สืบเนื่องมาจากผมได้นำข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษามาลงไว้เมื่อคืนนี้ ซึ่งมีข้อผิดพลาดมากเพราะไม่ได้เห็นข้อสอบตัวจริง ผมได้ข้อสอบฉบับเต็มมาแล้วจึงขอลงไว้แทนครับ
คำถามข้อ ๙ นายใบกับครอบครัวประกอบอาชีพทำนาในเนื้อที่ ๓ ไร่ และยังเลี้ยงปลาในนาข้าวนั้นควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้นายใบปลูกกระต๊อบไว้ในที่นาเพื่อพักผ่อนและเก็บเครื่องสูบน้ำกับเครื่องมือทำนาไว้ ก่อนเกิดเหตุเคยมีคนร้ายลักทรัพย์ดังกล่าวไป เพื่อนบ้านก็ประสบเหตุเดียวกันทั้งขณะนั้นข้าวเปลือกก็มีราคาสูงมาก ต่อมานายใบต้องเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครเพื่อจัดหาหอพักให้ลูกสาวที่กำลังจะเข้าเรียนเนติบัณฑิต จึงขึงเส้นลวดรอบที่นาสามด้านเว้นด้านที่มีกระต๊อบซึ่งนายใบขึงลวดล้อมรอบกระต๊อบไว้แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านเข้าเส้นลวดทั้งหมดเพื่อป้องกันคนร้าย คืนเกิดเหตุนายจกเข้ามาในนาข้าวของนายใบเพื่อจะจับปลา แต่สัมผัสเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าถึงแก่ความตาย ส่วนนายน้อย นายเป็ด และนายห่าน เข้ามายังที่นาผ่านด้านที่นายใบไม่ได้ถึงลวดไว้เพื่อลักทรัพย์ที่เก็บไว้ในกระต๊อบ โดยนายน้อยเพียงคนเดียวถือชะแลงมาด้วย ๑ อัน ระหว่างใช้ชะแลงงัดแงะประตูกระต๊อบ นายน้อยสัมผัสลวดที่มีกระแสไฟฟ้าซึ่งขึงรอบกระต๊อบถึงแก่ความตาย นายเป็ดและนายห่านเห็นดังนั้นก็หลบหนีไป ระหว่างนั้นนางส้มภรรยาของนายใบตื่นขึ้นมาเห็นทั้งสองคนวิ่งหนีไปหลังไว ๆ จึงคว้าปืนลูกซองซึ่งเหน็บไว้ที่ฝาเรือนยิงไป ๓ นัด ถูกนายห่านที่บริเวณหลังได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายเป็ดหลบหนีไปได้
ให้วินิจฉัยว่า นายใบและนางส้มมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญาฐานใดหรือไม่.
ปีนี้ไม่ได้ไปสอบ แต่ขอลองหน่อย

แม้นายใบ จะมีสิทธิกระทำการใดๆเพื่อป้องกันทรัพย์สินของตนจากภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ก็ตาม แต่่การที่นายใบ้ใช้ขึงลวดล้อมรอบกระต๊อบไว้
แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านเข้าเส้นลวดทั้งหมด เป็นเหตุให้นายจก และนายน้อย สัมผัสเส้นลวดที่มีกระแสไฟฟ้าจนถึงแก่ความตาย
การกระทำของนายใบ จึงเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำ
การที่นายใบ ใช้ขึงลวดล้อมรอบกระต๊อบไว้แล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าจากบ้านเข้าเส้นลวดทั้งหมดนั้น
ย่ิอมเล็งเห็นได้ว่า หากมีผู้ใดมาสัมผัสสายลวดซึ่งมีกระแสไฟแล้ว ผู้นั้น สามารถได้รับอัตรายถึงแก่ชีวิตได้
นายใบ จึงมีความผิดฐาน เจตนาฆ่า นายจกและนายน้อย อันเป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุครับ
ส่วนนางส้ม การที่นายเป็ดและนายห่านวิ่งหนีออกจากกระต๊อบไปแล้วนั้น ต้องถือว่าภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีเหตุที่จะใช้สิทธิป้องกันอีกต่อไป
ดังนั้น การที่นางส้มภรรยา ใช้ปืนลูกซอง ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีอานุภาพสามารถทำอันตรายถึงชีวิตได้ ยิงไล่หลังนายห่าน และนายเป็ดไปถึง ๓ นัด
ย่อมถือว่านางล้มมีเจตนาฆ่าผู้อื่น และไม่เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตาม มาตรา ๖๘
เมื่อนายห่าน และนายเป็ดไม่ถึงแก่ความตาย เพราะกระสุนถูกนายห่านที่บริเวณหลังได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายเป็ดหลบหนีไปได้
นางส้มจึงมีความผิดฐานพยายามฆ่า นายห่าน และนายเป็ด ตามประมวลกฎหมายอาญาครับ