ปกติตรงประตูทางเข้าอาคารก่อนCheck-Inจะไม่สามารถตรวจคนเข้าออกได้ทุกคนครับ(ตรวจทุกคนจริงๆก็ทำได้แต่จะเกิดความล่าช้ามากๆ ต้องยอมรับความเสี่ยงระดับหนึ่ง)เพราะมีทั้งคนมาส่ง คนมาทำงาน ผู้โดยสารฯลฯ หลากหลายคงตรวจได้ไม่ทั้งหมดทุกคนต้องสุ่มตรวจเอา ประกอบกับการใช้กล้อง CCTV ใช้สุนัขสุ่มตรวจเอา แต่ประตู(Gate)ก่อนขึ้นเครื่องต้องตรวจผู้โดยสารทุกคนอยู่แล้ว
ตรงนี้ต่างกับท่าต่างจังหวัดเพราะคนไม่มากตรวจทุกคนก่อนเข้าตัวอาคารได้ และตรวจผู้โดยสารอีกทีก่อนขึ้นเครื่อง
พอจะเข้าใจที่คุณ aot อธิบายแล้วครับ ผมเห็นภาพความปลอดภัยที่สูงขึ้นอีกภาพนึงที่อยากจะเพิ่มเติมครับ คือการตรวจค้นเอาก่อนขึ้นเครื่อง Separation ก็ดีอีกอย่างครับคือ ถ้าตรวจแต่ต้นทางหรือใช้ร่วม (Common use) ดูเหมือน Sterile Area จะมากก็จริง แต่ Sterile Area อาจจะกลายเป็นพื้นที่ให้นำพาอาวุธขึ้นเครื่องได้อีกครั้ง ผมก็ช่างจินตนาการนะครับ คือถ้าผม เอ๊ย ผู้ก่อการร้ายจ้างพนักงานที่ทำงานใน Sterile Area ให้หาทางนำอาวุธเข้าไปพบกันบริเวณนี้แล้วนำขึ้นเครื่อง(หากไม่มีการตรวจก่อนขึ้นเครื่องอีกครั้ง) ทีนี้ Sterile Area ก็กลายเป็น"อันตรายแอเรีย"ไปเลย แต่แบบ Separation นี่เรียกได้ว่าสภาวะปลอดอาวุธของผู้โดยสารทุกคน"ถูกอัพเดท"สุดๆกันก่อนขึ้นเครื่องเลย แต่เรื่องวางระเบิดก็เสียการป้องกันไป ที่จริงสนามบินจะคอยสอดส่องดูหีบห่อที่ไม่มีเจ้าของอยู่แล้วซึ่งก็น่าจะช่วยได้ในระดับนึง มากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่จำนวนคนและความจริงจัง ความถี่ถ้วนของรปภ.ครับ จะให้ดีก็ต้องผสมเลยครับ เอาทั้ง 2 ระบบ ทีนี้ทั้งเปลืองงบ ทั้งวุ่นวายผู้โดยสาร
การป้องกันเรื่องแบบนี้ผมว่า ธรรมะเสียเปรียบอะธรรมครับ ผู้ร้ายมันนั่งคิดนั่งหาวิธีใหม่ๆมาอยู่เรื่อย ผมเคยคิดเล่นๆว่าเป็นไปได้มั๊ยว่าสนามบินต่างๆจะมีฝ่ายนึง หรือมีบริษัทด้านรักษาความปลอดภัยเอกชน หรือใครซักคนซักองค์กร รับแสดงบทผู้ก่อการร้าย(เทียม)ทำหน้าที่คิดสารพัดวิธีที่จะลักลอบนำพาอาวุธหรือก่อการต่างๆ แล้วลองทำจริง พอผ่านได้ก็เฉลย แต่มันก็ล่อแหลม ผู้ปฏิบัติการต้องไว้ใจได้จริงๆ ครั้นจะไม่ให้นำวัตถุต้องห้ามจริงเข้าร่วมทดสอบ เครื่องมือต่างๆก็อ้างได้ว่า ก็มันไม่ใช่ระเบิดจริงๆแล้วผมจะไปDetect(ตรวจจับ)ได้ยังไงล่ะวุ้ย วิธีการทั้งหมดที่คิดและสำเร็จจนเล็ดลอดได้ต้องเก็บเป็นความลับ หรือส่งต่อให้สนามบินต่างๆเพื่อเตรียมป้องกัน
ผมไปดูเรื่อง United 93 มา ที่จริงเรื่องจี้เครื่องบินก็มีมานานแล้ว แต่หลังจากดูเรื่องนี้ ผม .. ก็ฝันเพ้อเจ้ออีกนะครับ ว่า เป็นไปได้มั๊ย (อีกแล้ว) ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันหรือในอนาคตอันใกล้ เมื่อมีระบุได้แน่ชัดแล้วว่าเครื่องบินถูกจี้ จะสามารถให้ภาคพื้นดิน Override หรือเข้าควบคุมเครื่องบินแทนนักบินได้ ผมไม่ทราบว่าระบบ Auto-pilot ที่มีอยู่ในปัจจุบันจะออโต้ได้ถึงระดับไหน จะเอามาพัฒนาจนเป็นการ Override-pilot แล้วนำเครื่องลงจอดได้ไหม ที่เพ้อเรื่องนี้เพราะเห็นว่า เรา(มนุษย์ชาติอื่นนะครับ ไม่ใช่เราพวกเราแถวนี้ ฮ่าๆๆ)กำลังพัฒนาเครื่องบินไร้คนขับ บวกกับเทคโนโลยี Auto-pilotที่มีอยู่แล้วน่าจะทำได้ไม่ยากนะครับ ให้เครื่องส่งค่าต่างๆบนCockpitลงมาเลย ภาพจริงก็ใช้กล้องที่ติดอยู่หัวเครื่อง(ซึ่งเห็นหลายเครื่องก็มีอยู่แล้ว ไว้ให้ผู้โดยสารดูวิว) เท่านี้ก็เห็นหรือรับรู้ได้พอๆกับนักบินบนเครื่องแล้ว (แรงเหวี่ยง แรงสะเทือน แรงกระแทก ฯลฯ จะไม่รับรู้) ผิดพลาดประการใดโปรดคิดซะว่าเป็นแค่จินตนาการ ฮ่าๆๆ

-มีการทดลองจริงๆมานานแล้วครับโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ International civil Aviation organisation(ICAO)ซึ่งสังกัดองค์การสหประชาชาติ จะมาสุ่มตรวจระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินสากลของชาติสมาชิก กับอีกหน่วยหนึ่งคือ Federal Aviation Authority( FAA) ของอเมริกา เทียบเท่ากรมการบินพลเรือนของไทย หน่วยนี้จะตรวจสอบระบบ รปภ. ของสนามบินที่สายการบินของอเมริกาบิยไปลงว่าปลอดภัยได้มาตรฐานสากลหรือไม่
-ตัวอย่างการทดสอบ(โดยไม่บอกหรือแจ้งสนามบินให้ทราบล่วงหน้า)เช่นพกอาวุธปืน มีด ของมีคม กระป๋องก๊าซ ฯลฯที่เป็นของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องมาทดลองลักไก่เดินผ่านเครื่องตรวจจับ ถ้าผ่านได้โดยไม่มีสัญญาณเตือน หรือมีแต่เจ้าหน้าที่ละเลยไม่มีการตรวจค้นตัว ก็จะถูกรายงานประจานไปทั่ววงการครับ ถ้า FAA เจอแล้วไม่ปรับปรุงตามข้อเสนอของเขาก็จะห้ามสายการบินของอเมริกามาบินลง
-เรื่องยึดสนามบินยอมรับว่ายึดง่ายกว่าการปล้นยึดอากาศยาน แต่ความเสี่ยงต่ำกว่าการยึดอากาศยานมาก เพราะยึดสนามบินยังไงก็ยังอยู่บนภาคพื้นดิน การจัดการ การปราบปรามสะดวกและง่ายกว่าบนอากาศหรือในตัวอากาศยานมากครับ