อย่างนี้ถ้าใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ (สูงกว่าความเร็วกระสุนเลย ถ้าเป็นไปได้นะครับ) ก็น่าจะลดการเกิดปรากฎการณ์แบบนี้ได้ใช่ไหมครับ
ในทำนองเดียวกันถ้าถ่ายด้วยกล้องวีดีโอก็จะเกิดปรากฎการณ์แบบนี้หรือเปล่าครับ เพราะผมมองว่ากล้องวีดีโอ ไม่ได้ใช้ชัตเตอร์ในการถ่ายภาพ แต่ใช้ระบบฟิล์มเลื่อนจากบนลงล่าง หรือซ้ายไปขวา ก็น่าจะมีผลเหมือนกันใช่ไหมครับ แต่ถ้าเป็นกล้องวีดีโอระบบดิจิตอลละครับจะเป็นยังไง.... ยิ่งคิดก็ยิ่งงง... แฮะ...

ในกรณีที่เราตั้งชัตเตอร์แบบ B (ย่อมาจากคำว่า Bulb ซึ่งหมายถึงหลอดไฟแฟลชสมัยก่อน เราต้องตั้งชัตเตอร์แบบ B เท่านั้น เพราะแสงไฟจากแฟลชชนิดหลอดจะออกมาช้ามาก ขืนใช้ชัตเตอร์ธรรมดา หน้ากล้องจะปิดไปเสียก่อน ยังไม่มีเวลาให้แฟลชได้ส่องพอ บางกล้องใช้อักษร T = Time คือกดชัตเตอร์ครั้งแรก มันจะเปิดหน้ากล้องค้างไว้ กดครั้งที่สองหน้ากล้องจะปิด) นั้น หมายถึงว่าพอเรากดชัตเตอร์ค้างไว้ หน้ากล้องก็จะเปิดเต็มที่ หรือม่านก็จะเปิดจนหมด แต่ด้วยที่ว่าเราจัดห้องที่มืดสนิท ฟีล์มจึงไม่ได้บันทึกอะไรลงไป จนกว่าเราจะปล่อยแฟลช แสงแฟลชไปกระทบวัตถุใดก็จะสะท้อนให้ภาพวัตถุนั้น ไปตกกระทบบนแผ่นฟีล์ม (สมัยนี้กลายเป็น sensor ไปแล้ว) ด้วยกระบวนการเช่นนี้ จึงไม่มีผลทำให้เกิดภาพและเงาที่ต่างกันได้ ที่จริงนอกจากห้องต้องมืดแล้ว เรายังควรต้องจัดฉากหลังเป็นผ้าดำที่ไม่สะท้อนแสงด้วย ไม่งั้นแสงสะท้อนจะทำให้ไม่ได้ภาพวัตถุหรือสิ่งของที่ต้องการออกมาสวยงาม
อนึ่ง วิธีแบบนี้มักต้องตั้งแฟลชที่ความเร็วสูง ๆ เพื่อจับภาพวัตถุซึ่งมักจะเป็นของที่เคลื่อนไหวเร็วมากอยู่แล้ว
Flash sync speed กับ flash speed นั้นไม่เหมือนกัน Flash sync speed หมายถึงความเร็วสูงสุดที่กล้องจะใช้ได้กับแฟลชตัวนั้น โดยที่จะยังคงให้ภาพที่แสงแฟลชส่องเต็มกรอบ กล้องที่ใช้ leaf shutter อาจมี Flash sync speed สูงถึง 1/1000 วินาที แต่โดยทั่วไปเราอาจใช้ 1/250 วินาที แต่กล้องแบบที่เป็น Two-curtain shutters มี Flash sync speed สูงราว 1/125 วินาทีเท่านั้น ถ้าเราตั้งชัตเตอร์เร็วกว่านี้ รูปออกมาจะมืดไปด้านหนึ่ง ส่วน flash speed นั้น หมายถึงช่วงเวลาที่แฟลชส่องแสงออกมา หรือบางทีเรียกว่า flash ratio คือในกรณีที่เราจะไม่ใช้ความสว่างของแฟลชเต็ม 100 % เช่นการใช้แฟลชร่วมกันหลายตัว เพื่อให้ได้รูปที่มีเงางดงามลงตัวเป็นต้น เราก็ต้องตั้งความสว่างของแฟลชให้น้อยลง ซึ่งก็คือการลดเวลา หรือ duration ของแฟลช ผลก็คือ แสงแฟลชจะส่องออกมาเพียงเวลาสั้น ๆ เช่น 1/20000 หรือ 1/60000 วินาที
ส่วนกล้องวิดีโอนั้น ไม่มีกลไกของชัตเตอร์แต่ใช้กระบวนการทางอีเล็คโทรนิคแทน คือถ้าเราตั้งความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/60 ก็หมายความว่า ทุก ๆ 1/60 วินาที ระบบจะเก็บค่าหรือข้อมูลภาพบนตัวรับภาพหรือ sensor ไปประมวลผลเพื่อเก็บบันทึกลงในแผ่นความจำ ดังนั้นจึงไม่มีผลทำให้เกิดภาพและเงาที่ต่างกันได้