เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 21, 2025, 01:34:50 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เอาอีกแล้วครับท่าน แค่กระพริบไฟใส่กันก็ยิง กัน อีกแล้ว  (อ่าน 10914 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เขาใหญ่
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 83
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 766


« ตอบ #60 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 04:00:30 PM »

ถ้าขับของเราไป ไม่ไปยุ่งกับใคร ก็คงไม่มีใครมายุ่งกับเรา

ถูกต้องครับ

ปรับกระจกมองหลัง ลดความเร็ว ชิดซ้ายหน่อย ปล่อยให้แซงไปซะ เรื่องก้อจบ แค่นี้ทำไมไม่ทำ
บันทึกการเข้า

"เป้าหมาย...มีไว้เเล่นตำ"
Mr.Nikorn
Newbie
*

คะแนน 0
ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #61 เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 05:37:24 PM »

ผมว่าเหตุการณ์นี้ เดายาก ถึงเล่าโดยกัปตันก็ตามที เขาคงให้ข้อมุลไม่หมดแน่ ๆ ตอนนี้ตรวจหลักฐานประกอบไปก่อน ถ้าผมเป็นพนักงานสอบสวนขอตรวจผิวหนังบริเวณมือของกัตันก่อน ว่าได้ใช้ปืนด้วยหรือเปล่า เผลอ ๆ มือปืนอาจโผลพร้อมร่องรอยรถฟอจูนเนอร์ที่ถูกยิง ทีนี้หละ คดีอาจผลิก
บันทึกการเข้า
kamet
Full Member
***

คะแนน 48
ออฟไลน์

กระทู้: 319


« ตอบ #62 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 05:05:46 PM »

เพื่อนเล่าว่า ขับรถอยู่ มีรถคันหลังขับตาม แล้วเปิดไฟสูงส่องตลอด
อดไม่ไหวจึงจอดรถลงไปหารถที่เปิดไฟสูง รถคันนั้นก็จอดด้วย เป็นเบนซ์รุ่นใหม่
เพื่อเคาะกระจกให้เปิด คนขับรถนั้นก็เปิดเพื่อนไม่ทันมองถามว่าคุณเปิดไฟสูงใช่ไหม?
คนในรถก็ตอบว่าใช่ พอเพื่อนมองเข้าไปเป็นคุณป้าแก่ๆ แล้วคุณป้าก็บอกต่อว่า
**คุณพอรู้ไหม ที่ทำให้ไฟต่ำมันอยู่ไหน ป้าเอาของลูกมาขับหาที่ทำให้เป็นไฟต่ำไม่เจอ ลูกก็ไปนอกด้วย**
เพื่อนก็มองเข้าไปพยายามจะทำให้เป็นไฟต่ำ มันก็ไม่เป็นซักที เลยบอกคุณป้าให้กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวโดนคนเข้าใจผิด

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราอาจเข้าใจผิดได้ตลอดครับ ผมเคยเปิดไฟสูงโดยไม่รู้ตัวเพราะบังเอิญมือไปปัดโดนก้านปรับไฟสูงต่ำ

บันทึกการเข้า
nitrogen
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #63 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 06:17:45 PM »

เพื่อนเล่าว่า ขับรถอยู่ มีรถคันหลังขับตาม แล้วเปิดไฟสูงส่องตลอด
อดไม่ไหวจึงจอดรถลงไปหารถที่เปิดไฟสูง รถคันนั้นก็จอดด้วย เป็นเบนซ์รุ่นใหม่
เพื่อเคาะกระจกให้เปิด คนขับรถนั้นก็เปิดเพื่อนไม่ทันมองถามว่าคุณเปิดไฟสูงใช่ไหม?
คนในรถก็ตอบว่าใช่ พอเพื่อนมองเข้าไปเป็นคุณป้าแก่ๆ แล้วคุณป้าก็บอกต่อว่า
**คุณพอรู้ไหม ที่ทำให้ไฟต่ำมันอยู่ไหน ป้าเอาของลูกมาขับหาที่ทำให้เป็นไฟต่ำไม่เจอ ลูกก็ไปนอกด้วย**
เพื่อนก็มองเข้าไปพยายามจะทำให้เป็นไฟต่ำ มันก็ไม่เป็นซักที เลยบอกคุณป้าให้กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวโดนคนเข้าใจผิด

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเราอาจเข้าใจผิดได้ตลอดครับ ผมเคยเปิดไฟสูงโดยไม่รู้ตัวเพราะบังเอิญมือไปปัดโดนก้านปรับไฟสูงต่ำ





แบบนี้ก็มี  เฮ้อ!
แสดงว่าป้ายังไม่ถึงคราวเคราะห์ บู่
ถ้าเป็นคู่กรณีของกัปตัน ป้าคงโดนแน่เลย อ๋อย
บันทึกการเข้า
sajja123
Sr. Member
****

คะแนน 40
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 523


« ตอบ #64 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 09:08:35 PM »

เราเรามีโอกาสพลาด-เผลอได้บ้างในบางครั้ง
แต่บนท้องถนน  บางทีกำลังปรี๊ดแต่คนที่เป็นต้นเหตุ
ยกมือโบกไม้โบกมีอขอโทษขอโพย ก็หายทันที
ผมก็ติดนิสัยเหมือนกันกับการยกมือขอโทษ
คิดว่าคนอื่นเห็นก็น่าจะมีอารมณ์อภัยนะครับ...
บันทึกการเข้า
สาละวิน_รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1078



« ตอบ #65 เมื่อ: มกราคม 16, 2011, 11:00:13 PM »

ไม่ลดราวาศอก ใจถึง แน่! พอกันทั้งคู่
 กับตันก็น่าจะพกปืนนะ จะแฟร์กันหน่อย สมน้ำสมเนื้อ
บันทึกการเข้า

3'SF TRAINING COMPANY.
nick357 "รักในหลวง"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 197
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1843


no!!! conflict.let'sit and talk!!!!


« ตอบ #66 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 07:23:51 AM »

ความอดทนต่ำจริงๆ อยากให้จับใด้จริงๆแล้วจะบอกตัวเองได้ว่าไม่น่าเลย.............
บันทึกการเข้า
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« ตอบ #67 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 09:53:56 AM »


เจอแล้วมือยิงกัปตัน ตร.ยึดรถ ฟอร์จูนเนอร์โหด

พ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืน สอบเมียแฉสิ้นนาทียิง ผลัดกันแซง-เปิดไฟสูง ก่อนเป?ดฉากสาดกระสุน




รถมือปืน- ตร.ตรวจสอบรถฟอร์ จูนเนอร์ ป้ายแดง ต้อง สงสัยเป็นรถคนร้ายที่ยิงร.ท.พูลวิทย์ เรือง เดช กัปตันการบิน ไทย ล่าสุดตร.เตรียมออกหมายจับพ่อค้าปลาตู้คนลั่นไกแล้ว

 
ตร.ประเวศเตรียมออกหมายจับมือปืนไล่ยิงกัปตันแล้ว เผยที่แท้เป็นพ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืนกล็อก สืบจนรู้เรียกเมียมือยิงมาสอบ สารภาพวันยิงก็อยู่ในรถด้วย แฉเหตุชักปืนสาดกระสุนเพราะผลัดกันแซงเปิดไฟสูงส่องกัน รองผบก.น.4 แนะรีบเข้ามอบตัวสู้คดี จรัมพรตรวจรถหาปลอกกระสุนหลักฐานชัด

จากกรณี ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไม่ทราบหมวดอักษรและเลขทะเบียน ไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ บนทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟกะพริบใส่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี รองผบก.น.4 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สน. ประเวศ ไปสอบปากคําภรรยาผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว เบื้องต้นให้การว่าสามีเป็นผู้ลงมือยิงรถของร.ท.พูลวิทย์จริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ถูกรถเก๋งคู่กรณีเปิดไฟสูงกะพริบใส่ สามีจึงลดกระจกลงแล้วยิงปืนออกไปทันที โดยไม่ทราบว่าถูกคนในรถเก๋งหรือไม่ จากนั้นรีบหลบหนีไป

รองผบก.น.4 เปิดเผยอีกว่า ภรรยาผู้ต้องสงสัยยังให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูกที่ตลาดตะวันนา ย่านลาดพร้าว โดยไปด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก และเดินทางกลับช่วงประมาณ 2 ทุ่มกว่า สำหรับนิสัยของสามีนั้นปกติเป็นคนใจเย็น ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร

พ.ต.อ.อาณัต กล่าวต่อว่า สําหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้ไม่ได้เป็นทหารหรือตํารวจ แต่เป็นพ่อค้าขายปลาสวยงาม หรือปลาตู้ ซึ่งเป็นธุรกิจของภรรยา ทั้งนี้วันนี้ได้สั่งการทีมสืบสวนจัดกำลังไปเฝ้าตามบ้านญาติและคนรู้จักของผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยเน้นย้ำให้ระมัดระวังเนื่องจากผู้ต้องสงสัยนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุติดตัวไปด้วย คาดว่าอีกไม่เกิน 1-2 วันนี้จะสามารถปิดคดีนี้ลงได้ และวันนี้จะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ด้วย

รองผบก.น.4 กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถคันดังกล่าวส่งกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เก็บรายละเอียดหลักฐานแล้ว ทราบว่าพบหลักฐานหัวกระสุนเพิ่มเติมอีก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นปืนชนิดใด แต่กระสุนที่พบเป็นกระสุนยี่ห้อ พีอาร์มี่ ทั้งนี้ส่วนอีกคดีที่มีลักษณะคล้ายกันคือขับรถปาดหน้า โดยเกิดก่อนคดีนี้ในพื้นที่บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันเดียวกัน วันนี้เจ้าหน้าที่สน. ประเวศจะประสานนําภาพ ถ่ายผู้ต้องสงสัย และรถใช้ก่อเหตุไปให้ทางฝ่ายผู้เสียหายที่บางปะกงดูว่าใช่รายเดียวกันหรือไม่

พ.ต.อ.อาณัตกล่าวด้วยว่า ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ยิงร.ท.พูลวิทย์นั้น ขณะนี้ทราบว่าทางผู้ก่อเหตุพกติดตัวไปด้วยระหว่างหลบหนี ซึ่งจะต้องตามให้พบขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ายิงมาจากปืนชนิดใด ส่วนปลอกกระสุนปืนที่มีการประทับตราภาษาอังกฤษ 'รอยัล ไทย อาร์มี่' นั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกระสุนที่มีในความครอบครองของเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเดียว ประชาชนทั่วไปสามารถมีเก็บไว้ได้หากผู้นั้นเป็นสมาชิกของสนามยิงปืน ทั้งนี้ในส่วนของข้อหาหากจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาได้ คือ พยายามฆ่า

รอง ผบก.น.4 กล่าวยืนยันด้วยว่า เหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต่างกับคดีของโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว ที่พัวพันในเรื่องยาเสพติดด้วย ส่วนคดีนี้จากการตรวจสอบเชิงลึกอย่างละเอียดจึงยืนยันได้ว่าไม่ใช่แน่นอน เนื่องจากทางภรรยาของผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติด อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าวรีบติดต่อเข้ามอบตัวสู้คดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรมโดยว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบช.พฐ.) เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์ จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าคนร้ายน่าจะใช้รถคันดังกล่าวนี้ไปก่อคดียิงร.ท.พูลวิทย์ บนถนนมอเตอร์เวย์จนได้รับบาดเจ็บ ว่า รถยนต์คันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ได้แกะรอยตามที่พยานให้การจนไปพบจอดอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้อายัดไว้แล้วนํามาตรวจหาคราบเขม่าดินปืน และหาหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบแผ่นป้ายทะเบียนเดิมถูกถอดออกแล้วนําป้ายรถคันอื่นมาสวมแทนในลักษณะเร่งรีบ ติดผิดติดถูก คือ นําป้ายที่ต้องติดไว้ด้านหน้าไปใส่ด้านหลังเแทน และป้ายดังกล่าวก็พบตัวแมลงติดอยู่เป็นจํานวนมาก นอกจากป้ายทะเบียนแล้วยังพบกันชนหน้าและไฟท้าย มีการปรับเปลี่ยนใหม่จากของเดิมเพื่อไม่ให้พยานจําได้ ส่วนร.ท.พูลวิทย์จดจำท่อไอเสีย และสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ด้านหลังรถได้อย่างแม่นยำ

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เดินปูพรมหาปลอกกระสุนปืนที่คาดว่าจะยังมีอยู่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ตรวจสอบบริเวณหลักก.ม.ที่ 11 ตามที่พยานให้การ หลังจากใช้เวลาเดินปูพรมไม่นานนักเจ้าหน้าที่ได้พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. เพิ่มเติม 1 ปลอก ซึ่งเป็นปลอกกระสุนแบบเดียวกับที่พบครั้งแรกบริเวณหลักก.ม.9 โดยก้นมีประทับตราภาษาอังกฤษ "รอยัล ไทย อาร์มี่" เหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้ประสานแขวงการทางนํารถดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นตามขอบทางด้านซ้ายมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่หลักก.ม.9-11 ด้วย เพื่อจะนําไปร่อนตะแกรง และใช้เครื่องตรวจหาวัตถุโลหะตรวจสอบว่ามีเศษของหัวกระสุนปืนอยู่อีกหรือไม่ สําหรับปลอกกระสุนปืนที่พบในแต่ละจุดห่างกันไม่มาก ซึ่งจากการตรวจสอบทางนิติวิทยา ศาสตร์พบว่าระยะการยิงนั้นยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนี้ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายนันทพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ได้ยืมมาจากพี่ภรรยา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพค้าขาย โดยภรรยาคือ น.ส.ปิยะจินดา รุจิภานนท์ มีธุรกิจส่งปลาสวยงามหรือปลาตู้

หน้า 1

บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
ภูกามยาว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 128
ออฟไลน์

กระทู้: 6657



« ตอบ #68 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 11:19:26 AM »


เจอแล้วมือยิงกัปตัน ตร.ยึดรถ ฟอร์จูนเนอร์โหด

พ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืน สอบเมียแฉสิ้นนาทียิง ผลัดกันแซง-เปิดไฟสูง ก่อนเป?ดฉากสาดกระสุน




รถมือปืน- ตร.ตรวจสอบรถฟอร์ จูนเนอร์ ป้ายแดง ต้อง สงสัยเป็นรถคนร้ายที่ยิงร.ท.พูลวิทย์ เรือง เดช กัปตันการบิน ไทย ล่าสุดตร.เตรียมออกหมายจับพ่อค้าปลาตู้คนลั่นไกแล้ว

 
ตร.ประเวศเตรียมออกหมายจับมือปืนไล่ยิงกัปตันแล้ว เผยที่แท้เป็นพ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืนกล็อก สืบจนรู้เรียกเมียมือยิงมาสอบ สารภาพวันยิงก็อยู่ในรถด้วย แฉเหตุชักปืนสาดกระสุนเพราะผลัดกันแซงเปิดไฟสูงส่องกัน รองผบก.น.4 แนะรีบเข้ามอบตัวสู้คดี จรัมพรตรวจรถหาปลอกกระสุนหลักฐานชัด

จากกรณี ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไม่ทราบหมวดอักษรและเลขทะเบียน ไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ บนทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟกะพริบใส่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี รองผบก.น.4 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สน. ประเวศ ไปสอบปากคําภรรยาผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว เบื้องต้นให้การว่าสามีเป็นผู้ลงมือยิงรถของร.ท.พูลวิทย์จริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ถูกรถเก๋งคู่กรณีเปิดไฟสูงกะพริบใส่ สามีจึงลดกระจกลงแล้วยิงปืนออกไปทันที โดยไม่ทราบว่าถูกคนในรถเก๋งหรือไม่ จากนั้นรีบหลบหนีไป

รองผบก.น.4 เปิดเผยอีกว่า ภรรยาผู้ต้องสงสัยยังให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูกที่ตลาดตะวันนา ย่านลาดพร้าว โดยไปด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก และเดินทางกลับช่วงประมาณ 2 ทุ่มกว่า สำหรับนิสัยของสามีนั้นปกติเป็นคนใจเย็น ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร

พ.ต.อ.อาณัต กล่าวต่อว่า สําหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้ไม่ได้เป็นทหารหรือตํารวจ แต่เป็นพ่อค้าขายปลาสวยงาม หรือปลาตู้ ซึ่งเป็นธุรกิจของภรรยา ทั้งนี้วันนี้ได้สั่งการทีมสืบสวนจัดกำลังไปเฝ้าตามบ้านญาติและคนรู้จักของผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยเน้นย้ำให้ระมัดระวังเนื่องจากผู้ต้องสงสัยนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุติดตัวไปด้วย คาดว่าอีกไม่เกิน 1-2 วันนี้จะสามารถปิดคดีนี้ลงได้ และวันนี้จะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ด้วย

รองผบก.น.4 กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถคันดังกล่าวส่งกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เก็บรายละเอียดหลักฐานแล้ว ทราบว่าพบหลักฐานหัวกระสุนเพิ่มเติมอีก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นปืนชนิดใด แต่กระสุนที่พบเป็นกระสุนยี่ห้อ พีอาร์มี่ ทั้งนี้ส่วนอีกคดีที่มีลักษณะคล้ายกันคือขับรถปาดหน้า โดยเกิดก่อนคดีนี้ในพื้นที่บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันเดียวกัน วันนี้เจ้าหน้าที่สน. ประเวศจะประสานนําภาพ ถ่ายผู้ต้องสงสัย และรถใช้ก่อเหตุไปให้ทางฝ่ายผู้เสียหายที่บางปะกงดูว่าใช่รายเดียวกันหรือไม่

พ.ต.อ.อาณัตกล่าวด้วยว่า ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ยิงร.ท.พูลวิทย์นั้น ขณะนี้ทราบว่าทางผู้ก่อเหตุพกติดตัวไปด้วยระหว่างหลบหนี ซึ่งจะต้องตามให้พบขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ายิงมาจากปืนชนิดใด ส่วนปลอกกระสุนปืนที่มีการประทับตราภาษาอังกฤษ 'รอยัล ไทย อาร์มี่' นั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกระสุนที่มีในความครอบครองของเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเดียว ประชาชนทั่วไปสามารถมีเก็บไว้ได้หากผู้นั้นเป็นสมาชิกของสนามยิงปืน ทั้งนี้ในส่วนของข้อหาหากจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาได้ คือ พยายามฆ่า

รอง ผบก.น.4 กล่าวยืนยันด้วยว่า เหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต่างกับคดีของโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว ที่พัวพันในเรื่องยาเสพติดด้วย ส่วนคดีนี้จากการตรวจสอบเชิงลึกอย่างละเอียดจึงยืนยันได้ว่าไม่ใช่แน่นอน เนื่องจากทางภรรยาของผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติด อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าวรีบติดต่อเข้ามอบตัวสู้คดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรมโดยว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบช.พฐ.) เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์ จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าคนร้ายน่าจะใช้รถคันดังกล่าวนี้ไปก่อคดียิงร.ท.พูลวิทย์ บนถนนมอเตอร์เวย์จนได้รับบาดเจ็บ ว่า รถยนต์คันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ได้แกะรอยตามที่พยานให้การจนไปพบจอดอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้อายัดไว้แล้วนํามาตรวจหาคราบเขม่าดินปืน และหาหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบแผ่นป้ายทะเบียนเดิมถูกถอดออกแล้วนําป้ายรถคันอื่นมาสวมแทนในลักษณะเร่งรีบ ติดผิดติดถูก คือ นําป้ายที่ต้องติดไว้ด้านหน้าไปใส่ด้านหลังเแทน และป้ายดังกล่าวก็พบตัวแมลงติดอยู่เป็นจํานวนมาก นอกจากป้ายทะเบียนแล้วยังพบกันชนหน้าและไฟท้าย มีการปรับเปลี่ยนใหม่จากของเดิมเพื่อไม่ให้พยานจําได้ ส่วนร.ท.พูลวิทย์จดจำท่อไอเสีย และสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ด้านหลังรถได้อย่างแม่นยำ

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เดินปูพรมหาปลอกกระสุนปืนที่คาดว่าจะยังมีอยู่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ตรวจสอบบริเวณหลักก.ม.ที่ 11 ตามที่พยานให้การ หลังจากใช้เวลาเดินปูพรมไม่นานนักเจ้าหน้าที่ได้พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. เพิ่มเติม 1 ปลอก ซึ่งเป็นปลอกกระสุนแบบเดียวกับที่พบครั้งแรกบริเวณหลักก.ม.9 โดยก้นมีประทับตราภาษาอังกฤษ "รอยัล ไทย อาร์มี่" เหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้ประสานแขวงการทางนํารถดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นตามขอบทางด้านซ้ายมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่หลักก.ม.9-11 ด้วย เพื่อจะนําไปร่อนตะแกรง และใช้เครื่องตรวจหาวัตถุโลหะตรวจสอบว่ามีเศษของหัวกระสุนปืนอยู่อีกหรือไม่ สําหรับปลอกกระสุนปืนที่พบในแต่ละจุดห่างกันไม่มาก ซึ่งจากการตรวจสอบทางนิติวิทยา ศาสตร์พบว่าระยะการยิงนั้นยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนี้ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายนันทพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ได้ยืมมาจากพี่ภรรยา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพค้าขาย โดยภรรยาคือ น.ส.ปิยะจินดา รุจิภานนท์ มีธุรกิจส่งปลาสวยงามหรือปลาตู้

หน้า 1



เจอแล้วมือยิงกัปตัน ตร.ยึดรถ ฟอร์จูนเนอร์โหด

พ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืน สอบเมียแฉสิ้นนาทียิง ผลัดกันแซง-เปิดไฟสูง ก่อนเป?ดฉากสาดกระสุน




รถมือปืน- ตร.ตรวจสอบรถฟอร์ จูนเนอร์ ป้ายแดง ต้อง สงสัยเป็นรถคนร้ายที่ยิงร.ท.พูลวิทย์ เรือง เดช กัปตันการบิน ไทย ล่าสุดตร.เตรียมออกหมายจับพ่อค้าปลาตู้คนลั่นไกแล้ว

 
ตร.ประเวศเตรียมออกหมายจับมือปืนไล่ยิงกัปตันแล้ว เผยที่แท้เป็นพ่อค้าปลาตู้ชอบเล่นปืนกล็อก สืบจนรู้เรียกเมียมือยิงมาสอบ สารภาพวันยิงก็อยู่ในรถด้วย แฉเหตุชักปืนสาดกระสุนเพราะผลัดกันแซงเปิดไฟสูงส่องกัน รองผบก.น.4 แนะรีบเข้ามอบตัวสู้คดี จรัมพรตรวจรถหาปลอกกระสุนหลักฐานชัด

จากกรณี ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไม่ทราบหมวดอักษรและเลขทะเบียน ไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ บนทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟกะพริบใส่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี รองผบก.น.4 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวน สน. ประเวศ ไปสอบปากคําภรรยาผู้ต้องสงสัยรายนี้แล้ว เบื้องต้นให้การว่าสามีเป็นผู้ลงมือยิงรถของร.ท.พูลวิทย์จริง เนื่องจากบันดาลโทสะที่ถูกรถเก๋งคู่กรณีเปิดไฟสูงกะพริบใส่ สามีจึงลดกระจกลงแล้วยิงปืนออกไปทันที โดยไม่ทราบว่าถูกคนในรถเก๋งหรือไม่ จากนั้นรีบหลบหนีไป

รองผบก.น.4 เปิดเผยอีกว่า ภรรยาผู้ต้องสงสัยยังให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปซื้อเสื้อผ้าให้ลูกที่ตลาดตะวันนา ย่านลาดพร้าว โดยไปด้วยกัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก และเดินทางกลับช่วงประมาณ 2 ทุ่มกว่า สำหรับนิสัยของสามีนั้นปกติเป็นคนใจเย็น ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร

พ.ต.อ.อาณัต กล่าวต่อว่า สําหรับผู้ต้องสงสัยรายนี้ไม่ได้เป็นทหารหรือตํารวจ แต่เป็นพ่อค้าขายปลาสวยงาม หรือปลาตู้ ซึ่งเป็นธุรกิจของภรรยา ทั้งนี้วันนี้ได้สั่งการทีมสืบสวนจัดกำลังไปเฝ้าตามบ้านญาติและคนรู้จักของผู้ต้องสงสัยแล้ว โดยเน้นย้ำให้ระมัดระวังเนื่องจากผู้ต้องสงสัยนำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุติดตัวไปด้วย คาดว่าอีกไม่เกิน 1-2 วันนี้จะสามารถปิดคดีนี้ลงได้ และวันนี้จะให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ด้วย

รองผบก.น.4 กล่าวด้วยว่า ในส่วนของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนั้น วันนี้เจ้าหน้าที่ได้ยึดรถคันดังกล่าวส่งกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เก็บรายละเอียดหลักฐานแล้ว ทราบว่าพบหลักฐานหัวกระสุนเพิ่มเติมอีก ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นปืนชนิดใด แต่กระสุนที่พบเป็นกระสุนยี่ห้อ พีอาร์มี่ ทั้งนี้ส่วนอีกคดีที่มีลักษณะคล้ายกันคือขับรถปาดหน้า โดยเกิดก่อนคดีนี้ในพื้นที่บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เวลาประมาณ 18.00 น. ของวันเดียวกัน วันนี้เจ้าหน้าที่สน. ประเวศจะประสานนําภาพ ถ่ายผู้ต้องสงสัย และรถใช้ก่อเหตุไปให้ทางฝ่ายผู้เสียหายที่บางปะกงดูว่าใช่รายเดียวกันหรือไม่

พ.ต.อ.อาณัตกล่าวด้วยว่า ในส่วนของอาวุธปืนที่ใช้ยิงร.ท.พูลวิทย์นั้น ขณะนี้ทราบว่าทางผู้ก่อเหตุพกติดตัวไปด้วยระหว่างหลบหนี ซึ่งจะต้องตามให้พบขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่ายิงมาจากปืนชนิดใด ส่วนปลอกกระสุนปืนที่มีการประทับตราภาษาอังกฤษ 'รอยัล ไทย อาร์มี่' นั้นไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกระสุนที่มีในความครอบครองของเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างเดียว ประชาชนทั่วไปสามารถมีเก็บไว้ได้หากผู้นั้นเป็นสมาชิกของสนามยิงปืน ทั้งนี้ในส่วนของข้อหาหากจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาได้ คือ พยายามฆ่า

รอง ผบก.น.4 กล่าวยืนยันด้วยว่า เหตุ การณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต่างกับคดีของโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว ที่พัวพันในเรื่องยาเสพติดด้วย ส่วนคดีนี้จากการตรวจสอบเชิงลึกอย่างละเอียดจึงยืนยันได้ว่าไม่ใช่แน่นอน เนื่องจากทางภรรยาของผู้ก่อเหตุค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติด อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ก่อเหตุดังกล่าวรีบติดต่อเข้ามอบตัวสู้คดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้ความเป็นธรรมโดยว่ากันไปตามพยานหลักฐาน

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบช.พฐ.) เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์ จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าคนร้ายน่าจะใช้รถคันดังกล่าวนี้ไปก่อคดียิงร.ท.พูลวิทย์ บนถนนมอเตอร์เวย์จนได้รับบาดเจ็บ ว่า รถยนต์คันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ได้แกะรอยตามที่พยานให้การจนไปพบจอดอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงได้อายัดไว้แล้วนํามาตรวจหาคราบเขม่าดินปืน และหาหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้จากการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบแผ่นป้ายทะเบียนเดิมถูกถอดออกแล้วนําป้ายรถคันอื่นมาสวมแทนในลักษณะเร่งรีบ ติดผิดติดถูก คือ นําป้ายที่ต้องติดไว้ด้านหน้าไปใส่ด้านหลังเแทน และป้ายดังกล่าวก็พบตัวแมลงติดอยู่เป็นจํานวนมาก นอกจากป้ายทะเบียนแล้วยังพบกันชนหน้าและไฟท้าย มีการปรับเปลี่ยนใหม่จากของเดิมเพื่อไม่ให้พยานจําได้ ส่วนร.ท.พูลวิทย์จดจำท่อไอเสีย และสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ด้านหลังรถได้อย่างแม่นยำ

พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวต่อว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เดินปูพรมหาปลอกกระสุนปืนที่คาดว่าจะยังมีอยู่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ได้ตรวจสอบบริเวณหลักก.ม.ที่ 11 ตามที่พยานให้การ หลังจากใช้เวลาเดินปูพรมไม่นานนักเจ้าหน้าที่ได้พบปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 ม.ม. เพิ่มเติม 1 ปลอก ซึ่งเป็นปลอกกระสุนแบบเดียวกับที่พบครั้งแรกบริเวณหลักก.ม.9 โดยก้นมีประทับตราภาษาอังกฤษ "รอยัล ไทย อาร์มี่" เหมือนกัน นอกจากนี้ยังได้ประสานแขวงการทางนํารถดูดฝุ่นมาดูดฝุ่นตามขอบทางด้านซ้ายมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่หลักก.ม.9-11 ด้วย เพื่อจะนําไปร่อนตะแกรง และใช้เครื่องตรวจหาวัตถุโลหะตรวจสอบว่ามีเศษของหัวกระสุนปืนอยู่อีกหรือไม่ สําหรับปลอกกระสุนปืนที่พบในแต่ละจุดห่างกันไม่มาก ซึ่งจากการตรวจสอบทางนิติวิทยา ศาสตร์พบว่าระยะการยิงนั้นยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง คันที่ใช้ก่อเหตุนี้ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายนันทพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ได้ยืมมาจากพี่ภรรยา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีอาชีพค้าขาย โดยภรรยาคือ น.ส.ปิยะจินดา รุจิภานนท์ มีธุรกิจส่งปลาสวยงามหรือปลาตู้

หน้า 1


ตำรวจพบแล้วปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ที่คนร้ายส่องยิงใส่รถกัปตันการบินไทยได้รับบาดเจ็บ สาเหตุเพียงเพราะเปิดไฟหน้ารถกะพริบใส่

เจ้า หน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ และตำรวจทางหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ-ชลบุรี ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจหาปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่คนร้ายขับรถฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน และใช้อาวุธปืนยิงใส่รถบีเอ็มดับเบิลยู ของเรืออากาศโทพูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวไหล่ เหตุเกิดคืนวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จากการเดินเท้าตรวจสอบอย่างละเอียด จึงพบปลอกกระสุนตกอยู่ริมถนน จึงเก็บมาตรวจสอบและเปรียบเทียบกับหัวกระสุนที่ฝังอยู่ในหัวไหล่ของคนเจ็บ

ส่วน การติดตามคนร้าย ขณะนี้ทีมสืบสวนได้ประสานบริษัทโตโยต้า แห่งประเทศไทย เพื่อหาข้อมูลการซื้อขายรถฟอร์จูนเนอร์ ของแต่ละศูนย์ รวมทั้งเต็นท์ขายรถต่าง ๆ เพื่อหาเบาะแสผู้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อดังกล่าว นับถอยหลังไป 6 เดือน

สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. พนักงานสอบสวน สน.ประเวศ เตรียมยื่นคำร้องขอศาลอาญาออกหมายจับคนร้ายก่อเหตุยิงกัปตันสายการบินไทยบน มอเตอร์เวย์

พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิด เผยว่า ไม่เกินเที่ยงวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวนจะขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายที่ขับ รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ไล่ยิงเรือโทพูลวิทย์ เรืองเดช กัปตันสายการบินไทย บนถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ - ชลบุรี ก่อนถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพียง 4 กิโลเมตร เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา หลังจากตำรวจได้เรียกหญิงสาวไม่ทราบชื่อเจ้าของรถต้องสงสัยมาสอบปากคำ จนทราบว่าในวันเกิดเหตุน้องสาวและน้องเขยยืมรถไปใช้ ตำรวจจึงติดต่อไปยังน้องสาวเจ้าของรถมาสอบปากคำอีกคน

ล่าสุดรู้ตัวคน ร้ายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี บอกได้แต่เพียงว่าอายุ 26 ปี เป็นชาว อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร รวมทั้งไม่ใช่คนมีสีอย่างแน่นอน ซึ่งจากการสอบปากคำ น.ส.ปิยะจินดา (ขอสงวนนามสกุล) ภรรยาของคนร้ายได้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้นั่งรถไปกับสามีและลูกชายวัย 1 ขวบ แต่ก็นั่งหลับไปตลอดทางไม่เห็นเหตุการณ์ที่ชัดเจน ได้แต่บอกว่าทาง ร.ท.พูลวิทย์ เป็นคนเปิดไฟใส่รถก่อน ซึ่งตรงนั้นก็เป็นคำให้การของแต่ละฝ่าย
   
พ.ต.อ. อาณัติ กล่าวอีกว่า ภรรยาของคนร้าย ยังได้ให้การอีกว่า สามีเป็นคนขี้โมโหและหงุดหงิดง่าย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องการบันดาลโทสะเท่านั้นไม่มีสาเหตุอื่น ขณะนี้ตนได้ประสานไปยังทนายความของคนร้ายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนก็กำลังลงพื้นที่ เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว
   
ผู้ สื่อข่าวถามว่าจะคล้ายกับคดีโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว และพัวพันกับยาเสพติดด้วยหรือไม่ เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า ไม่ใช่แน่นอน เพราะทางภรรยาของคนร้าย ค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และเบื้องต้นยังไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งหากคนร้ายเข้ามอบตัว โอกาสที่จะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลก็มีสูง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรม ว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่การกระทำดังกล่าว ถือว่าอุกอาจพอสมควร สาเหตุเล็กน้อยไม่น่าจะถึงกับต้องยิงกัน
   
ล่าสุดมีรายงานข่าวจาก ชุดสืบสวนแจ้งว่า สำหรับคนร้ายรายนี้คือ นายณัฐพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดเพชรบุรี โดยนามสกุลของนายนันทพงษ์ ยังไปพ้องกับคนดังอีกหลายคน แต่แหล่งข่าวแจ้งว่าอาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เลยก็ได้


ตกลงเป็นคนขี้โมโห หรือใจเย็นเนี่ย  คิก คิก คิก คิก
จากแหล่งข่าว http://news.sanook.com/995193-%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html
บันทึกการเข้า
Marcuechio
Full Member
***

คะแนน 23
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 419



« ตอบ #69 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 01:24:23 PM »

อนาคต คงมีการ ตรวจ เข้มอาวุธ อย่างหนักเลยหละครับ เนี่ย
บันทึกการเข้า
สาละวิน_รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 51
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1078



« ตอบ #70 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 03:08:33 PM »

ยี่ห้อปลอกกระสุนทำไมชอบลามมาทางนี้จัง
บันทึกการเข้า

3'SF TRAINING COMPANY.
กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #71 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 03:52:13 PM »

ก็แค่พวกอีโก้จัดมาเจอกัน ... ไม่เห็นน่าสนใจเลย

เรื่องธรรมดามาก สำหรับประเทศไทยในยุคสมัยนี้

... เด็กช่างกล ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยมีเรื่องกัน ... แค่สัญญลักษณ์ต่างกัน

................... ยังไล่ฆ่ากันได้อย่างกับแค้นกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ !

... เด็กผู้หญิง แค่แย่งผู้ชายกัน

...................ยังรุมตบกันเอาเป็นเอาตายอย่างกับโลกนี้เหลือผู้ชายแค่คนเดียว !

....... เรื่องห่วยแตกแบบนี้  มีให้เห็นได้ทุกวันล่ะครับ ในประเทศนี้  ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #72 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:07:06 PM »

 
 

 
 
 
 
  ตำรวจเผยเจ้าของรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวที่ไล่ยิงกัปตันบินไทย ทำธุรกิจบ่อกุ้ง และขายปลาสวยงามอยู่แปดริ้ว หลังข่าวปรากฏบนสื่อ ผู้ต้องหารีบชิ่งหนีไปก่อน เผยมีชื่อเข้าไปพัวพันในคดียาเสพติดในพื้นที่ชลบุรีถึง 5 คดี
       
       วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สน.ประเวศ พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 ได้เดินทางมาที่สน.ประเวศ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไล่ยิง ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย โดยมี พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.นิพนธ์ ทองแสงบุญมา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ ร่วมหารือประมาณ 30 นาที
       
       ภายหลังเสร็จสิ้น พล.ต.ต.สุธีร์เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้การมีการออกหมายจับไปแล้ว โดยผู้ต้องหารายนี้ คือ นายพริสร หรือณัฐพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากประชาชนที่สัญจรไปมาและเห็นเหตุการณ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญภรรยาของผู้ต้องหามาทำการสอบปากคำ โดยภรรยาได้ให้การว่าสามีทำธุรกิจบ่อกุ้งและขายปลาสวยงามอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวโมโหง่าย แต่ทั้งนี้ขณะที่เกิดเหตุภรรยาของผู้ต้องหาให้การว่าหลับอยู่ในรถ เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นไปแล้ว โดยหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหาและภรรยาก็ไปทำธุระก่อนจะกลับเข้าบ้านพัก กระทั่งรุ่งเช้ามารู้ข่าวทางทีวี ทางผู้ต้องหาจึงบอกกับภรรยาว่าอยู่ไม่ได้แล้ว และรีบร้อนออกจากบ้านไปทันที
       
       พล.ต.ต.สุธีร์กล่าวอีกว่า สำหรับอาวุธปืนภรรยาให้การว่าน่าจะเป็นปืนออโตเมติก สีขาว แต่ไม่ทราบยี่ห้อ ซึ่งผู้ต้องหาจะพกติดตัวตลอดเวลา เพื่อป้องกันตัวในเรื่องของธุรกิจบ่อกุ้ง นอกจากนี้ เมื่อทำการตรวจสอบทะเบียนประวัติอาชญากรยังพบว่า ผู้ต้องหารายนี้พัวพันคดียาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชลบุรีถึง 5 คดี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว
       
     

 
 
 
 
 
 
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
Pol.Sgt.Thongphet
Full Member
***

คะแนน 25
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 329


"ปั้น X ไม่เก่ง เน้นความไว"


« ตอบ #73 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:15:40 PM »

ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดครับ

มีปืนแล้วกร่าง + +
บันทึกการเข้า

กรรมกร
+แล้วนะคับ ... อย่าลืมทอนด้วยนะคับ 555
Hero Member
*****

คะแนน -964
ออฟไลน์

กระทู้: 1293



« ตอบ #74 เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 04:49:36 PM »

มีด้วยเหรอ กระสุนตีตรา " รอยัล ไทย อาร์มี่ "

... ไม่เคยเห็นครับ  Huh

แล้วนี่ลามไปถึงคดียาเสพติดที่ชลบุรีแล้ว

จะโดน "วิสามัญ" เหมือนโจ๊ก ไผ่เขียวป่าวเนี่ย ... พฤติกรรมคล้ายกันเลย  ตกใจหน้าซีด
บันทึกการเข้า

ไร้คำกล่าว............................................
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.131 วินาที กับ 21 คำสั่ง