๒. ปัญหาจากสหภาพยุโรป
๑) เงินยูโรดอลลาร์ได้ถูกตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการโดยกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเมื่อปี ๒๕๓๓ (๑๙๙๐)
ตามตารางของการปล่อยเงินยูโรดอลลาร์ออกสู่ตลาดการเงินของโลกแล้ว เงินยูโรดอลลาร์จะมีการทดลองใช้
ครั้งแรกในยูโรโซนปี ๒๕๔๒ (๑๙๙๙) และในปี ๒๕๔๔-๒๕๔๕ (๒๐๐๑ ๒๐๐๒) จะมีการทดลองปล่อยเงิน
ออกสู่ตลาดการเงินของโลก และห้วงสุดท้ายคือในปี ๒๕๔๖- ๒๕๔๙ ( ๒๐๐๓ ๒๐๐๖) จะเป็นการปรับค่าเงิน
ยูโรครั้งสุดท้ายแล้วปล่อยออกสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการ
๒) เงินยูโรดอลลาร์เป็นเงินจริงที่มีค่าจริงและมีทองคำสำรองและมีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของกลุ่มสหภาพยุโรป
เป็นฐานรองรับค่าเงิน ในขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินปลอมที่มีการพิมพ์ด้วยกระดาษเปล่าโดยที่ไม่มี
ทองคำสำรองและไม่มีค่าทางเศรษฐกิจใด ๆ รองรับค่าเงินซึ่งสหรัฐฯ ผลิตเงินออกสู่ตลาดโลกได้ตามความพอใจ
ซึ่งผู้ผลิตเงินนี้มาโดยตลอดคือ Federal Reserve Bank ( FED) ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจใหญ่ประกอบด้วย ๘ ตระกูล
ที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่ครอบครองเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ในขณะนี้
๓) สหรัฐอเมริกาจะต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่อันเกิดจากอิทธิพลของเงินยูโรดอลลาร์ การที่ความเป็นมา
ของเงินทั้งสองตระกูลคือเงินยูโรดอลลาร์และเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าต้องต่อสู้กันในตลาดการเงินของโลกแล้ว
ผู้ที่เสียเปรียบคือเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเงินยูโรดอลลาร์ขยายตัวออกสู่ตลาดโลก
อย่างเสรีไม่มีขีดจำกัด นั่นแสดงถึงการเป็นตัวแทนในการแสดงแสนยานุภาพทางด้านเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ
สหภาพยุโรปซึ่งเข้มแข็งมากอย่างที่เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินที่แพร่กระจาย
ไปทั่วโลกอยู่แล้วซึ่งเป็นเงินที่ครอบครองตลาดการเงินของโลกอยู่เดิม แต่เป็นเงินทีไม่ได้มีค่าเงินจริงเป็นเพียงแค่
เงินปลอมที่ผลิตขึ้นมาด้วยกระดาษและตัวเลขโดยใช้อิทธิพลของการเป็นมหาอำนาจสหรัฐฯ เป็นฐานรองรับ
และเรื่องค่าของเงินเป็นเรื่องของความเชื่อถือเท่านั้น ถ้าเมื่อใดก็ตามประชาคมโลกได้รับรู้ข้อมูลความจริงเหล่านั้น
และมีทางเลือกอย่างเงินยูโรดอลลาร์ที่เป็นเงินที่มีค่าจริง ตลาดการเงินของโลกย่อมที่จะต้องยอมรับเงินยูโรดอลลาร์
มากกว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็จะไหลกลับถิ่นฐานเดิมของตนคือ
ประเทศสหรัฐฯ ปรากฏการณ์ที่เรียกว่าเศรษฐกิจฟองสบู่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยุคนี้ตามหลักของวิชาเศรษฐศาสตร์
ก็จะเกิดขึ้น เมื่อฟองสบู่แตกนั่นคืออวสานของจักรวรรดิสหรัฐแห่งอเมริกาที่มีอายุยืนยาวมาแล้วมากกว่า ๒๐๐ ปี
นี่คือความกลัวของสหรัฐอเมริกา
๓. ปัญหาอันเกิดจากจีน
๑) จีนประสบความสำเร็จอย่างสูงยิ่งต่อการที่จะได้รับเข้าเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลก ( WTO )
ตั้งแต่ปี ๒๕๔๔ (๒๐๐๑) เป็นต้นไป หลังจากที่ประเทศจีนได้มีนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศที่รู้จักกันในนาม
Reform and opening up policy เศรษฐกิจของจีนก็เติบโตด้วยอัตราที่สูงที่สุดในโลกมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่จีนได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์กรการค้าโลกด้วยแล้วยิ่งจะทำให้จีน
เป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกในระยะเวลาอันสั้น ด้วยเหตุนี้ ความเป็นมหาอำนาจของจีน
ที่เริ่มเห็นแววมาตั้งแต่ต้นจะเข้ามาแทนที่ความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐอเมริกาอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นจีนจึง
ได้รับการประเมินว่าเป็นภัยคุกคามอันดับหนึ่งในทุก ๆ ด้านของสหรัฐอเมริกา
๒) อิทธิพลของจีนจะเข้ามาแทนที่อิทธิพลของสหรัฐฯ ในทุกภูมิภาคของโลก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากที่จีนได้ใช้
นโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศและตามมาด้วย นโยบาย ๕ ข้อแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งโดยเนื้อหาแล้ว
เป็นการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจของประชาคมโลกที่มีต่อจีน และเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของชาวโลกแล้วว่า
หลังจากทั้งสองนโยบายดังกล่าวได้ออกมาสู่สายตาของชาวโลกทำให้ชาวโลกไม่ได้เห็นภัยที่เกิดขึ้นจากจีน
ตรงกันข้ามกับสหรัฐอเมริกาที่มีนโยบายทั้งทางลับและเปิดเผยที่ไม่ได้ตรงกับที่ตนประกาศไว้แต่มุ่งเน้น
ผลประโยชน์ของชาติตนเป็นหลักจนทั่วโลกกล่าวขานกันเป็นเสียงเดียวกันตามที่จีนกล่าวคือ สหรัฐฯ ยึดถือ
นโยบายการแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ( Hegemony ) คือเที่ยวข่มเหงรังแกประเทศเล็กประเทศน้อยเพื่อแสวงหา
ประโยชน์แห่งตนตามอำเภอใจ หน้าฉากคือพันธมิตรหลังฉากคือศัตรูที่คอยหักหลังพันธมิตรอยู่ตลอดเวลา
การที่จีนได้รับความเชื่อถือมากขึ้นดังที่เห็นได้จากที่มีการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศทุกภูมิภาคในโลกของจีน
และสัมพันธภาพระหว่างประเทศเหล่านั้นก็ดำเนินไปด้วยดีอย่างเท่าเทียม ประเทศต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มคล้อยตาม
ในการที่จะเป็นพันธมิตรที่แนบแน่นกับจีนประกอบด้วย ประเทศในกลุ่มอาเซียน ประเทศในกลุ่มเอเชีย- แปซิฟิก
ประเทศตะวันออกกลาง ประเทศในทวีปอัฟริกา ประเทศรัสเซีย ประเทศในกลุ่มสมาชิกสหภาพยุโรป แม้กระทั่ง
ประเทศญี่ปุ่นที่เคยเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับจีนมานานก็ยังมีแนวโน้มที่จะมาญาติดีกับจีนมากขึ้นกว่าเดิม นี่คืออิทธิพล
ที่จีนค่อยขยายออกไปแทนที่สหรัฐฯ ในทุกภูมิภาคของโลกอย่างแท้จริง
๓) จีนจะเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวในอีก ๑๐ ๒๐ ปีข้างหน้า จากการที่ IMF, WTO ,WB และนักวิเคราะห์
สถานการณ์โลกได้ลงมติเป็นไปในแนวทางเดียวกันคือจีนจะเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวของโลกในอีก ๑๐ - ๒๐ ปี
ข้างหน้าแทนที่สหรัฐอเมริกา จากหนังสือเรื่อง Power Transition ของ Kugler ได้คาดการณ์ถึงการที่จะมีการ
เคลื่อนย้ายทางอำนาจของมหาอำนาจจากสหรัฐฯ ในปัจจุบันไปเป็นจีนและประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน
จะมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าสหรัฐอเมริกาในปี ๒๐๒๕ และในปี ๒๐๕๐ ขนาดเศรษฐกิจของจีนจะใหญ่เท่ากับ
สหรัฐอเมริการวมกันกับกลุ่มประเทศยูโร ซึ่งแนวโน้มเหล่านี้มีความเป็นไปได้สูงมาก นอกจากนั้นแล้วหลังจากที่
ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู. บุช ได้เข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ ได้มอบหมายให้เพนตากอนทำการวิจัยถึงประเทศที่
จะมีอำนาจท้ายสหรัฐฯ ใน ๑๐ ๑๕ ปีข้างหน้า ผลออกมาชัดเจนว่าเป็นจีนซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง อันดับที่ ๒ คือ อินเดีย
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นแล้ว สหรัฐฯ จึงได้กำหนดแผนงานขนาดใหญ่ขึ้นมาเพื่อที่จะแก้ปัญหาทั้งปวง
ดังที่กล่าวมาแล้วอย่างเบ็ดเสร็จ และได้กำหนดกลุ่มงานขึ้นมา ๒ กลุ่มงานคือ
๑) การทำลายความแข็งแกร่งของค่าเงินยูโรดอลลาร์
๒) การปิดล้อม แบ่งแยกแล้วย่อยสลายจีน
ผลที่สหรัฐอเมริกาได้รับหลังจากสร้างสถานการณ์กรณี ๑๑ กันยายน ๒๕๔๔ แล้วมีดังนี้
๑) สามารถที่จะนำประเทศของตนให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ทั้งหลายที่ประดังเข้ามาก่อนที่จะสร้าง
เหตุการณ์ ๑๑ กันยายน และหลังจากที่ เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างขึ้นแล้ว จากหลักฐานดังที่แสดงไว้แล้วในตอนต้น
วิกฤตการณ์ของสหรัฐอเมริกาประกอบไปด้วยวิกฤตทางเศรษฐกิจ วิกฤตทางการเมืองที่มีทั้งการเมืองภายในและการเมือง
ในระดับนานาชาติ วิกฤตทางด้านความมั่นคงปลอดภัยแต่วิกฤตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวิกฤตทั้งหลายคือวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจ
๒) สามารถที่จะลดความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสองเสือเศรษฐกิจของโลกที่เป็นคู่แข่งอันฉกาจฉกรรจ์ของสหรัฐฯ คือ
จีนกับสหภาพยุโรป จีนจะแสดงบทบาทที่โดดเด่นในสังคมของประชาคมโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและความเป็นมหาอำนาจ
หนึ่งเดียวของสหรัฐฯ จะถูกแทนที่ด้วยอิทธิพลของจีนในทุก ๆ ปัจจัยตามที่นักวิเคราะห์สถานการณ์โลกได้รายงานไว้
เงินยูโรดอลลาร์ได้ถูกประเมินว่าเป็นภัยคุกคามหลักต่อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในตลาดการเงินโลก ตามที่ทราบกันดีว่า
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเงินที่ไม่ได้สร้างด้วยการรองรับของเศรษฐกิจจริงหรือทรัพย์สินจริงดังที่หลักสากลยอมรับกัน
ดังนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จึงเป็นเงินปลอมตามความเป็นจริง ในทางตรงกันข้าม เงินยูโรดอลลาร์จะมีค่าที่แข็งขึ้น
เนื่องจากมีทองคำสำรองและมีเศรษฐกิจจริงที่มีความแข็งแกร่งของกลุ่มสหภาพยุโรปรองรับค่าเงิน ฉะนั้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
จึงจะค่อย ๆ ถูกผลักให้ไหลกลับไปยังแหล่งกำเนิดของตนโดยอิทธิพลของเงินยูโรดอลลาร์และฟองสบู่ขนาดมหึมาจะเกิดขึ้น
กับระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและจุดจบของจักรวรรดิสหรัฐแห่งอเมริกาก็จะปรากฏขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
๓) ประสบความสำเร็จในการควบคุมระดับความสัมพันธ์ของสองประเทศมหาอำนาจชั้นรองคือความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย
๔) สามารถที่จะดำรงสภาพความมั่งคั่งของสหรัฐอเมริกาไปได้อีกยาวนาน จากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ
ประสบความสำเร็จในการครอบครองเศรษฐกิจโลกโดยการใช้สงครามเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือ หลังจากได้สร้าง ๒ เหตุการณ์
ขึ้นแล้วทำให้สหรัฐฯ สามารถเข้าครอบครองแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทั้งสิ้นจากประเทศมุสลิมได้อย่างมั่นคงรวมทั้ง
กลุ่มประเทศต่าง ๆ ในทวีปอัฟริกา ที่สำคัญคือการเข้าครอบครองแหล่งแรงงานขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างจีน
เพื่อที่จะนำไปกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
๕) สหรัฐฯ สามารถที่จะดำรงความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกับกลุ่มครูเสดได้อีกครั้งหนึ่ง ( Crusader Groups) กลุ่มครูเสด
เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลสูงยิ่งต่อรัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกาและมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อเสถียรภาพของรัฐบาลด้วย
กลุ่มครูเสดเป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของ FED ซึ่ง FED เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นโดย ๘ ตระกูลคาทอลิกที่ร่ำรวยที่สุด
ในยุโรปและอเมริกาซึ่งครอบครองธุรกิจขนาดยักษ์ ๖ กลุ่มธุรกิจซึ่งเป็นบรรษัทข้ามชาติทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก
ที่เป็นสาขาของสหรัฐอเมริกา และ FED เป็นผู้สร้าง CIA เพื่อให้สามารถที่จะรักษาผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจของตน
ในทั่วทุกมุมโลก ( พุทธวิทยาเพื่อการปฏิวัติ ,เอกสารประกอบการบรรยายและฝึกแก้ปัญหาฝ่ายเสนาธิการ
โรงเรียนกิจการพลเรือนทหารบก กรมกิจการพลเรือนทหารบก )
๖) บรรลุเป้าหมายในการอ้างความชอบธรรมในการส่งกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ที่มีความสำคัญรวมทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งปวง
ของสหรัฐฯ ในการรักษาผลประโยชน์ของตนในทั่วทุกภูมิภาคของโลก ตามที่ทราบกันโดยทั่วไปแล้วว่า ผลประโยชน์ของ
สหรัฐอเมริกามีอยู่ทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและผลประโยชน์ทางด้านยุทธศาสตร์
สหรัฐฯ ต้องการอย่างยิ่งยวดเพื่อที่จะให้สถานการณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพที่สามารถควบคุมได้โดยองค์กรต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ
ได้ส่งออกไปแล้วในช่วงของการทำ สงครามต่อต้านการก่อการร้าย
ข้อสังเกตเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการครองอำนาจที่มีอยู่เดิมของสหรัฐอเมริกา จากหนังสือเรื่อง Hegemony of a new type
ซึ่งเขียนโดย Bezezinski โดยเนื้อหาแล้วกล่าวถึงเรื่องความเป็นเจ้าของสหรัฐฯ ที่เป็นเจ้าโลกอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เคยปรากฏ
มาก่อนที่อิทธิพลของประเทศสหรัฐฯ จะมากมายเท่านี้และในอดีตก็ยังไม่มีประเทศใดมีอิทธิพลมากมายมาก่อน ซึ่งครอบคลุม
ไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก ทหาร ครึ่งหนึ่งของงบประมาณของทหารของโลกทั้งหมด ในปัจจุบันนี้ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญ
เป็นงบประมาณทางทหารของสหรัฐฯ ( ๒๕๔๗ ) เมื่อเทียบกับ GDP ของไทย ปัจจุบัน ๑๐๐,๐๐๐ ล้านเหรียญเท่านั้นเอง
สหรัฐฯ จะต้องครองความเป็นเจ้า ๔ มิติ
ทหาร: สหรัฐฯ มีการวางกำลังทหารเพื่อควบคุมพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของโลก
สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีพลังอำนาจเหนือประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก
เศรษฐกิจ : GDP ใหญ่เป็นครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจโลก ในปัจจุบันร้อยละ ๓๐ หรือประมาณ ๑๐ ล้านล้านเหรียญ
ซึ่งเมื่อเทียบกับไทยของไทยเป็นเพียงร้อยละ ๑ ของสหรัฐฯ
เทคโนโลยี : การวิจัยพัฒนาด้านเทคโนโลยีทุก ๆ ด้านของสหรัฐฯ มีความก้าวหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด
วัฒนธรรม: ประเทศต่าง ๆ ยอมรับวัฒนธรรมของสหรัฐฯ อย่างเต็มใจ เช่น Mass Culture ๓ใน ๔ ของตลาดหนัง
มาจากสหรัฐฯ ซึ่งแทรกความเป็นฮีโรของสหรัฐฯ ตลอดเวลา ซึ่งทำให้สหรัฐฯ เข้าครอบงำทางวัฒนธรรมของสหรัฐฯ
อยู่ตลอดเวลา เช่น ภาพยนตร์ , ภาษา ,อาหาร ,การแต่งกาย , การเมือง , ระบบเศรษฐกิจ , วิชาความรู้ , อินเตอร์เน็ต ,
สหรัฐฯ ได้สร้างสถาบันการยอมรับจากทั่วโลก เช่น UN , IMF ,WB , WTO
.
จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้ครองความเป็นเจ้าครองความยิ่งใหญ่เหนือประเทศใด ๆ ในโลกมาโดยตลอด
ฉะนั้นการที่จะสูญเสียอำนาจด้านใด ๆ ไปจึงเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ทำใจไม่ได้และจะยอมไม่ได้อย่างแน่นอน
จึงจำเป็นที่สหรัฐฯ จะต้องหาวิธีการในการป้องกันตำแหน่งอันดับหนึ่งของตนเองไว้ให้ยาวนานที่สุดให้ได้
ไม่ว่าจะด้วยกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม ในฐานะที่ผู้เขียนเองได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกาและประเทศมหาอำนาจ
ที่มีนโยบายอันกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทยมายาวนาน ผู้เขียนจึงได้รับทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์
จำนวนมากในเรื่องนี้จาหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมก็ตาม โดยเฉพาะผู้เขียนเองมีญาติสนิทที่เคยทำงาน
เกี่ยวข้องกับข้อมูลต่าง ๆเหล่านี้ในสหรัฐอเมริกามาไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี ที่ได้สัมผัสทั้งสังคมอเมริกัน สัมผัสทั้งองค์กร
การเมืองในระดับสูงของสหรัฐอเมริกา การได้เป็นเจ้าหน้าที่ในระดับสูงขององค์กร ซีไอเอ การได้ดำรงตำแหน่ง
ในฐานะผู้ปรึกษาระดับสูงของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามาแล้ว ประกอบกับการสอบทานข้อมูลกับหลาย ๆ ฝ่าย
ทำให้ข้อมูลทั้งหลายมีความถูกต้องตรงกันและสามารถที่จะคาดคะเนกิจกรรมอันจะเกิดขึ้นจากการกระทำของ
ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ได้ถูกต้องแม่นยำได้ ทำให้ข้อมูลที่ผู้เขียนได้นำมากล่าวในหนังสือเล่มนี้สามารถอธิบาย
ปรากฏการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทุกเหตุการณ์ และมีหลักฐานสนับสนุนคำกล่าวทั้งหมดที่ผู้เขียน
นำมากล่าวในหนังสือเล่มนี้ด้วย
๗) ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการทำลายจีนโดยแผน ปิดล้อม ,แบ่งแยกและย่อยสลายจีนโดยสหรัฐอเมริกา
( รายละเอียดทั้งสิ้นดูได้จากเอกสารวิจัย เรื่องการใช้หลักการตามตำราพิชัยสงคราม ซุน วู
วิเคราะห์เหตุการณ์ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๔ และ สงครามต่อต้านการก่อการร้าย นักศึกษาหลักสูตรความมั่นคง
รุ่นที่ ๑๑ มหาวิทยาลัยป้องกันประเทศ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนระหว่าง ก.ย. ๒๕๔๕ ก.ย.๒๕๔๖ :
http://ARTAMART.FreeWeb-Hosting.com )
โดยสรุปเหตุการณ์ ๑๑ กันยายน ๒๕๔๔ ที่ผู้ก่อการร้ายถล่มตึกเวิร์ลด์เทรด เซ็นเตอร์ เป็นการสร้างเหตุการณ์ขึ้นของสหรัฐฯ
โดยการสร้างเหตุการณ์จูงใจให้ประชาคมโลกไปสนใจในสิ่งที่สหรัฐฯ ต้องการให้สนใจ เมื่อประชาคมโลกให้ความสนใจ
และคล้อยตามสหรัฐฯ ก็จะใช้มาตรการอื่น ๆ ให้ทุกประเทศในโลกถลำตัวมากยิ่งขึ้น บางครั้งก็ใช้ความเป็นมหาอำนาจบังคับ
ให้ประเทศต่าง ๆ ทำตามที่สหรัฐฯ ต้องการในกิจกรรมนั้น จะเห็นได้จากการที่ทุกประเทศต้องร่วมมือกับสหรัฐฯ
ในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายในเวลาต่อมา ในขณะที่กิจกรรมการก่อการร้ายเป็นเพียงกิจกรรมที่ลวงชาวโลก
ให้เห็นใจและคล้อยตามสหรัฐฯ แต่เป้าหมายที่แท้จริงมีหลายประการแต่ในจำนวนนั้นคือเรื่องการแก้ปัญหาของสหรัฐฯ เอง
ทั้งด้านเศรษฐกิจและด้านความมั่นคง เหตุการณ์นี้จึงสามารถที่จะอธิบายตามหลักการตามกลยุทธ์ ปิดฟ้าข้ามทะเล ว่า
ทำกิจกรรมอย่างหนึ่งให้คนสนใจเพื่อหวังผลต่อการกระทำอีกอย่างหนึ่งของตนที่ซ่อนเร้นไว้ไม่มีใครรู้นั่นเอง
กลยุทธ์นี้จึงสรุปว่า
สำหรับเรื่องที่มีความเคยชิน มนุษย์เรามักจะปล่อยปละละเลยต่อการระมัดระวัง มิได้ป้องกันให้เข้มงวดกวดขัน
แท้ที่จริงนั้น สิ่งซึ่งดูเป็นธรรมดาสามัญอย่างที่สุดนั้น ก็คือที่สถิตอยู่แห่งโอกาสอันยอดเยี่ยมนั่นเอง นอกจากนั้นแล้ว
การใช้กลยุทธ์นี้ในการพรางตามาปกปิดจุดประสงค์ของตนมิให้ฝ่ายตรงข้ามพบเห็นได้ง่าย เพื่อบรรลุภาระหน้าที่
ที่ได้กำหนดไว้อย่างหนึ่ง ก็สามารถใช้ได้อย่างดีเลิศมาทุกยุคทุกสมัย แม้กระทั่งในสมัยปัจจุบันนี้ประเทศมหาอำนาจ
อย่างสหรัฐอเมริกาก็ได้นำกลยุทธ์นี้มาใช้อย่างแยบยลและได้ผลจนกระทั่งปัจจุบันนี้ประชาคมโลกก็ยังถูกสหรัฐฯ
ใช้กลยุทธ์นี้พรางตาและยังไม่รู้ว่าสหรัฐฯ ใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเลเพื่อพรางตาประชาคมโลกเพื่อบรรลุ
ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เอง