที่จะยิงคนร้าย  เพราะ การป้องกันจะต้องกระทำโดยเจตนาเสมอ
ถ้าอ้างว่าปืนลั่น แล้วถูกคนร้าย  อาจจะเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทได้ครับ  แล้วจะอ้างป้องกันขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ครับ
บันทึกการเข้า
Golf 17
Hero Member
*****

คะแนน 576
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2765



« ตอบ #19 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 09:48:21 PM »

ผมไม่เคยคิดที่จะใช้ปืน  แต่ที่เราขอเพื่อครอบครองเพื่ออะไรล่ะครับ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน

ถ้าจำเป็น ก็ต้องเหี้ยม ...
บันทึกการเข้า

จะขอสู้จนกระสุน...นัดสุดท้าย ...


http://www.ipscthailand.com
sak-s4
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 74


« ตอบ #20 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 10:12:05 PM »

พี่ๆครับถ้าเจอเหตุการณ์จั๋งๆอย่างที่ว่าวิธีที่ดีที่สุดควรทำยังไงดี Huh

มีสติครับ...เหตุการณ์ทุกอย่างไม่มีคำตอบตายตัว "สติ" จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นครับ...
สติ ต้องมาก่อน....แล้วการจะยิง หรือ ไม่ยิง ค่อยว่ากัน...
+1ครับ ทุกอย่างแก้ไขได้
บันทึกการเข้า
mai2
Jr. Member
**

คะแนน 7
ออฟไลน์

กระทู้: 45


« ตอบ #21 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 11:27:11 PM »

ขาครับ ขา ไม่รู้จะโดนข้อหาอะไรรึเปล่าน่ะครับ อาจะผิด
แต่ถ้าเป็นผมยิงขาเพื่อไม่ให้หนี  ไหว้ ไหว้ ไหว้
ผมจะยิงที่ขาแล้วให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ปืนลั่น.... คิก คิก
กรณีที่โจรขึ้นบ้านมาขโมยทรัพย์สิน แล้วเรามาเจอพอดีและบอกให้หยุดไม่ให้เอาทรัพย์สินของเราไปแต่โจรไม่ฟัง แถมยังจะเอาของเราไปอีก แล้วเรายิงโจรตาย หรือ บาดเจ็บ เรามีความผิดมากแค่ไหนครับ
สามารถอ้างได้ไหมครับว่าถ้าเราเข้าไปหยุดในระยะประชิดเราจะถูกทำร้ายจากโจรได้จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนแทน
                 เป็นผมคงจะต้องใช้มาตรการจากหนักไปหาเบาเลยครับ   คือ  ยิง แต่ไม่ให้ถึงตาย  เหตุผล คือ
                           ๑. เหตุเกิดในบ้านของเรา
                           ๒. การที่คนร้ายเอาทรัพย์สินเราไป แล้วเรากำลังติดตามเอาคืน  ถือว่าภยันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป
                           ๓. หากเราไม่ยิง  คนร้ายก็จะเอาทรัพย์เราไปได้  ดังนั้น การยิง  ถือว่าเป็นวิธีทางที่น้อยที่สุดแล้วสำหรับการป้องกัน
                           ๔. การยิงถูกแขน หรือขา มองได้ว่า เราไม่ได้มีเจตนาฆ่า คงมีแค่เจตนาทำร้าย
                           ๕.  จึงไม่เกินสมควรแก่เหตุ เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย  ไม่เป็นความผิด
              ขอฝากข้อคิดไว้นิดว่า  ถ้าเราจะอ้างว่าป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย เราจะต้องต่อสู้ว่าเรามีเจตนาที่จะยิงคนร้าย  เพราะ การป้องกันจะต้องกระทำโดยเจตนาเสมอ
ถ้าอ้างว่าปืนลั่น แล้วถูกคนร้าย  อาจจะเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทได้ครับ  แล้วจะอ้างป้องกันขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้ครับ



                    ...กว่าจะขอ ใบ ป.3 ได้ บางท่านก็ลำบากน่าดู...
                           ....มีอาวุธปืนแล้วเพื่อป้องกันทรัพย์สินและชีวิต  ตามวัตถุประสงค์ของการอนุญาตให้มีไว้เพื่อ....แล้ว  ตามใบ ป.4....
                                  ....แล้วเจอเหตุการอย่างนี้...ยิง..ปัญหาก็มาก...แต่ถ้าไม่ยิง...ก็เป็นปัญหาแน่(ให้เขาเอาของไปต่อหน้าต่อตา)...
                                        ...ก็แนะนำให้โยนปืนทิ้งแล้วไปวิ่งไล่จับด้วยมือเอา...วัดดวง....( ล้อเล่นน่ะครับ.)

                   ....ตามกระทู้ที่อ้างถึง....ถูกต้องครับ  คุณต้องมีสติ  ตะโกนพูดขู่ให้หยุด...ยิงขู่ได้ก็ควรทำ....(แต่ให้ระวังทิศทางที่ยิงขู่ไปนะครับ...เดี๋ยวจะไปโดนคนอื่นเข้า...)    เล็งยิงไปที่ขาครับ  กี่นัดก็ได้  ใส่ไปเถอะครับ ให้โดนขาเข้าไว้ ตามเหตุผลข้อที่ 4 ของท่าน nara11 
 การเลือกยิงได้ แล้วเลือกไปที่ขา ซึ่งเป็นอวัยวะที่ไม่ทำให้ถึงตาย   การเลือกยิงแบบนี้ศาลจะเห็นเจตนาเราครับว่าเราไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิต
                       
                      ...แต่ที่สำคัญ  อย่าดูที่ขาเพลินนะครับ   ดูที่มือของโจรด้วยว่ามันมีของจะสวนเรามาด้วยหรือไม่....หากโจรมันสู้ขึ้นมาเตรียมจะมอบตะกั่วคืนให้ท่าน....ก็ขอแนะนำ ให้ย้ายจากยิงที่ขา  มายิงที่หัวกะบาลโจรมันแทนครับ...
บันทึกการเข้า
Chichai
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13



« ตอบ #22 เมื่อ: ตุลาคม 20, 2010, 11:28:36 PM »

แล้วถ้าเจอเหตุการณ์ที่เราได้ยินเสียงผิดปกติ
แล้วเราถือปืนลงมาจากบ้าน  
เจอขโมยกำลังจะขับรถยนต์ของเราซึ่งจอดไว้หน้าบ้านออกไป
หากยิงขู่แล้วไม่หยุด(คิดว่าไม่มีขโมยคนไหนหยุดหรือทิ้งรถวิ่งหนี)
กลับเข้าเกียร์ออกรถออกไปเฉยเลย
แล้วเราจะยิงดีมั้ย
เป้าหมายน่าจะมีแค่หน้าอกขึ้นไปถึงหัว
หรือจะยิงยางรถ  แล้วถ้าเกิดมันสวนมาหล่ะ...??
บันทึกการเข้า
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #23 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 07:21:06 AM »

ใบป.4 ระบุชัดเจนไม่ต้องตีความ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
แต่กฎหมายให้แค่ป้องกัน ไม่ให้ฆ่าผู้อื่น
แต่หากเกิดการฆ่า ก็ต้องดูในอีกมุม
ป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเจตนาฆ่าคนตาย
ทั้งหลายทั้งปวงผู้กระทำย่อมรู้แก่ใจ
ซึ่งสะท้อนออกมาในข้อเท็จจริงของเหตุการณ์
หากใช้สามัญสำนึกของวิญญูชน
ก็จะตอบได้ว่าที่กระทำลงไปเกินกว่าเหตุหรือไม่
ทัศนคติของคนถือปืนก็สำคัญ
แค่คิดว่ายิงให้ตายกับยิงป้องกันตัว พฤติกรรมการใช้ปืนก็ต่างกัน
สุดท้ายก็ต้องย้อนกลับไปดูตัวหนังสือสีแดงบนหัวใบป.4
บันทึกการเข้า
mchaivis
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 80
ออฟไลน์

กระทู้: 720



« ตอบ #24 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 07:44:58 AM »

กรณีที่ จขกท. ยกขึ้นมา
หากว่ากันตามคำบรรยาย
ผมว่าคนยิงเจอเรื่องใหญ่แน่นอน
จุดสำคัญคือคนร้ายไม่มีอาวุธ
ซึ่งหมายความว่าภัยตรงหน้าไม่คุกคามถึงชีวิต
ยิ่งถ้าคนร้ายหนีแล้วตามไปยิง ยิ่งสนุก
เพราะในเวลานั้นชีวิตไม่ถูกคุกคามแล้ว
การแสวงหาความรู้ในเรื่องแบบนี้
ควรหาคำพิพากษามาอ่าน มีประโยชน์กว่ายกสถานการณ์หลอกมาตั้งคำถาม
บันทึกการเข้า
SingCring
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #25 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 08:05:04 AM »

ยิงโจรตาย ขณะกำลังเอาทรัพสินไป ทั้งๆที่บอกให้หยุดแล้ว คนยิงผิดแค่ไหน
แน่นอนครับ ที่แน่ๆเบื้องต้นก่อน คือ ท่านจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหาฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ส่วนการกระทำนั้นจะเป็นการป้องกันหรือไม่ เกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

เหมือนเดิมครับ มีปืนไว้ยิ่งตัวตาย

เคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แต่คงต้องขออนุญาตยกมากล่าวอีกครั้ง  ไหว้

หากมองโดยผิวเผินแล้ว อาจจะมองดูว่าการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน ช่างลำบากจัง 

แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว เหตุผลตามหลักกฎหมายและคำพิพากษาของศาลที่วางหลักเกณฑ์ในเรื่องป้องกันค่อนข้างละเอียด
ก็เพราะ การที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้ที่เจตนาใช้อาวุธปืน ยิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งจนถึงแก่ความตาย
โดยที่ผู้ใช้อาวุธปืนนั้น ไม่มีความผิดอาญาใดๆทั้งสิ้นติดตัวเลย

แถมส่งผลไปยังบิดา มารดา บุตร ภรรยา ของผู้ตาย ไม่สามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าขาดอุปการะ ค่าปลงศพใดๆ ในทางแพ่งกับผู้ยิงได้
เพราะถือว่า การยิงผู้ตายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฏหมาย ก็ควรที่จะมีหลักเกณฑ์ในการใช้สิทธิป้องกันที่เคร่งครัดและรอบคอบพอสมควร

มิฉะนั้นแล้ว หากมีการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ไม่ร้ายแรง หรือไม่น่าที่จะถึงขั้นต้องใช้อาวุธปืนยิง
เช่น คนเดินผ่านหน้าบ้านในเวลากลางคืน เข้าใจว่าเป็นขโมยก็ยิง
วัยรุ่นเดินเข้ามาหาคนเดียวโดยที่ไม่มีอาวุธ ก็ยิงไว้ก่อน โดยไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาถามทางหรือเอาเรื่อง

เด็กๆอยากกินมะม่วงในเขตที่ดินเรา แอบปีนมาเก็บ แน่นอนเป็นการลักทรัพย์ แต่เรามาเห็นพอดีก็ยิง
โจรขโมยของเรา เราเห็นก็เปิดไฟ คนร้ายตกใจจึงวิ่งหนี เราก็ยิงไส่ไปหมดแม๊ก ฯลฯ
และกฎหมายหรือศาล ตอบสนองอารมณ์โดยเปิดโอกาสให้ยิงผู้อื่นได้ทุกกรณี  ไม่ว่าจะมีการละเมิดต่อกฎหมายมากน้อยเพียงใด ร้ายแรงหรือไม่

หรือแม้แต่การละเมิดแม้เพียงนิดเดียว ผู้ยิงสามารถใช้สิทธิป้องกันได้โดยใช้อาวุธปืนยิงคนร้าย ผู้มาละเมิดได้ทันที โดยถือว่าไม่มีความผิดทุกกรณี
และถือว่าเป็นเรื่องที่พอสมควรแก่เหตุทุกกรณี ผมว่างานนี้ คงจะอ้างว่าป้องกัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าป้องกันหรือแค้นส่วนตัว แล้วยิงกันเป็นว่าเล่นละครับ

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลของกฎหมายและศาล ที่จำเป็นต้องวางกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดพอสมควร ว่าอย่างใดเป็นป้องกัน
อย่างใดพอสมควรแก่เหตุ หรืออย่างใดเกินกว่าเหตุไว้ เพื่อมิให้ใช้สิทธิป้องกันได้อย่างว่าเล่น

ในมุมมองผม การที่กฎหมายและศาลวางหลักว่า  อย่างไรถึงจะเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง อย่างไรถือว่าร้ายแรงพอสมควรแก่เหตุที่สามารถใช้อาวุธปืน
หรืออย่างไรที่สมควรจะงดใช้อาวุธปืนก่อน นอกจากคนร้ายยังคงมุ่งประสงค์ต่อชีวิตจึงใช้ได้ หรือเหตุการณ์แบบใด จึงสามารถใช้อาวุธปืนยิงได้
ก็เพราะกฎหมายและศาล ต้องการคุ้มครองสุจริตชน และเป็นการคุ้มครองประชาชนทั่วไป ไม่ให้โดนใช้สิทธิป้องกันอย่างพร่ำเพรือเช่นกัน

และจำเป็นต้องลงโทษบุคคลที่ปากพร่ำเพ้อว่าเป็นสุจริตชน แต่จิตใจ ความคิดมุ่งจะเอาชีวิตผู้อื่นให้ตาย ทั้งที่ไม่จำเป็น
และไม่คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งฝ่ายตนเอง และฝ่ายที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยเอาเหตุป้องกันมาบังหน้า

ดังนั้น กฎหมายจึงได้บอกให้เรา ผู้จะใช้สิทธิป้องกัน ให้ระมัดระวัง รอจังหวะสักนิด หากว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปืน
ก็ไม่ควรใช้ปืนก่อน ใช้อย่างอื่นก่อนได้ไหม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ใช้สิทธิเลย เช่นหากมีพฤติการณ์ร้ายแรง หากมัวรอ อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตร่างกายแน่ๆ หลักกฎหมายและศาลก็เปิดโอกาสให้ตอบโต้ได้ทันทีเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เราในฐานะผู้เสียหาย ยังคงมีฐานะผู้เสียหายที่แท้จริงตามกฎหมายนั้นเอง

บันทึกการเข้า
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #26 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 08:15:07 AM »

ยิงโจรตาย ขณะกำลังเอาทรัพสินไป ทั้งๆที่บอกให้หยุดแล้ว คนยิงผิดแค่ไหน
แน่นอนครับ ที่แน่ๆเบื้องต้นก่อน คือ ท่านจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหาฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ส่วนการกระทำนั้นจะเป็นการป้องกันหรือไม่ เกินกว่าเหตุหรือไม่ ต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

เหมือนเดิมครับ มีปืนไว้ยิ่งตัวตาย

เคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว แต่คงต้องขออนุญาตยกมากล่าวอีกครั้ง  ไหว้

หากมองโดยผิวเผินแล้ว อาจจะมองดูว่าการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน ช่างลำบากจัง 

แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว เหตุผลตามหลักกฎหมายและคำพิพากษาของศาลที่วางหลักเกณฑ์ในเรื่องป้องกันค่อนข้างละเอียด
ก็เพราะ การที่ศาลจะพิพากษาให้ผู้ที่เจตนาใช้อาวุธปืน ยิงบุคคลใดบุคคลหนึ่งจนถึงแก่ความตาย
โดยที่ผู้ใช้อาวุธปืนนั้น ไม่มีความผิดอาญาใดๆทั้งสิ้นติดตัวเลย

แถมส่งผลไปยังบิดา มารดา บุตร ภรรยา ของผู้ตาย ไม่สามารถที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย ค่าขาดอุปการะ ค่าปลงศพใดๆ ในทางแพ่งกับผู้ยิงได้
เพราะถือว่า การยิงผู้ตายเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฏหมาย ก็ควรที่จะมีหลักเกณฑ์ในการใช้สิทธิป้องกันที่เคร่งครัดและรอบคอบพอสมควร

มิฉะนั้นแล้ว หากมีการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายที่ไม่ร้ายแรง หรือไม่น่าที่จะถึงขั้นต้องใช้อาวุธปืนยิง
เช่น คนเดินผ่านหน้าบ้านในเวลากลางคืน เข้าใจว่าเป็นขโมยก็ยิง
วัยรุ่นเดินเข้ามาหาคนเดียวโดยที่ไม่มีอาวุธ ก็ยิงไว้ก่อน โดยไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาถามทางหรือเอาเรื่อง

เด็กๆอยากกินมะม่วงในเขตที่ดินเรา แอบปีนมาเก็บ แน่นอนเป็นการลักทรัพย์ แต่เรามาเห็นพอดีก็ยิง
โจรขโมยของเรา เราเห็นก็เปิดไฟ คนร้ายตกใจจึงวิ่งหนี เราก็ยิงไส่ไปหมดแม๊ก ฯลฯ
และกฎหมายหรือศาล ตอบสนองอารมณ์โดยเปิดโอกาสให้ยิงผู้อื่นได้ทุกกรณี  ไม่ว่าจะมีการละเมิดต่อกฎหมายมากน้อยเพียงใด ร้ายแรงหรือไม่

หรือแม้แต่การละเมิดแม้เพียงนิดเดียว ผู้ยิงสามารถใช้สิทธิป้องกันได้โดยใช้อาวุธปืนยิงคนร้าย ผู้มาละเมิดได้ทันที โดยถือว่าไม่มีความผิดทุกกรณี
และถือว่าเป็นเรื่องที่พอสมควรแก่เหตุทุกกรณี ผมว่างานนี้ คงจะอ้างว่าป้องกัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าป้องกันหรือแค้นส่วนตัว แล้วยิงกันเป็นว่าเล่นละครับ

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลของกฎหมายและศาล ที่จำเป็นต้องวางกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดพอสมควร ว่าอย่างใดเป็นป้องกัน
อย่างใดพอสมควรแก่เหตุ หรืออย่างใดเกินกว่าเหตุไว้ เพื่อมิให้ใช้สิทธิป้องกันได้อย่างว่าเล่น

ในมุมมองผม การที่กฎหมายและศาลวางหลักว่า  อย่างไรถึงจะเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง อย่างไรถือว่าร้ายแรงพอสมควรแก่เหตุที่สามารถใช้อาวุธปืน
หรืออย่างไรที่สมควรจะงดใช้อาวุธปืนก่อน นอกจากคนร้ายยังคงมุ่งประสงค์ต่อชีวิตจึงใช้ได้ หรือเหตุการณ์แบบใด จึงสามารถใช้อาวุธปืนยิงได้
ก็เพราะกฎหมายและศาล ต้องการคุ้มครองสุจริตชน และเป็นการคุ้มครองประชาชนทั่วไป ไม่ให้โดนใช้สิทธิป้องกันอย่างพร่ำเพรือเช่นกัน

และจำเป็นต้องลงโทษบุคคลที่ปากพร่ำเพ้อว่าเป็นสุจริตชน แต่จิตใจ ความคิดมุ่งจะเอาชีวิตผู้อื่นให้ตาย ทั้งที่ไม่จำเป็น
และไม่คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นภายหลัง ทั้งฝ่ายตนเอง และฝ่ายที่ถูกยิงเสียชีวิต โดยเอาเหตุป้องกันมาบังหน้า

ดังนั้น กฎหมายจึงได้บอกให้เรา ผู้จะใช้สิทธิป้องกัน ให้ระมัดระวัง รอจังหวะสักนิด หากว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ปืน
ก็ไม่ควรใช้ปืนก่อน ใช้อย่างอื่นก่อนได้ไหม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้ใช้สิทธิเลย เช่นหากมีพฤติการณ์ร้ายแรง หากมัวรอ อาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตร่างกายแน่ๆ หลักกฎหมายและศาลก็เปิดโอกาสให้ตอบโต้ได้ทันทีเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เราในฐานะผู้เสียหาย ยังคงมีฐานะผู้เสียหายที่แท้จริงตามกฎหมายนั้นเอง


+1 เยี่ยม
บันทึกการเข้า
coda
None of us is as smart as all of us.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1081
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20779



เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 08:17:34 AM »

...+1 คุณสิงห์กลิ้ง  เยี่ยม
บันทึกการเข้า

Check your monitor:

https://www.facebook.com/StudioCoda

"ยึดปืนคนดี  อัปรีย์จะครองเมือง"
K...BOY
Jr. Member
**

คะแนน 0
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 24


« ตอบ #28 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 09:04:01 AM »

เรามีซื่อปืนมาเพื่ออะไร (ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน) เป็นไปได้ไหมถ้าเราไม่ยิงแล้วเอาปืนไปเคระหัวโจรมันเฉิยๆๆแล้วมันจะหนีไป คงเป็นไปไม่ได้
ทั้งๆๆที่เราอยู่ของเราดีๆๆมันเป็นคนเขามาก่อเหตุแล้วเราทำได้แค่ยิงขู่มันเฉยๆๆ ถ้ามันไม่กลัวเราขึ้นมาแล้วมันก็ยิงสู้เราแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นเราจะรอดหรือไม่รอดก็ไม่รู้ ฉะนั้นเรามีปืนเราก็ต้องยิงมัน มันจะตายไม่ตายก็อีกเรื่องหนึ่ง (กฎหมายก็บอกอยู่แล้วว่า ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน) ทำไมเรายิงมันแล้วเราต้องผิดด้วยทั้งๆๆที่เราไม่ได้เป็นคนก่อเหตุก่อน  ผมคนหนึงที่โดนโจรมันขึ้นบ้านคิดแล้วยังเจ็บใจไม่หายข้าวของหายไปหลายตังเหมือกัน

ทำไมไม่มีใครตั้งกฎหมายตรงหนี้บางว่า  หากเรายิงโจรที่มาบุกรุกบ้านเราแล้วเราไม่มีความผิดถึงโจรจะตายหรือไม่ตายก็ไม่มีความผิด(เพระในบริเวณบ้านเรา)  Angry Angry Angry Angry
บันทึกการเข้า

ไม่เข้าใคร..ออกใคร...แต่ถ้าปล่อยออกไปไม่เคยพลาด
USP40
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 09:25:01 AM »

Thick skull syndrome.
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.295 วินาที กับ 21 คำสั่ง