ผมชอบฟิลลิ่งการเข้าโค้งของรถขับหน้ามากกว่าขับหลังครับ เพราะการโยนตัวหนีศูนย์กลางโค้งของน้ำหนักรถ จะถูกควบคุมโดยแรงบิด(ดึง)จากล้อหน้า ลากมวลน้ำหนักนั้นเข้าสู่แทร็ก ต่างจากรถขับหลังที่แรงดันจากล้อหลังจะผลักมวลของรถให้ตรงไป(ออกนอกโค้ง) โดยมีล้อหน้าคอยขืนแรงดันนั้นไว้ให้เข้าโค้ง .. ฟิลลิ่งของรถขณะเร่งเข้าโค้งหรือเร่งในโค้งจึงต่างกันแบบรู้สึกได้
แต่ถ้าเผลอตัวเร่งเข้าโค้งหนักๆแบบพวกดริฟ สิ่งที่ได้คือหน้าแหกโค้งไปดื้อๆเลย วิธีแก้ก็แบบที่นายอั้มหรือพี่สมชายบอก คือถอนคันเร่ง ปรับพวงมาลัยให้เข้าทิศทาง แล้วล้อหน้าจะกลับมาจับถนนตามเดิม ทุกอย่างง่ายมาก ขอแค่รู้ตัวให้ทันเวลาก็แล้วกัน
ถ้าเป็นรถขับหลัง เร่งเข้าโค้งหนักๆ ล้อหลังจะเสียการยึดเกาะ เกิดอาการท้ายปัด ทางแก้ก็เช่นกัน ถอนคันเร่ง ปรับพวงมาลัยให้เข้าทิศทาง รอจนล้อหลังกลับมาจับพื้นถนน ซึ่งอาจต้องรอลุ้นหน่อยเพราะแรงเหวี่ยงด้านท้ายมันมีโมเมนตัม .. แต่ถ้าเซียนแล้วอาจไม่ต้องถอนคันเร่งจนหมด ใช้น้ำหนักคันเร่งสั่งให้ท้ายปัดมากขึ้นหรือน้อยลง แล้วคอยคุมพวงมาลัยให้ได้ทิศทาง แบบดริฟโชว์ไปเลย .. (ใครจะทำก็ตามสบายครับ ไม่ต้องมาชวนผม ผมเริ่มแก่แล้ว เดี๋ยวเป็นลม)
ทั้งสองกรณี ห้ามกระทืบเบรคครับ .. เดี๋ยวจะสนุกเกินไป

อ่านโพสนี้ของพี่เบิร์ดแล้วนึกขึ้นได้
ถ้าพี่เบิร์ดลองขับรถขับหน้าที่แรงๆ อาจจะไม่ชอบขึ้นมาก็ได้ครับ
รถขับเคลื่อนล้อหน้าแรงๆ จะขับให้ดีขับให้เนียนต้องใช้ความพยายามพอสมควร
เริ่มตั้งแต่ออกตัวยางจะฟรีทิ้งมากเพราะน้ำหนักจะถ่ายไปที่ล้อหลังทำให้หน้าเบา ยิ่งแรงเท่าไหร่ยิ่งถ่ายไปหลังเยอะยิ่งฟรีเยอะ
เวลาเบรคท้ายจะเบาต้องรักษาอาการดีๆ เวลาเข้าโค้งน้ำหนักด้านหน้าจะเหวี่ยงออกข้าง หน้าจะดื้อโค้งมากต้องหักพวงมาลัยเพิ่มและเร่งส่งเยอะ
อายุระบบขับเคลื่อนจะสั้นลงแบบน่าใจหาย รถขับหน้าใช้งานทั่วไปขับง่ายก็จริง แต่ถ้าแรงเมื่อไหร่ความเซ็งจะมาเยือนครับ